[นิยายแปล]ครูผู้กล้า - ตอนที่ 4
Ch.4 – จ้าวปีศาจกับการสอบเข้าสถาบัน
Provider : พระเอกนี่ห้าวจังเลย
CHAPTER 4 จ้าวปีศาจกับการสอบเข้าสถาบัน
เมื่อเดินทางมาถึงเป้าหมายก็พบเจอกับคนจำนวนมาก
เนื่องจากที่นี่เป็นสถาบันเตรียมทหารจึงสามารถเห็นพวกผู้คนใส่ชุดทหารสีดำหนาแน่น
「ที่นี่สินะที่ใช้ฝึกฝนพวกผู้กล้า?」
『ค่ะ แต่ว่านั่นไม่ใช่ว่านักเรียนทุกคนอยากจะเป็นผู้กล้าแต่พวกเขาเป็นไม่ได้ค่ะ.』
「หมายความว่ายังไงล่ะนั่น?」
『อย่างที่ท่านทราบ ผู้กล้าทุกคนนั้นได้รับการปกป้องและพรจากทวยเทพ คนเหล่านี้เรียกว่า 「ตัวแทนแห่งแสง」 แน่นอนว่าดิฉันก็เคยเป็นเช่นกัน จนกระทั่งท่านลูซิเฟอร์จับดิฉันเป็นภรรยาเนี่ยแหละคะ』
พอมาลองก็เห็นเรนะก่อนที่จะกลายมาเป็นของผมตอนนั้นพูดว่า 『ดิฉันจะไม่ได้รับการคุ้มครองจากเหล่าทวยเทพแล้วสินะคะ』 ทันทีที่พวกเราหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกัน (TN:ต้องอธิบายไหมครับ?)
แต่ว่านั่นก็ทดแทนด้วยที่ว่า ผมให้พลังทดแทนกลับไปตอนนี้เธอแกร่งกว่าเดิมหลายเท่าแล้วเธอก็กลายเป็นปีศาจแล้วด้วย
『ทวยเทพไม่ได้มอบพลังให้กับมนุษย์เพียงผู้เดียวแต่ยังมอบให้กับเหล่าเอลฟ์ ครึ่งสัตว์ และ มังกร ซึ่งเผ่ามารนั้นไม่ได้รับพรด้วยเลย』
「อืม เดิมทีพวกเราก็แข็งแกร่งกันอยู่แล้วแม้จะไม่ได้รับพรจากทวยเทพ」
『ค่ะ มีเพียงไม่กี่คนที่ได้เป็น 「ตัวแทนแห่งแสง」 ในจักรวรรดินั้นการที่ได้เป็นก็เท่ากับได้รับสิทธิ์มากมาย
อย่างเช่น การเป็นเจ้าหน้าที่ทางการทหาร หรือ เป็นได้กระทั่งนายก.』
「เอ่อ…ถ้างั้นหมายความว่าพวกที่จะเป็นผู้กล้านั้นถูกเลือกจากเหล่า 「ตัวแทนแห่งแสง」 ยังงั้นเหรอ.」
『ค่ะ หากต้องการจะเป็นผู้กล้าแล้วละก็ต้องมีความเหมาะสมเสียก่อน โดยเฉพาะอย่างยิ่งต้องจบในระดับชั้น นักเรียนทุน แล้วก็เกณฑ์การบริจาคของคนๆนั้นด้วย ดังนั้นการจะเข้าเฉยๆคงเป็นไปไม่ได้แม้จะเป็นตัวแทนแห่งแสงก็ตาม』
「มีการสอบเข้าแบบนั้นด้วย? 」
『ถูกต้องแล้วค่ะ…หากได้ยอมรับให้ทำการสอบเข้าโดยเป็นนักเรียนทุน ก็จะได้สิทธิ์มากมายหลังจากนั้นก็คงจะได้เป็นผู้กล้าไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง.』
ขี้เกียจอธิบายสินะเนี่ย เธอน่ะ?
กลไกนั้นก็ง่ายๆ เอาตามตรงใครแกร่งสุดก็ถูกเลือกเป็นผู้กล้า แค่นั้นแหละ
『แต่ท่านลูซิเฟอรคะ ท่านต้องการจะรับบททดสอบนั่นจริงๆเหรอ? 』
「อืมก็ไม่รู้นี่น่าว่าพวกผู้กล้าฝึกเช่นไร หากไม่รับการสอบแบบนั้นก็ไม่รู้หรอก แล้วก็ตำแหน่งนักเรียนทุนมันคงจะล็อคที่นั่งไว้สำหรับพวกตัวแทนแห่งแสงอย่างเดียวงั้นเรอะ? 」
『ตามกฏแล้วก็มีคนที่ไม่ได้เป็นอยู่ด้วยค่ะ ดังนั้นมันก็มีความเป็นไปได้ที่นักเรียนธรรมดาจะสามารถเข้าเป็นนักเรียนทุนได้ อย่างไรก็ตามมันผ่านมา 500 ปีแล้วไม่แน่ใจจริงๆค่ะว่าจะเป็นเช่นนั้นอยู่.』
「เอาล่ะ ทำไมไม่ลองสักหน่อยละเป็นไง」
หลังจากพูดเช่นนั้น ผมก็เดินผ่านประตูโรงเรียนและเข้าไปในอาคารดูเหมือนจะไม่ได้ระวังเรื่องความปลอดภัยมากนัก
ไม่นานก็พบกับโต๊ะต้อนรับและเมื่อมุ่งหน้าไปที่นั่นก็พบกับเอลฟ์สวมแว่น ซึ่งดูเหมือนจะเป็นไกด์พูดกับผม
「อยากจะสมัครเข้าเรียนงั้นเหรอค่ะ?」
「ครับ」
「อยากรับบททดสอบแบบไหนคะ?」
「เอ๋? อ่อ เอาบททดสอบของนักเรียนทุน? แบบนั้นแล้วกันครับ 」
เมื่อผมพูดเช่นนั้นใบหน้าของพนักงานต้อนรับก็เปลี่ยนไปทันที เธอมองมาราวกับไม่เข้าใจความต้องการของผม และก็ค่อยๆดูถูกผมเรื่อยๆ
「ขออนุญาตินะคะ ได้อ่านหนังสือการสอบเข้ารึเปล่าคะ?」
「ไม่ได้อ่านอ่ะ รู้แค่ว่าตำแหน่งนักเรียนทุนมันเจ๋งสุดแล้วใช่ไหมล่ะครับ? ก็อยากเข้านะ」
จากนั้นก็โดนหัวเราะใส่
「การสอบขั้นพื้นฐานจะขึ้นอยู่กับความเชี่ยวชาญแต่ละบุคคลนะคะ เช่น ด้านเวทมนตร์ ด้านการใช้ดาบ และ ศิลปะป้องกันตัว」
「นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมถึงบอกว่าจะไม่เอาแบบธรรมดายังไงล่ะครับ ก็อยากเข้าแบบนักเรียนทุนไม่ได้เหรอ?」
ดูเหมือนพนักงานต้อนรับจะอารมณ์เสียหน้าดูเมื่อไรยินแบบนั้น
เธอถอนหายใจออกมาอย่างหมดแรงแล้วกล่าว
「ดูเหมือนจะไม่มีจดหมายแนะนำตัวสินะคะ จดหมายแนะนำจากพวกขุนนาง หรือ จดหมายจากนายพล」
「อะไรกันครับ? ต้องการเจ้านั่นด้วยเหรอ」
「มันเป็นเรื่องพื้นฐานเลยล่ะคะ」
「ถ้าเป็นแบบนั้น แม้ว่าผมจะไม่มีมันก็ไม่สามารถเข้าสอบได้? มันก็แค่การทดสอบเองนะครับ」
มุมปากของเธอยกขึ้น ซึ่งนั่นเป็นการกระทำของเอลฟ์ที่หยิ่งในศักดิ์ศรี
…… เริ่มรู้สึกอึดอัดแล้วสิ ฆ่าเลยดีมะ?
「เพื่อให้ได้การยอมรับว่าเป็นนักเรียนทุน จำเป็นต้องมีทั้งสามอย่างที่กล่าวมา การทดสอบด้านเวทย์ ด้านวิชาดาบ และด้านศิลปะป้องกันตัว เฉพาะผู้ที่ได้รับการยอมรับจากผู้ตรวจสอบเท่านั้นถึงจะได้เข้าตำแหน่งนักเรียนทุนค่ะ」
「อืม ผมเข้าใจดีครับ เพราะงั้นแหละจะเอามาให้ดูเองครับ」
ผมตอบในทันที
「ก็ดีค่ะ ถ้าอย่างงั้นขอเชิญให้ออก…เดี๋ยวได้ฟังที่ฉันพูดไหมค่ะเนี่ย!?」
「ก็เพราะฟังแล้วน่ะสิ ผมถึงยิ่งฮึกเหิมเข้าไปใหญ่ เอาตรงๆ แค่คว้าที่หนึ่งมาก็พอใช่ไหมละครับ?」
เรนะอยากจะบ่นอุบว่า 『อะร่า? ไม่คิดเลยว่าจะกลายเป็นแบบนี้ 』 สงสัยจังเลยค่ะ?
ยังไงก็ดูน่าสนใจดีเพราะงั้นจะคอยดูอยู่เงียบๆละกันค่ะ
「แล้วนายจะต้องเสียใจ.」
「ไม่เสียใจหรอกน่า ดังนั้นก็รีบดำเนินการได้แล้วครับ」
「นายแน่ใจจริงๆนะ?」
「อย่าให้ผมต้องพูดซ้ำอีกครั้ง บอกให้ทำก็ทำสิครับ」(TN:ปล่อยจิตสังหารออกมาเล็กน้อย)
「……ฮฮี้~!!」
พนักงานต้อนรับลงไปนั่งกับพื้นพร้อมกับใบหน้าที่ตกใจกลัวสุดขีด
『ท่านลูซิเฟอร์ค่ะ』
「ขอโทษด้วยนะครับ」
เรนะเตือนผมอย่างเงียบๆ
เกือบไปแล้ว ผู้หญิงคนนั้นเกือบจะปลิวกลายเป็นเศษเนื้อไปแล้ว ถ้าผมไม่ผนึกพลังไว้ที่เทเลเบลย์
กับเธอที่เป็นแค่เอลฟ์ที่ไร้พิษภัยนี่คงได้ตายไปแล้วแน่ๆ
พนักงานต้อนรับหลายคนมุ่งเข้ามาเมื่อสังเกตเห็นถึงสิ่งผิดปกติ ต้องระวังหน่อยแล้ว
ในระหว่างนี้เองผมก็พูดคุยกับหนึ่งในนั้น
「ได้โปรดรีบๆหน่อยได้ไหมครับ อยากจะสมัครเรียน」
「เอ๋? อ่าาา, ได้…ถ้างั้นกรอกแบบฟอร์มซะ」
พนักงานต้อนรับเริ่มปฏิบัติต่อผมด้วยท่าทีแข็งกร้าว เพราะตอนนี้เขาเป็นห่วงเอลฟ์ที่ช็อคไปแล้ว
เอลฟ์คนนั้นเป็นลมและก็น้ำลายฟูมปาก
ตายแล้วงั้นเหรอ? ช่างเถอะไม่สำคัญ ไม่ใช่ความผิดผมซะหน่อย
ผมหยิบกระดาษตามที่ได้รับมาและยกคิ้วไปยังช่องว่างนั้น
「ชื่องั้นเหรอ… เขียนชื่อจริงไม่ได้ซะด้วยสิ.」
『ดิฉันคิดว่าคงไม่เป็นไรหรอกค่ะ.』
นั่นมันได้งั้นเหรอ? ยังไงก็ตามตอนที่พักที่โรงแรมผมก็เขียนชื่อเช่นนั้นไป ท้ายที่สุดแล้วก็คิดชื่อที่ค่อนข้างธรรมดา
อ่า…… ได้สิ
「『ทีโอดอร์』」
ผมขอให้เรนะลิสต์รายชื่อไว้ให้ ผมก็เลยใช้ชื่อที่ผมเลือกเอง
จากนี้ไปชื่อของผมในจักรวรรดิคือทีโอดอร์ ไม่มีนามสกุลเพราะไม่ใช่ขุนนาง
「อืม เขียนแล้วนะ ตาลุง」
「โอ้ อืม อืม….. เอ๋!? เอาแบบนี้จริงดิ!?」
รู้สึกเหมือนได้มาเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง ดังนั้นไม่ได้ใส่ใจพนักงานต้อนรับเลยสักนิดที่ตะโกนไล่หลังมา