[นิยายแปล]กาวฮีล - ตอนที่ 62
Ch.62 – บ้านของปาร์ตี้
Provider : นาร์เซน่าสายรุก
Chapter 16 : บ้านของปาร์ตี้
—มุมมองราอุส—
「เรื่องบางอย่างที่พวกเราต้องคุยกันงั้นเหรอ?」
นาร์เซน่าจ้องมองมาที่ผมด้วยความจริงจัง
เพราะว่ารู้สึกกลัวเธอจึงย้ำคำพูดของเธออีกครั้ง
ใบหน้าของผมแข็งขึ้นมาเพราะความรู้สึกแย่ที่ไม่สามารถรู้ได้เลยว่าเธอจะทำอะไร
แต่นาร์เซน่ายังคงบ่นต่อโดยไม่สังเกตเห็นถึงท่าทางของผม
「บ้านของตี้ง่าาาาาห์! ทำไมไม่ซื้อบ้านของปาร์ตี้สักทีค่าา!」
「-!」
……แล้วสิ่งที่เธอพูดออกมานั้นก็ทำให้ผมสังหรณ์ใจไม่ดี
「พะ-พวกเราเองก็ได้เงินมาเยอะมากเลยใช่ไหมละคะจากการปราบนกฟีนิกซ์ นะ-นอกจากนี้ความสัมพันธ์ของเราก็ก้าวหน้าไปด้วยดี…..ไม่ใช่สิแบบนั้นไม่ใช่เลยค่ะ! อืม ไม่ได้หมายความว่าเราเข้ากันไม่ได้หรอกนะค้า…อะเอ่ออืม…จะพูดยังไงดีล่ะ…ใช่แล้วเพื่อเชื่อมความสัมพันธ์ ฉันคิดว่ามันดีมากเลยนะคะที่จะเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างสมาชิกปาร์ตี้!」
หน้าของเธอแดงขึ้นขณะที่เธอเริ่มพูดเร็วขึ้น
เกือบครึ่งหนึ่งที่เธอพูดนั้นเป็นเรื่องที่ไม่เข้าใจเลย แต่จากคำพูดของเธอมันก็เพียงพอแล้วว่านาร์เซน่าต้องการบ้านสำหรับปาร์ตี้
ถ้านาร์เซน่าเปรีนบดั่งสัตว์มีหาง หางของเธอก็คงส่ายไปมาอย่างแน่นอน
「อะ-อืมมมมมมม………」
แต่ผมก็ไม่สามารถตอบเธอได้ในทันที
จากท่าทางของเธอแล้ว นาร์เซน่าเองก็อยากมีปาร์ตี้มานานพอตัวเหมือนกัน
อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้เองนาร์เซน่าก็ยื่นข้อเสนอมาหลายครั้ง
…แต่ปัจจุบันผมไม่มีความตั้งใจที่จะซื้อบ้านเลย
ไม่ว่านาร์เซน่าจะต้องการมันแค่ไหนก็ตาม
เพื่อบอกเธอแม้ว่าจะต้องเจ็บใจแต่ก็ต้องพูด
「มะ-มันไม่เร็วเกินไปหน่อยเหรอที่จะซื้อบ้านสำหรับปาร์ตี้?ดะดูสิควรจะเก็บเหล่านี้ไว้ดีกว่านะในยามฉุกเฉิน……บางทีละนะ…」
คำพูดที่ออกมาจากปากของผมมันไม่ใช่แม้แต่จะเป็นข้ออ้าง
แม้แต่ในเมืองเขาวงกตนี้ผมกับนาร์เซน่าที่เอาชนะไฮดร้ากลายพันธุ์กับนกฟีนิกซ์ก็มีเงินใช้เหลือเฟือ
เพราะฉะนั้นไม่มีอะไรให้เราต้องทำเงินไปมากกว่านี้
นาร์เซน่าเองก็ตระหนักได้ถึงสิ่งนั้น
「……กะก็ใช่น่ะแหละคะ พะพี่ชายก็พูดถูก….สิ่งสำคัญคือความพร้อม…… สะสำหรับอนาคตใช่ไหมละคะ?」
…อย่างไรก็ตามเธอรู้เรื่องนั้น เธอก็รู้สึกได้ว่าผมไม่เห็นด้วยจึงจะพยายามไม่เซ้าซี้
เธอยิ้มด้วยรอยยิ้มแหยๆซึ่งแตกต่างจากรอยยิ้มปกติที่เธอเคยยิ้มให้ผม
「อะฮะฮะ ถ้างั้นขอฉันไปเดินเล่นให้หัวมันโล่งหน่อยนะคะ..」
นาร์เซน่าขำออกมาพร้อมกับหันหลังแล้วเดินออกไป
ผมรู้สึกได้ว่าเหมือนเธอกำลังเสียใจจนหางที่สั่นนั่นหงอยไปเลย ผมที่เห็นสภาพเธอเช่นนั้นก็เจ็บปวดด้วยความรู้สึกผิด
ถึงอย่างงั้นผมก็ไม่สามารถตามเธอไปได้……
◇ ◆ ◇
—มุมมองนาร์เซน่า—
「เฮ้อ อย่างที่คิดไปได้ไม่สวยสินะ.」
หลังจากบอกพี่ชายว่าจะออกมาเดินเล่นในเมืองขณะที่รู้สึกหดหู่
ฉันรู้ดีอยู่แล้วว่าพี่ชายไม่อยากได้บ้านสำหรับปาร์ตี้
เพราะว่าไม่ว่าฉันจะถามไปสักกี่ครั้ง พี่ชายเค้าก็ไม่เห็นด้วยตลอด
ฉันไม่ได้โง่พอที่จะไม่ตระหนักถึงพี่ชายที่ลังเลจะซื้อบ้านสำหรับปาร์ตี้หรอกนะ
「…ไม่ใช่เพราะเขาเกลียดฉันหรอกใช่ไหมนะ?」
……อย่างไรก็ตามฉันมักจะขอให้พี่ชายซื้อบ้านเสมอ เพราะฉันค่อนข้างกังวลเป็นอย่างมาก
ถ้าพี่ชายอนุญาติมันก็เป็นเหมือนหลักฐานว่าพี่ชายเองก็ไม่ได้รังเกียจฉันไง
ด้วยความคิดเช่นนั้น ฉันพยายามจะถามพี่ชายเกี่ยวกับบ้านของปาร์ตี้หลายรอบ
รู้ทั้งรู้ว่าสร้างปัญหาให้เขา
「…ฉันเนี่ยมันดูไร้ความหวังมากเลยสินะ」
ฉันรู้สึกผิดที่พยายามทำแบบนั้นและพึมพำเช่นนั้น
แต่ถึงอย่างงั้นก็ไม่สามารถหักห้ามใจตัวเองได้
เหตุผลก็คือความคิดที่พี่ชายมีต่อฉันมันเปลี่ยนไป
ก่อนหน้านี้ตอนที่ฉันไปขอเรื่องบ้านสำหรับปาร์ตี้พี่ชายไม่ได้ปฏิเสธตรงๆ
เขาทำเหมือนว่ากำลังเตือนฉัน เห็นได้ชัดว่ายังดูหงอยๆอยู่
…แต่เมื่อเร็วๆนี้ดูเหมือนว่าเขาไม่คิดจะทำเช่นนั้นเลย
ตอนนี้เขาค่อนข้างใจเย็น แต่พี่ชายก่อนหน้านี้จะดูกระสับกระส่ายเป็นอย่างมากเมื่อฉันพูดเกี่ยวกับบ้านของปาร์ตี้
ยิ่งไปกว่านั้นเขาปฏิเสธที่จะซื้อบ้านสำหรับปาร์ตี้ด้วยความแน่วแน่และยังมีช่วงเวลาที่เขา ไม่ให้เราอาศัยโรงแรมเดียวกันอีก แถมหน้าเขายังแดงอีกด้วย
ฉันจัดการพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องแยกกันอยู่ในโรงแรมว่าจะไม่ไปไหนเด็ดขาด
แต่ถึงอย่างงั้นฉันก็โล่งใจไม่ได้อยู่ดี
หลังจากนั้นก็เห็นได้ชัดเลยว่าพี่ชายมองฉันเปลี่ยนไป
แล้วฉันก็ไม่รู้ด้วยว่าทำไม
นั่นคือสาเหตุที่ฉันอดกังวลไม่ได้
บางทีพี่ชายคงจะเกลียดฉันสินะ?
…ทุกครั้งที่คิดเช่นนั้นฉันรู้สึกเหมือนใจจะแตกสลาย
ทุกครั้งที่รู้สึกเช่นนั้นก็ได้แต่บอกกับตัวเองว่าพี่ชายไม่ใช่คนแบบนั้น เพราะเขาปฏิบัติต่อฉันดีมากๆ
แต่ยังไงก็ยังไม่สามารถขจัดความกังวลได้
บางทีเพราะเป็นเช่นนั้นฉันเลยกังวลขึ้นมาอีก
「เฮ้ออออ~…」
ฉันถอนหายใจเล็กน้อยด้วยความกังวล
ในเวลาเช่นนี้ควรจะปรึกษากับใครสักคนดีกว่า
ยังไงก็ตามทุกคนที่ฉันรู้จักในตอนนี้ก็ต่างไม่มีใครมีประสบการณ์ด้านความรักทั้งนั้นเลย
「หืมมม? แต่ว่าฉันรู้สึกได้ว่ามีบางคนที่เหมือนจะมีประสบการณ์ด้านความรักมากมาย……」
รู้สึกเช่นนั้นเหมือนกับลืมใครบางคนไป ฉันก็เริ่มขุดคุ้ยความทรงจำออกมา
「แหม แหม นาร์เซน่านี่น่า มาทำอะไรที่นี่งั้นเหรอ?」
「อิย๊าาาห์!」
ตอนนั้นเองก็ถูกเรียกมาจากด้านหลัง
ในขณะที่คิดไม่ได้ตระหนักถึงเลยว่ามีใครอยู่ข้างหลัง ฉันที่ถูกเรียกอย่างกระทันหันก็ส่งเสียงแปลกๆออกมา
มันเป็นเสียงที่ฟังดูงี่เง่ามากๆและมันทำให้ฉันอาย
「อ่าาาา………」
ยังไงก็ตามหลังจากหันไปมองคนที่เรียกฉันก็ตกใจมากจนลืมความอายไปเลย
คนที่อยู่ด้านหลังคือคนที่ฉันลืมไปนั่นเอง คนที่มีประสบการณ์ด้านความรักมากมาย
「อืมม เธอไม่เป็นไรนะ-…」
「ไลลาซังงงงงงงงงง!」
ช่วงเวลาต่อมาฉันพูดโดยไม่สนใจอีกต่อไป
「ไลลาซังขอฉันปรึกษาด้วยหน่อยได้ไหมคะ?!」
「……เอ๋?」
เมื่อได้ยินเสียงแห่งความสิ้นหวังของฉันไลลาซังก็ทำหน้าประหลาดใจ……
◇ ◆ ◇
—มุมมองไลลา—
「คือจริงๆแล้วตอนนี้ฉันกังวลว่าพี่ชายเกลียดฉันรึเปล่าน่ะ…」
พวกเราอยู่ในคาเฟ่ที่เงียบสงบแห่งหนึ่ง
ภายในร้านมีบรรยากาศที่อบอุ่นหลายๆคนกำลังผ่อนคลาย
…แต่ในหมู่พวกเขาเหล่านั้นฉันอยู่ในสถานการณ์วิกฤตน่ะสิคะ
「ฉะ-ฉันไม่คิดว่ามันเป็นแบบนั้นหรอกนะจ้ะ.」
ขณะที่ทำท่าทางสงบฉันตอบคำถามของนาร์เซน่า
อย่างไรก็ตามความเป็นจริงเหงื่อนั้นเต็มฝามือของฉันไปหมดแล้วละค่า
「งะงั้นเหรอคะ?ฉันเองก็ยังกังวลอยู่เลยคะ แต่ว่าคนที่มีประสบการณ์ด้านความรักมากมายอย่างไลลาซังพูดเช่นนั้นละก็」
T์N:ขนาดไลลาซังยังเกือบแห้วเลยนะเธอ
「โอเคงั้นเหรอ?」
เมื่อได้ยินคำตอบของฉันนาร์เซน่าก็ยิ้มออกมาอย่างโล่งใจหละ
อย่างไรก็ตามรอยยิ้มที่น่ารักของเธอทำให้เหมือนกับว่าเธอกำลังกดดันฉันยังไงยังงั้นล่ะคะ
……เป็นความเข้าใจผิดของนาร์เซน่า ทำให้ฉันถึงกับจนมุมเลยละคะ
เห็นได้ชัดดูเหมือนเธอจะคิดว่าดิฉันมีประสบการณ์โชกโชนละคะ
แต่ความจริงนั้นต่างกันอย่างสิ้นเชิงเลย
เอาจริงแล้ว ฉันเป็นเพียงคนที่มีความรักเลเวล 1 เท่านั้นละค่าและตอนนี้ยังไม่มีทีท่าจะออกดอกออกผลเลย
นาร์เซน่าต่างหากละค้าที่มีประสบการณ์มากกว่าดิฉัน
……แต่ดิฉันเองก็ไม่สามารถบอกออกไปเช่นนั้นได้หรอก เพราะว่าเธอทำท่าทางจริงจังจะมาปรึกษาเรื่องสำคัญเรื่องก็เลยลงเอยอีหรอบนี้นี่ละ
ถ้าดิฉันรู้ว่าเป็นการปรึกษาเรื่องความรักละก็ ดิฉันจะเผ่นด้วยความเร็วแสงเท่าที่ทำได้ ฉันละเกลียดตัวเองจริงๆคะที่รับคำขอของเธอเมื่อสองสามนาทีก่อน
ในตอนนั้นตอนที่เราปราบนกฟีนิกซ์ด้วยกันฉันรู้สึกว่าตัวเองทำอะไรไม่ได้มากเลยหากเทียบกับราอุสแล้ว และเราก็ยังอยากจะช่วยอาร์เมียชดใช้ความผิด ฉันจึงรับคำขอของเธอมาโดยไม่ลังเลเลยละ
แต่ว่าตอนนี้ดิฉันทราบซึ้งแล้วละคะ
ว่านี่เป็นดั่งหายนะที่เข้ามาหาคนโสดเช่นดิฉันคนนี้
「จริงๆแล้วพี่ชายก็ดูเหมือนจะลุกลี้ลุกลนและบอกว่าเขาต้องการให้พวกเรานอนแยกโรงแรมกันค่ะ……」
「…ฉันไม่คิดว่าเธอไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องนั้นไปหรอกค่ะ.」
สิ่งที่ทำให้ดิฉันเสียใจคือการที่ดิฉันต้องมาฟังใครบางคนมาพูดถึงคนที่ตัวเองรัก แถมความสัมพันธ์ยังดีกว่าดิฉันอีกค่ะ
ขณะที่ฉันตอบนาร์เซน่า ฉันก็เกือบจะถอนหายใจออกมา
นาร์เซน่านี่ก็หัวทึบเหมือนกัน แต่เห็นได้ชัดเจนเลยเหตุผลที่ราอุสต้องการให้เธอนอนแยกโรงแรมกับเขาเพราะเขาเห็นเธอเป็นเพศตรงข้ามยังไงล่ะ
นั่นไม่ใช่สิ่งที่แย่ซักหน่อย
………ไม่เหมือนกับซีคที่อาศัยบ้านหลังเดียวกันกับฉันแต่ไม่มีปฏิกิริยาอะไรเลยไอ้บ้าเอ้ย
「แต่ว่าพี่ชายไม่เคยตกลงที่จะซื้อบ้านสำหรับปาร์ตี้เลยนะคะ……」
แต่ถึงกระนั้นดิฉันก็ไม่ทราบเหตุผลที่ราอุสปฏิเสธการซื้อบ้านของปาร์ตี้เธอหรอกนะ
ถ้าไม่ได้คิดเกินเลยไปเองก็คงจะประมาณว่าราอุสที่ไม่ยอมซื้อบ้านปาร์ตี้เพราะอายนั่นละที่ต้องอาศัยอยู่ใต้ชายคาเดียวกัน ขนาดแค่อยู่โรงแรมเดียวกันยังบ่นอุบขนาดนั้น
ถ้าหากเป็นเช่นนั้น ฉันไม่รู้ว่าควรจะบอกนาร์เซน่าดีรึเปล่า แต่ก่อนหน้านั้นฉันก็ขอให้ซีคถามราอุสเกี่ยวกับเรื่องนี้ดีกว่า
「…จะดีกว่านี้ไหมถ้าฉันไปขอร้องด้วยความจริงจัง?」
「นั่นสินะบางทีละก็นะ……」
ดิฉันยังคงคิดต่อไปอย่างนั้นขณะที่คุยกับนาร์เซน่า
……เพราะว่าเป็นเช่นนั้นเองจิตใจดิฉันก็ฟุ้งซ่านเกินกว่าจะสังเกตเห็นสิ่งที่เธอพูดว่าโชคดีหรือโชคร้ายกันแน่ ที่นาร์เซน่าไม่ได้ตระหนักถึง
「โอ้วว ดูเวลาสิ…」
ในขณะที่ดิฉันกำลังหมกมุ่นอยู่นั่นเอง นาร์เซน่าก็เรียกสติฉันกลับมา
ก่อนที่ฉันจะได้ตระหนักถึงท้องฟ้าเริ่มมืดลงฉันรู้สึกแปลกใจอย่างมากที่เสียเวลาไปขนาดนี้
「ขอบคุณมากสำหรับวันนี้ค่ะ! ฉันคิดว่าฉันเองก็ควรจะเป็นฝ่ายรุกเองดีกว่า อย่างที่ไลลาซังพูดนั่นแหละคะ!」
อย่างไรก็ตามเธอไม่ได้รู้ใจจริงฉันเลยสักนิด เธอโค้งคำนับให้ฉัน
ฉันใช้เวลาสักครู่ก่อนจะตอบออกไปเพราะไม่ได้ฟังที่เธอพูด
「อะอืม ทำให้เต็มที่ละกันจ้ะ」
แต่ฉันไม่สามารถพูดได้เลยว่าที่มันเปรียบเสมือนเกมส์ที่เดินเรื่องมาถึงตอนจบแล้ว ฉันจึงพูดออกไปด้วยรอยยิ้มเจื้อนๆ
「ค่ะ! ขอบคุณมากเลยนะคะ!」
ดิฉันรู้ดีคะว่าตัวฉันเองมันน่าอนาจเกินไปที่จะให้คำปรึกษาใคร แต่นาร์เซน่าที่มุ่งมั่นเช่นนั้นดิฉันเองก็ไม่อยากจะทำให้เธอผิดหวังเหมือนกัน
หลังจากเสียงกระดิ่งของประตูคาเฟ่ดังขึ้นนาร์เซน่าก็ออกไปจากร้าน คนในร้านเองก็เริ่มซ่าลงแล้ว
เป็นเวลานานพอควรเลยล่ะที่พวกเราใช้ในคาเฟ่นี่
แต่ดูเหมือนว่าคาเฟ่จะไม่ปิดในบางครั้งก็ไม่มีป้ายแขวนปิดซึ่งฉันเองก็มองเห็นได้จากตรงนี้เช่นกัน
「เฮ้อออออ~ เหนื่อยจังเลยค่าาา…」
หลังจากยืนยันได้เช่นนั้นฉันก็ตัดสินใจหยุดพักสักครู่จนกระทั่งคาเฟ่จะปิด
「หืมมมม………」
ตอนนั้นเองที่เจอเธอเข้าก็ทำให้ฉันถึงกับเกร็ง
จนถึงตอนนี้ฉันมีความรู้สึกแบบนั้น
แต่ตอนนี้นาร์เซน่าจากไปแล้ว ฉันเองก็ไม่ต้องกังวลอีกต่อไป
หลังจากตัดสินใจได้อย่างนั้นแล้วฉันก็เอนตัวพิงโต๊ะและเอ่ยปากขึ้น
「นาร์เซน่า…ราอุส….ก็ดูรักกันดีนี่หน่าาาาาาเฮ้ออ……..ดีจังเลยน้าพวกเธอเนี่ย….อิจฉาสุดๆเลย….บางทีฉันเองก็คงต้องรุกใส่บ้างแล้วล่ะ…」
มันเป็นเรื่องที่ค่อนข้างจริงจังขณะที่บ่นพึมพำ
คำพูดนั่นไม่เข้าไปถึงหูของใครและล่องลอยไปตามสายลม……