[นิยายแปล]กาวฮีล - ตอนที่ 50
Ch.50 – การพบกันที่ไม่คาดคิด
Provider : เมื่อไรจะได้Surtr
Chapter 4 :การพบกันที่ไม่คาดคิด
—มุมมองราอุส—
「…ชั้นเข้าใจดีว่ามันค่อนข้างกระทันหันไปหน่อย… ได้โปรดละช่วยชั้นด้วยเถอะ」
ขณะที่เรายังคงมึนงงกับคำพูดที่ซีคซังพูดออกมานั้น เขาก็ถามเราอีกครั้งด้วยสีหน้าจริงจังเพราะราวกับกลัวว่าเราจะปฏิเสธเขา
ความกังวลของเขาเป็นอะไรที่สูญเปล่าเอามากๆ
「ไม่เป็นไรครับ! นั่นก็เป็นเรื่องที่พวกผมอยากจะทำอยู่พอดีเลย」
วินาทีที่พูดไปเช่นนั้นผมก็หัวเราะออกมา
ไม่เคยคิดว่าซีคซังจะมาชวนไปทำเควสปราบฟีนิกซ์ด้วยกัน เพราะงั้นพวกเราจึงเงียบไปชั่วครู่
ทางนี้ต่างหากที่ต้องเป็นฝ่ายตกใจที่โดนชวนด้วยตัวเองแบบนี้
ในทางตรงกันข้ามนี่ก็เป็นข้อเสนอที่เข้าทีกับทางเราพอดีเลยด้วย
เอาตรงๆผมกับนาร์เซน่าสู้กับฟีนิกซ์ลำบากมาก
……ฟีนิกซ์นั้นเป็นภัยตัวฉกาจต่อนักรบแนวหน้าอย่างแท้จริง ไม่เพียงแต่ใช้การโจมตีระยะไกลเป็นหลักเท่านั้นแต่ยังมีร่างกายที่ปกป้องด้วยเปลวเพลิง
สำหรับพวกเราที่สู้ระยะประชิดแล้วด้วยการใช้มีดสั้นและหมัดนั้นเป็นอะไรที่ยากมาก
「พี่ชายและฉันน่ะเคยวางแผนที่จะท้าทายเจ้านั่นด้วยการจะทำให้มันจมน้ำ ถ้ามีคนอย่างซีคซังมาช่วยจะดีมากเลยค่ะ!」
นั่นคือเหตุผลที่ว่านาร์เซน่าบอกว่าถ้ามีคนที่มีความสามารถอย่างซีคซังชัยชนะก็อยู่แค่เอื้อม
ซีคซังก็เป็นนักรบแนวหน้าแต่ว่าใช้ดาบใหญ่ก็สามารถโจมตีระยะไกลได้นิดหน่อย
ถ้าซีคซังกลายเป็นหน่วยจู่โจม โอกาสที่จะชนะนกฟีนิกซ์นั่นก็จะเพิ่มขึ้นอย่างมาก
ผมหวังเช่นนั้นและยิ้มออกมา
「เข้าใจล่ะ พวกเธอเข้าใจดีถึงความอันตรายของมันดีสินะ…… ไม่สิ ต้องบอกว่ามันเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับพวกเธอสินะที่เอาชนะไฮดร้าได้น่ะ เรื่องแบบนี้ควรรู้อยู่แล้ว 」
ซีคซังที่เห็นผมยิ้มเช่นนั้นก็ยิ้มตอบกลับเช่นกัน
ผมจึงตระหนักได้ว่าจากคำพูดของเขาบอกว่าเขาอาจมีความกังวลเช่นเดียวกับเรา
「บางทีซีคซังเองก็ตระหนักถึงสินะครับ……?」
ผมถามซีคซังด้วยท่าทางเขินอายซึ่งเขาก็ตอบด้วยการพยักหน้า
นั่นเป็นหลักฐานอันดีที่สุดว่าซีคซังเองก็กังวลเช่นเดียวกับเรา
มีความเป็นไปได้ที่นกฟีนิกซ์มันจะกลายพันธุ์
มอนสเตอร์ที่มีความยากระดับสูงต้องใช้เวลาพอสมควรในการกลายพันธุ์ มักจะใช้เวลาหลายเดือนแม้ว่ามันจะได้รับบาดเจ็บ ช่วงนั้นจะเป็นช่วงที่มันดูดซับพลังเวทย์ได้มากขึ้นเช่นกัน(ยิ่งเป็นแผล ยิ่งเร่ง)
เมื่อพิจารณาว่านี่เป็นเพียงไม่กี่วันหลังจากมีคำร้องจึงมีเวลาพอสมควรก่อนมันจะกลายพันธุ์
……แต่เมื่อทราบถึงข้อยกเว้นนั่นที่ไฮดร้าสามารถกลายพันธุ์ได้ในเวลาต่ำกว่าเดือน ผมก็อดกังวลไม่ได้เลย
บางทีไฮดร้าอาจจะเป็นข้อยกเว้น แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าพวกเราจะปล่อยฟีนิกซ์นั่นไว้ได้
ถ้ามันเกิดขึ้นอีกครั้งนกฟีนิกซ์กลายพันธุ์ที่โผล่ขึ้นมาเหนือพื้นดินนั้น ก็ไม่รู้ว่ามันจะสร้างความเสียหายได้มากแค่ไหน
ผมและนาร์เซน่าตระหนักได้ถึงความอันตรายเป็นอย่างดีเพราะเคยผ่านศึกกับไฮดร้ามาก่อน
……พวกเราเอาชนะไฮดร้าได้เพราะปาฏิหาริย์เกิดขึ้น มันคงไม่เกิดขึ้นซ้ำซ้อน
ผมรู้แม้ว่าเราจะเสียเปรียบให้กับฟีนิกซ์แต่ว่าก็ต้องปราบมันลงให้ได้
ไม่ว่ามันจะเป็นภัยคุกคามมากถึงเพียงใดหากเราไม่เอาชนะมันก่อนที่จะกลายพันธุ์ ถึงเวลานั้นก็ทำอะไรไม่ได้แล้ว
เพราะว่ามีความมุ่งมั่นเช่นนั้นจึงมีใจสู้มากกว่าที่คิดยิ่งร่วมมือกับซีคซังแล้ว
ดูเหมือนว่าเขาจะเข้าใจบรรยากาศของทางนี้ดีเลยยิ้มออกมา
「มีอะไรบางอย่าง…… ที่ชั้นควรจะพูด」
อย่างไรก็ตามในช่วงเวลาต่อมาซีคซังก็พูดด้วยสีหน้าหมองหม่น
เขากำลังพูดด้วยท่าทางลำบากใจ
「อันที่จริงนักเวทย์ในปาร์ตี้ของชั้นไม่ได้อยู่ในสภาพเตรียมพร้อมดังนั้นคนที่จะไปคือชั้นและ……」
「ซีคซัง! ในที่สุดก็เจอสักทีนะคะ!」
……แต่คำพูดของเขาก็ถูกขัดจังหวะด้วยเสียงของหญิงสาวคนหนึ่ง
เสียงนั้นทำให้ผมตะลึงไปชั่วขณะ
เพราะว่าเสียงนั่นคุ้นหูเป็นอย่างมากจึงหันไปหาต้นทาง
「……เอ๋?」
…เมื่อเห็นเธอคนนั้น นั่นคืออดีตจอมเวทย์ของปาร์ตี้ดาบแห่งอัสนีอาร์เมียยืนอยู่ตรงนั้นด้วยความประหลาดใจ
◇ ◆ ◇
「ไม่ใช่ว่าฉันพูดไปแล้วรึไงค่ะ ว่าฉันสบายดี?! ฉันเองก็จะไปทำเควสปราบนกฟีนิกซ์ด้วยนะคะ!」
เธอขึ้นเสียงต่อต้านซีคซังโดยที่ไม่รู้สึกถึงพวกเรา
「หากคุณไม่มีนักเวทย์ คุณรู้ไหมค่ะว่าความยากในการปราบนกฟีนิกซ์นี่มันจะมากขึ้นแค่ไหน?!」
ดูเหมือนว่าอาร์เมียจะดูอารมณ์บูดพอตัวเธอเดินเข้าไปหาซีคซังพร้อมกับกล่าวว่าเขาโดยไม่ได้รู้สึกตัวถึงคนรอบๆข้างเลย
ยังไงก็ตามไม่ใช่ว่าผมรู้สึกไม่ดีกับเธอ
…แต่ผมเชื่อว่าความรู้สึกไม่สบายใจที่ก่อตัวขึ้นในใจมันเป็นเรื่องเล็กน้อย
อาร์เมียยังคงพูดต่อไปด้วยอารมณ์เดือดพล่าน
เธอดูเปลี่ยนไปมากจากที่ผมจำได้
อาร์เมีย เธอตอนที่อยู่ดาบแห่งอัสนีจะรักษาภาพลักษณ์อยู่เสมอ
เธอมีเสื้อผ้าหลากหลายและเธอก็ชอบแต่งหน้าด้วย
การที่ทำเช่นนั้นทำให้เธอดูเด็กลงไปอีกนั่นทำให้ผมรู้สึกไม่สบายใจหน่อยๆ
แต่ว่าตอนนี้ความไม่สบายใจที่ก่อขึ้นในตอนนี้มันแตกต่างกันอาร์เมียในตอนนี้นั้นต่างกับตอนที่อยู่ที่ดาบแห่งอัสนีอย่างเห็นได้ชัด
สภาพของเธอในตอนนี้ ผมยุ่งๆสวมเสื้อผ้าถูกๆซึ่งเป็นอะไรที่ต่างจากตอนอยู่ดาบแห่งอัสนีมาก
……นอกจากนี้ในดวงตาของเธอนั้น เปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด
แม้ว่าจะระเบิดอารมณ์ออกมาแต่ภายในใบหน้าก็ยังดูไร้ความรู้สึก
มันราวกับว่าไร้ความรู้สึกราวกับว่าตัวเธอไม่ได้อยู่ ณ ที่แห่งนี้เลย
ความแตกต่างระหว่างพฤติกรรมและอารมณ์นั้นก็แตกต่างออกไปอย่างเห็นได้ชัด
「อั่ก!」
ผมทำเป็นไม่เห็นเธอไม่ได้
ถึงตามตรงจะไม่มีความรู้สึกดีๆระหว่างเธอก็เถอะ
อาร์เมียเมื่อเทียบกับมาร์คูลัสและซาร์เวเรียแล้วปฎิบัติต่อผมค่อนข้างดี
แต่กระนั้นผมก็รู้สึกไม่พอใจที่เธอเชื่อใจมาร์คูลัสและซาร์เวเรียมากเกินไป
ผมเองก็ไม่ได้เกลียด
อย่างไรก็ตามมันก็เป็นอะไรที่ยากต่อการรับมือ
…ถึงแม้จะรู้สึกเช่นนั้นแต่ผมก็ยังสงสารเธออยู่ดี
ยิ่งเมื่อรู้เหตุผลที่เธอต้องมากลายเป็นแบบนี้
จุดจบของนักผจญภัยชั้นนำในอดีตตอนนี้ดาบแห่งอัสนีนั้นเป็นที่รู้จักไปทั่ว
หลังจากล้มเหลวในการขายหนึ่งในสมาชิกปาร์ตี้ของพวกเขาทุกคนในดาบแห่งอัสนี
ด้วยข้อมูลมากมายขนาดนั้นผมจึงสามารถเข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้นได้
เป็นไปได้มากว่า มาร์คูลัส และ ซาร์เวเรีย พยายามขาย อาร์เมีย
เมื่อเข้าใจแล้วผมก็โกรธขึ้นมาทันที
…ผมไม่ได้สนใจดาบแห่งอัสนีแต่อาร์เมียนั้นน่าสงสารเกินไป
「ไม่ว่าซีคซังจะแกร่งแค่ไหนแต่…… หือ?」
เมื่อนาร์เซน่าสังเกตเห็นถึงสิ่งที่ผมคิดเช่นนั้นอาร์เมียก็พยายามจะพูดกับซีคซัง ดูเหมือนว่าเขาจะเจอปัญหาเข้าแล้ว
ณ เวลานั้นอาร์เมียตัวแข็งขณะที่เธอจ้องมองมาที่ผม
「………เอ๋?」
เมื่อเห็นปฏิกิริยาที่ไม่คาดคิดของอาร์เมียผมก็พูดอะไรโง่ๆออกไป
「——!」
…เมื่อได้ยินเสียงของผม อาร์เมียก็กลับมาสู่ความรู้สึกร้องไห้อีกครั้ง
ในสายตาของเธอมีความกระวนกระวายเต็มไปหมด
「… ต้องขอโทษด้วยนะที่มากวน.」
ในเวลานั้นเองเธอก็วิ่งออกไป
ผมจ้องมองด้วยความประหลาดใจพร้อมกับมองตามหลังเธอไปไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นกับเธอกันแน่
「อะไรละเนี่ย……」
ไม่มีใครให้คำตอบกับคำพูดของผม
ดีเลย์ 1 ตอนจากนายท่าน