[นิยายแปล]กาวฮีล - ตอนที่ 24
Ch.24 – การต่อรอง
Provider : อ่านไม่ได้อย่าอ่านเลย
Chapter 24 การต่อรอง
—ราอุส—
「… มันแย่ขนาดนั้นเลยเหรอคะ หืมม?」
「ระ-รู้สึกโล่งใจมากๆเลยล่ะ! ไม่เคยคิดว่าพวกนั้นจะ…」
ด้วยการที่นักเวทย์ของหมาป่าแห่งความหายนะล้มลงไป ความโล่งใจก็ออกจากใจผม
ผมมองไปที่นาเซน่าในขณะที่พูดด้วยความประหลาดใจ
เมื่อคิดได้แบบนั้นผมที่แสดงความคิดเห็นต่อเธอ เธอก็พยายามขอบคุณผมอย่างมาก
แต่คำพูดเหล่านั้นของผมไม่ได้นึกถึงเพียงแค่นาเซน่าเพียงอย่างเดียว
ความประหลาดใจนั่นนั้นสำหรับตัวเอง ที่ลืมตัวไปว่านาเซน่าคงไม่แพ้การต่อสู้กับพวกของมอร์เซรอลหลังจากได้เห็นสถานการณ์ของเธอ
ตอนนี้เมื่อคิดกับการกังวลเรื่องนั้นไป เหมือนกับเป็นเรื่องเปล่าประ.โยชน์ไปเลยล่ะ
ท้ายที่สุดนาเซน่าเองนั้นก็มีความสามารถเทียบเท่ากับนักผจญภัยชั้นหนึ่งอยู่แล้ว
ถ้าเป็นนาเซน่าก็คงจะรับมือกับพวกหมาป่าแห่งความหายนะด้วยตัวคนเดียวได้
เมื่อคิดได้เช่นนั้นผมเองก็รู้สึกละอายใจที่ตัวเองกังวลเรื่องไม่เป็นเรื่อง
อย่างไรก็ตามผมเองก็ไม่ได้มีความตั้งใจที่จะยกโทษให้พวกมอร์เซรอลและสหายของเขาอยู่แล้ว
「เวรเอ้ย! เวรเอ้ย!」
นอกเหนือจากเราแล้วคนอื่นๆที่เหลืออยู่ก็มีแค่ฮีลเลอร์ของหมาป่าแห่งความหายนะ ซึ่งพยายามจะรักษามอร์เซรอล
แต่ว่ามันก็ไม่ได้ผลเลย
เห็นได้ชัดว่าบาดแผลที่ได้รับการโจมตีของผมนั้น ทำให้ร่างกายของมอร์เซรอลนั้นรุนแรงเกินไปจนไม่สามารถรักษาได้
ขนาดความสามารถในการรักษาของฮีลเลอร์ก็ยังไม่สามารถรักษาสภาพร่างกายของเขาให้มั่นคงได้
เมื่อเห็นสถานการณ์เช่นนั้น ผมก็ถอนหายใจออกมา
ฮีลเลอร์ตรงหน้าผมมักจะโอ้อวดตนเองว่าเป็นฮีลเลอร์ชั้นสูง
แต่แล้วในความเป็นจริงล่ะ?
แล้วตอนนี้ล่ะที่เคยโอ้อวดไว้ไม่เหมือนที่พูดเลยนี่? ในขณะที่ถอนหายใจอย่างอ่อนแรง ผมก็ใช้เวทย์รักษาของผม
「《ฮีล》《ฮีล》《ฮีล》」
ขนาดผมไม่ได้ร่ายพร้อมกับแต่ประสิทธิภาพการใช้งานมันแทบจะประสานกันโดยไม่ขาดตอนเลย แถมเอฟเฟกต์รักษายังซ้อนทับกันไปอีก
นั่นเป็นเทคนิคที่ผมได้มาโดยบังเอิญ เป็นผลพลอยได้เมื่อพยายามรวบรวมเวทย์และคิเข้าด้วยกัน
นี่เป็นอีกเทคนิคชั่วคราวเทคนิคหนึ่ง เปิดใช้เวทย์หลายอย่างในเวลาอันสั้นและผลยังซ้อนทับกันไปด้วย
TN:ฮีล ทับกันทำให้ระดับขั้นอัพเกรดก็ราวๆเหมือนกับว่าร่าย ฮีล 3 ครั้งก็อัพเกรดฮีล>ไฮ ฮีล>เอ็กตร้า ฮีล ละมั้ง
ไม่มีผลข้างเคียงสำหรับสิ่งนี้ เพราะฉะนั้นมันเลยโดนใช้เป็นหลักเลยล่ะเพราะผลมันทับซ้อนกันได้
อย่างไรก็ตาม หินเวทย์ที่ผมมีในมือของผมก็ช่วยทำให้เอฟเฟกต์《ฮีล》 ดีขึ้นไปอีก
มันเป็นอุปกรณ์เวทย์ที่เพิ่มผลของเวทย์นั้นๆเป็นสองเท่า
มันเป็นอุปกรณ์เวทย์ที่มีข้อบกพร่อง มันเป็นอุปกรณ์สำหรับผู้ที่มีความสามารถในการใช้แค่พลังเวทย์และคิเท่านั้น
แต่ในทางกลับกัน ผลที่ได้นั้นแน่นอน
「อะ—อืมมม……」
สกิลและอุปกรณ์เวทย์ที่ผมมีนั้นช่วยเพิ่มพลังให้กับ 《ฮีล》
ดังนั้นบาดแผลของมอร์เซรอลที่ฮีลเลอร์ของหมาป่าแห่งหายนะ ไม่สามารถรักษาได้ก็ถูกรักษาได้อย่างง่ายๆ
「อะไรวะ-!?」
「พะ-พี่ชาย? คิดจะทำอะไรคะเนี่ย!?」
เมื่อเห็นการกระทำของผม ฮีลเลอร์ของหมาป่าแห่งความหายนะและนาเซน่าก็ส่งเสียงตกใจออกมา
อย่างไรก็ตามผมก็รักษามอร์เซรอลไม่ใช่เพราะว่าต้องการช่วยหมอนั่นหรอก
เมื่อผมพยายามจะอธิบายให้ทั้งสอง……
「อย่ามาล้อกูเล่นนะเว้ย! มึงเป็นบ้าอะไรของมึงหะ!」
… ผมก็ถูกขัดจังหวะด้วยการระเบิดอารมณ์ของฮีลเลอร์คนนั้น
ฮีลเลอร์จ้องมองมาที่ผมที่ช่วยรักษาเพื่อนของเขา
「อะไรวะไอ้ตัวที่มีข้อบกพร่องแบบแกทำไมถึงทำแบบนี้ได้กัน! มันแปลกเกินไปแล้วโว้ย! จริงๆแล้วแกมันก็แค่ควรจะเป็นมนุษย์ที่ไร้ความสามารถเอาแต่ดิ้นรนอย่างหมดท่าไม่ใช่รึไงฟะ…」
ด้วยดวงตาแดงก่ำและเปรียบเปรยได้ดั่งเปลวไฟแห่งความอิจฉา มีรอยยิ้มอยู่บนใบหน้าของหมอนั่นและฮีลเลอร์ก็ตะโกนออกมา
ไม่ใช่ว่าเป็นนายเองเหรอที่มีข้อบกพร่องและคำพูดเหล่านั้นน่ะผมควรจะโยนกลับไปให้นายเสียด้วยซ้ำ
「หุบปากไปซะ」
「อ๊ากกก!」
อย่างไรก็ตามผมไม่ได้สนเรื่องที่หมอนั่นพูดเลยแม้แต่น้อย ดังนั้นผมเลยเตะหมอนั่นและทำให้หมดสติไป
จริงๆแล้วก็ไม่ได้สนใจอะไรเป็นพิเศษหรอกนะ
หลังจากที่ได้อยู่ปาร์ตี้เดียวกันกับนาเซน่าแล้ว ผมก็ไม่หลงเหลือความกลัวหรือความรู้สึกอื่นๆกับพวกที่ข่มเหงผมอีกต่อไป
อย่างไรก็ตามผมจะไม่มีวันยกโทษให้ผู้ที่พยายามจะทำร้ายนาเซน่าอย่างแน่นอน
นั่นเป็นเหตุผลที่ผมไม่ฆ่ามอร์เซรอล
การลงโทษสถานเบามันไม่เพียงพอหรอก
หลังจากที่ผมตัดสินใจผมก็พูดออกไปด้วยคำกล่าวที่มีจุดมุ่งหมายชัดเจน
「การทำแบบนี้ต้องเป็นอาชญากรรมแน่นอนสินะครับ?」
「หือออ?」
ในขณะนั้นเจ้าหน้าที่ของกิลด์นักผจญภัยที่พยายามหนีออกจากสถานที่แห่งนี้ก็ตัวสั่นด้วยคำพูดของผม……
◆ ◆ ◇
หลังจากนั้นผมเรียกเขาสักพักหนึ่ง หนึ่งในเจ้าหน้าที่ของกิลด์ก็ปรากฏตัวขึ้น
「เจ้าหน้าที่ของกิลด์จริงๆงั้นเหรอ………!」
นาเซน่าเปล่งเสียงด้วยความประหลาดใจเมื่อเห็นใบหน้าของเขา
ในอีกความหมายหนึ่ง เจ้าหน้าที่ของกิลด์ ชายคนหนึ่งที่เรียกตัวเองว่า ฮันแซม(Hanzam) ที่ดูท่าทางสงบ แต่ว่าความไม่สบายใจก็ปรากฏออกมาจากสีหน้าอย่างชัดเจน
ดูเหมือนว่าเขาไม่คิดว่าผมจะหาเขาพบ
ฮันแซมน่าจะเข้าใจแล้วว่าผมพูดถึงเรื่องการกระทำของหมาป่าแห่งความหายนะ ด้วยคำพูดก่อนหน้านี้ของผม
ท้ายที่สุดแล้ว ก็เป็นตัวผมเองแหละที่พยายามให้พวกนั้นทำการละเมิดกฏ จนผิดกฏของนักผจญภัย
「…จากสิ่งที่ผมเห็น มันไม่ใช่แค่การทะเลาะกันธรรมดาของนักผจญภัยเลยนะครับ?」
อย่างไรก็ตาม ฮันแซมยังคงทำตัวเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
「ทั้งสองนั้นต้องมีความรับผิดชอบในเรื่องนี้ครับ แต่ว่าสิ่งที่พวกคุณทำคือการป้องกันตัวเองอย่างถูกต้อง ดังนั้นพวกคุณไม่จำเป็นจะต้องรับผิดชอบเรื่องนี้ครับ ในทางตรงกันข้ามทางเราจะจัดการกับหมาป่าแห่งความหายนะด้วยตัวของพวกเราเองครับ」
… คำพูดที่ ฮันแซม พูดนั้นเป็นข้อแก้ตัวที่เจ้าหน้าที่กิลด์ใช้เพื่อหลบเลี่ยงสถานการณ์เหล่านี้
เจ้าหน้าที่ของกิลด์ไม่อยากให้มีปัญหาเกิดขึ้น ดังนั้นพวกเขาจึงทำตัวราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย
อย่างไรก็ตามในครั้งนี้ผมไม่อยากให้เรื่องในครั้งนี้ถูกตัดจบแบบนี้
นั่นคือเหตุผลที่โบกมือของผม
「โอ้ววว นั่นนักผจญภัยระดับโลก ราลม่าซังนี่?」
「อั่ก!」
ฮันแซมดูเหมือนจะตกอกตกใจกับคำโกหกของผม ในขณะที่ผมมองไปแบบสุ่มสี่สุ่มห้า
แค่เห็นปฏิกิริยาของเขา ผมก็ยิ้ม
เห็นได้ชัดเลยว่า สถานการณ์นั้นเป็นไปตามที่ผมคิดไว้
「… นี่คิดจะเล่นตลกกับผมรึไงครับ?」
「ไม่หรอก ผมก็แค่คิดว่าทักผิดคนเท่านั้นเอง」
เมื่อเทียบกับฮันแซมแล้วที่กล่าวหาผมว่าโกหก ผมใช้สมองขณะที่ทำท่าทางไร้กังวล
เจ้าหน้าที่ของกิลด์นั้นเป็นเรื่องที่หาได้ยากที่จะเข้ามาแทรกแซงการทะเลาะวิวาทของนักผจญภัย
ดังนั้นทำไมคราวนี้ เจ้าหน้าที่กิลด์อาวุโสอย่าง ฮันแซม ถึงได้มาที่นี่ล่ะนั่นก็เพราะว่ามาเป็นตัวกลางระหว่างการต่อสู้ของพวกผมและหมาป่าแห่งความหายนะ?
มีสองสิ่งที่ผมคิดว่าเป็นคำตอบสำหรับคำถามนั้น นั้นคือชาติตระกูลของนาเซน่าและการดำรงอยู่ของอาจารย์
หลังจากพิจารณาแล้วผมจึงเลือกการดำรงอยู่ของตัวอาจารย์
「แต่คุณไม่คิดเหรอครับว่า ราลม่าซัง อาจจะดูสถานการณ์ตอนนี้อยู่ก็ได้นะครับ?」
「อั่ก!」
สีหน้าไม่สบายใจแสดงออกมาจากหน้าของเจ้าหน้าที่กิลด์ เริ่มน่าสนใจซะแล้วสิ
ผมที่พอใจกับปฏิกิริยาของเขา ก็เริ่มเข้าสู่หัวข้อหลัก
「แม้ว่าเธอจะไม่เห็นก็ตามดูเหมือนว่าราลม่าซัง จะเป็นคนรู้จักของนาเซน่านะครับ ดังนั้นแล้วเราจึงจำเป็นต้องรายงานเรื่องนี้ หากทางกิลด์ต้องการนำเรื่องของหมาป่าแห่งความหายนะมาจัดการจริงๆล่ะก็คงช่วยประหยัดเวลาได้เยอะครับ…」
ใช่แล้ว ผมพูดเช่นนั้นด้วยรอยยิ้ม ฮันแซมถึงกับทำสีหน้าบูดบึ้งทันทีราวกับว่ากลืนหอยขมลงไปเลย
เป็นเรื่องธรรมชาติ หลังจากนี้จะเป็นเพียงแค่การข่มขู่ด้วยคำพูดสุภาพๆ
หากพวกเขาไม่ลงโทษพวกนั้นอย่างถูกต้อง ผมก็อาจจะเอาเรื่องนี้ไปบอกราลม่า
「ฟุฟุฟุ!」
ในขณะที่ผมกำลังข่มขู่เจ้าหน้าที่กิลด์ นาเซน่าก็เผยรอยยิ้มเบ่งบานออกมาเห็นได้ชัดแม้ว่านาเซน่าจะไม่ได้เป็นนักผจญภัยมานาน แต่เธอก็รู้เรื่องเกี่ยวกับทัศนคติของทางกิลด์ดี
อืมมม การที่สามารถหลอกเจ้าหน้าที่กิลด์ได้ง่ายๆแบบนี้ รู้สึกดีเป็นบ้าเลย
ท้ายที่สุดแล้วไม่มีทางที่อาจารย์จะรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นที่นี่อยู่แล้วล่ะ
「…ผมเข้าใจแล้วครับ จากนั้นช่วยไปแจ้งรายละเอียดความเสียหายให้ทราบเกี่ยวกับกิลด์นักผจญภัยด้วยนะ……」
อย่างไรก็ตามฮันแซมที่ไม่ทราบเรื่องนี้ก็ทำสีหน้าราวกับจะตายและยอมเห็นด้วยกับความต้องการของผม
เชื่อได้เลยผมจะไม่บอกอาจารย์เกี่ยวกับเรื่องนี้เป็นอันขาด
เมื่อเห็นการกระทำของฮันแซม ผมก็แทบจะหัวเราะออกมา
「โอ้ววว รอแปปหนึ่งนะ.」
อย่างไรก็ตาม ผมจำสิ่งที่ต้องทำก่อนหน้านั้นได้จึงขัดจังหวะพูดของฮันแซมกลางคัน
ในขณะนั้นเองก็เห็นสีหน้าไม่พอใจปรากฏขึ้นบนใบหน้าของฮันแซม
เหตุผลที่แท้จริง ฮันแซมต้องการจะให้ผมไปที่กิลด์นักผจญภัยเพื่อไปทำการสาบานต่ออุปกรณ์เวทย์แห่งวิญญาณ
เรื่องที่ว่าจะไม่ให้ผมเอาเรื่องนี้ไปบอกอาจารย์.
นั่นเป็นเหตุผลที่ว่าเขาอาจจะเริ่มหมดความอดทนและกลัวว่าเราจะไม่ยอมไปกิลด์นักผจญภัยกับเขา
「เน่ คิดว่าผมจะไม่สังเกตเห็นพวกแกงั้นเหรอทำเป็นเนียนนอนนิ่งเชียวนะ?」
——— แต่เหตุผลที่ผมพูดตัดเขานั้นไม่เกี่ยวกับเรื่องนั้นแม้แต่น้อย
「อ๊ากกกก!」
ผมเตะมอร์เซรอลที่แสร้งทำเป็นนอนนิ่งขณะรอโอกาสหนี
ได้รับการโจมตีที่คาดไม่ถึงเข้าจังๆ มอร์เซรอลดิ้นอยู่บนพื้น เมื่อเห็นหน้าตาของเขาเช่นนั้นผมก็หัวเราะ
「ผมจะไม่ปล่อยให้แกหนีไปได้แน่ๆ」