[ นิยายแปล ] สารภาพรักไป99ครั้งก็ยังไม่ไหวงั้นหรอ!? - ตอนที่ 15
เซอิจิและมินาโฮะมากันที่ร้านอาหารครอบครัวใกล้ๆ
เซอิจินั้นคาดไม่ถึงที่ได้น้องสาวชั้นมอต้นของตัวเองมาเลี้ยงค่าอาหารให้ แต่ยิ่งกว่านั้นคือการที่เขาได้ออกมาทานข้าวด้วยกัน2คน
“ยินดีต้อนรับค่า มากี่ท่านคะ”
“2คนครับ”
พี่สาวพนักงานนำทางพวกเซอิจิไปที่โต๊ะข้างกระจก พวกเซอิจิเริ่มเปิดเมนูดู
“…..”
“…..”
บรรยากาศเงียบสนิท ผิดกับตอนที่อยู่ที่บ้านเลย
(แย่ล่ะ เผลอชวนเธอมาด้วยกันเพราะบรรยากาศมันพาไป แต่ไม่มีอะไรจะคุยด้วยเลย)
ระหว่างที่คิดว่าตัวเองเป็นพี่ชายที่ใช้ไม่ได้ เซอิจิทำเป็นว่าตัวเองเลือกเมนูอยู่ และรอดูท่าทีของมินาโฮะ
“ฉันเลือกได้แล้วนะ ทางนั้นล่ะ?”
“หืม? อะ อ้า ชั้นเอา…”
เซอิจิคิดว่าจะฟุ่มเฟือยไม่ได้เพราะไม่ได้ออกตังเอง เขาจึงเลือกเซ็ตแฮมเบิร์กที่ดูคุ้มที่สุด
“เอานี่แหละ ถ้างั้นเรียกพนักงานเลยนะ”
กดปุ่มเรียกพนักงานไป ไม่กี่วินาทีก็มีพนักงานเดินมา
“ขอทราบเมนูด้วยค่ะ”
“ผมเอาเป็นเซ็ตข้าวแฮมเบิร์ก”
“ฉันขอเป็น ชิกเก้นโดเรีย[tl:ข้าวไก่อบชีส]กับของหวานเป็นพาร์เฟต์สตอเบอรี่ค่ะ”
“ทราบแล้วค่ะ โปรดรอสักครู่”
พนักงานรับออร์เดอร์เสร็จก็เดินจากไป ทำให้ความเงียบกลับมาอีกครั้ง
จะทำเป็นดูเมนูอีกก็ไม่ได้แล้ว เซอิจิจึงคิดที่จะเปิดบทสนทนา
“เน่ มีเรื่องอยากจะถามหน่อย”
เป็นมินาโฮะที่เอ่ยปากออกมา
“หืม? มะ มีอะไรหรอ”
เซอิจิสับสนที่อยู่ดีๆเธอก็พูดออกมา แต่เซอิจิก็คิดว่าดีแล้วเพราะเขาตั้งใจจะเปิดบทสนทนาแต่แรก เขาเลยเปลี่ยนมารอฟังมินาโฮะแทน
“คนในรูปนี่ใครเหรอ?”
“ทะ… ทำไม เธอถึงมี…”
มินาโฮะหยิบรูปออกมาและโชว์ให้ดู
เซอิจิ ครุ่นคิดว่ามินาโฮะไปเอารูปนี้มาจากที่ไหน
“ผู้หญิง? แถมยังแอบถ่าย…”
“ม ไม่.. คือ.. น นั่นมัน…”
ภาพนั้นคือภาพของคิริน
รูปนี้นั้นเซอิจิซื้อมาจากชมรมถ่ายรูป
ชมรมถ่ายรูปนั้นมีรูปสาวน่ารักๆในโรงเรียนขายและเซอิจิก็ซื้อมา
รูปภาพนี้้มันควรจะอยู่ในลิ้นชักห้องของเซอิจิ
“ช ช่างเรื่องนั้นก่อน ท ทำไมเธอถึงมี…”
“เมื่อเช้า นายทำตกไว้เองนะ”
เมื่อเช้าเซอิจิเอารูปภาพนี้ใส่ลงในกระเป๋าเสื้อไปด้วยเพื่อเป็นเครื่องราง
แต่ก็ลืมไปซะสนิท
“แล้ว ใครล่ะ?”
ไม่รู้ทำไม มินาโฮะถึงถามมาแบบเคืองๆ
เซอิจิไม่รู้จะตอบไปว่าเกี่ยวข้องกันอย่างไงดี
“คือ.. อยู่โรงเรียนเดียวกัน….”
“คนที่นายชอบ?”
“ม มั้ง”
“หืม…”
เธอวางรูปภาพไว้บนโต๊ะ
เซอิจิมองมินาโฮะด้วยความลุกลี้ลุกลน
“ไม่เกี่ยวกับเธอไม่ใช่รึไง”
“ในฐานะน้องสาว ฉันเป็นห่วงว่าพี่ชายจะไปสตอล์เกอร์ใครไง”
(ขอโทษนะ พี่ชายเนี่ยโคตรสตอล์เกอร์เลยถ้ามองจากมุมมองคนอื่น…)
เซอิจิมองตาเธอและขอโทษอยู่ในใจ
“อืม ก็จริงนะไม่เกี่ยวกับฉันหรอก”
ถึงจะพูดแบบนั้นแต่เธอเล่นสมาร์ทโฟนด้วยอารมณ์ไม่ค่อยดี
“อืมม พอเรื่องรูปถ่ายไว้แค่นี้เถอะนะ…”
เซอิจิพูดอย่างนั้นและเก็บรูปกลับไป
“แต่ว่านะ วันนี้ถูกปฏิเสธมาแล้วล่ะ..”
“เอะ….”
จากคำพูดของเซอิจิ มินาโฮะละสายตาออกจากจอมามองเซอิจิ
ไหนๆความก็แตกแล้ว เซอิจิเลยตัดสินใจบอกเรื่องถูกปฏิเสธไป
“ก็นะ ตั้งแต่ขึ้นมอปลายมาทั้งทำอาหาร ทั้งเล่นจูโดก็แล้ว..”
“อืม ก็ดูจะมีเสนห์นิดหน่อย”
เซอิจิเริ่มเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับคิรินให้มินาโฮะฟัง
เซอิจิที่ปกติไม่ค่อยคุยกับมินาโฮะ นี่จึงถือเป็นโอกาสดีของทั้งคู่
“ทั้งหมดนี้แหละ คือเรื่องราวสารภาพรักไป99ครั้ง ยามาเสะซังนี่ก็มาหาทุกครั้งด้วยนะ”
พอลองเล่าเรื่องนี้ให้คนอื่นฟัง เซอิจิก็คิดได้ถึงสิ่งผิดปกติที่ตัวเองได้ทำไป
ไม่สนใจอย่างอื่นนอกจากคิริน ยอมทำทุกอย่างเพื่อให้เธอชอบ เซอิจิถอนหายใจ
“เห้อ จะว่าไงดี ความรักนี่ยากจริงๆ”
“นั่นสินะ จะว่าไปตอนนี้นายยังได้รับการรักษาจากโรงพยาบาลอยู่รึป่าว? หรือควรไปจิตเวชดี?”
“ก็บอกว่ายอมแพ้ไปแล้วไม่ใช่เรอะ!”
“อะ ขอโทษ คงต้องผ่าตัดสมอง”
“มองให้เต็มตานะ ปกติดีเฟ้ย!!”
ทั้งถูกปฏิเสธ ทั้งไปคาราโกะ ช่วยผู้หญิงไว้ ไล่คนออกจากบ้าน และยังโดนน้องสาวล้อเลียน
เซอิจิถอนหายใจอย่างหนัก ขณะคิดถึงอะไรหลายๆอย่างที่เกิดขึ้นวันนี้
“เห้อ~ ช่างเถอะ จะว่าไป ผู้ชายที่มาที่บ้านนั่นใคร”
“จำไม่ค่อยจะได้หรอก น่าจะเป็นประธานบริษัทอะไรสักอย่าง แต่คงไม่ใช่บริษัทใหญ่ เพราะปกติ ประธานบริษัทจะไม่มาเอง”
“อืม ก็จริง เธอเองก็ดูดีอยู่”
“ฉ เฉยๆน่า”
หลังจากที่เซอิจิชมบุคลิกเธอไป มินาโฮะแก้มแดงเล็กน้อย และหลบสายตาจากเซอิจิไปมองโทรศัพท์แทน
เซอิจิคิดว่าคงเพราะได้คุยกันครั้งแรกเธอจึงประหม่า
แล้วก็ถึงเวลาที่อาหารมาเสิร์ฟพอดี