[ นิยายแปล ] สารภาพรักไป99ครั้งก็ยังไม่ไหวงั้นหรอ!? - ตอนที่ 14
หลังจากที่เซอิจิได้ช่วยผู้หญิงเข้าไว้ เขาได้ตรงดิ่งกลับบ้าน
“เห้อ เหนื่อยสุดๆ ไม่อยากทำอะไรอีกแล้ว”
เซอิจิกำลังเดินกับบ้านด้วยท่าทางหมดแรง
อีกแค่ไม่กี่ร้อยเมตรก็จะถึงบ้านแล้ว
“อาา ในที่สุดก็ถึงสักที วันนี้ยาวนานจริงๆ”
เมื่อเซอิจิมาถึงหน้าบ้านเขาก็หยิบกุญแจขึ้นมาจากกระเป๋าเพื่อเข้าบ้าน
“ขอความกรุณาด้วยครับ!!”
เขาได้ยินเสียงที่ไม่คุ้นเคยจากอีกฝั่งของประตู
เซอิจิที่กำลังจะเปิดประตูเข้าไปสงสัยว่าน่าจะมีแขกมาที่บ้าน
พอเปิดเขาเปิดก็เห็นชายวัยกลางคนที่สวมชุดสูทกำลังก้มหัวให้มินาโฮะอยู่
“แขกหรอ?”
“ยินดีตอนรับ”
“โอ้ว”
เซอิจิเดินผ่านชายชุดสูทไปเพื่อจะเข้าบ้าน
เซอิจินั้นกำลังสงสัยว่านี่มันเกิดอะไรขึ้นกัน และตอนนั้นชายชุดสูทก็เริ่มพูดออกมา
“ขอร้องด้วยครับ ช่วยมาที่บริษัทเราที ถ้าเป็นอิชิกิซังละก็ต้องเป็นโมเดลไอดอลที่ขายดีแน่ๆเลยครับ ได้โปรด!!”
“บอกไปไม่รู้ตั้งกี่ครั้งแล้วนิคะ ว่าฉันไม่สนใจเรื่องแบบนี้ งานถ่ายแบบนั้นก็แค่ทำเพื่อเงินเก็บ กลับไปเถอะค่ะ”
“ช่วยคิดสักนิดนึงไม่ได้หรอครับ? ถ้าได้ทั้งท่านพี่ชายและท่านน้องสาวมาละก็ ระดับญี่ปุ่น..ไม่สิ ต้องเป็นโมเดลระดับโลกได้แน่เลยครับ!”
(อย่ามายุ่งกับฉันสิฟร่ะ เหนื่อยนะเว้ย)
เซอิจิปกติไม่สนใจเรื่องนี้
ปกติเรื่องแบบนี้นั้นมินาโฮะเป็นคนตัดสินใจ เซอิจิเลยไม่พูดอะไรออกมาเพราะรู้อยู่แล้ว
แต่ว่าครั้งนี้เซอิจิตัดสินใจพูดออกมาเอง
เซอิจิค่อยๆพูดออกมา เพราะอยากจะขึ้นไปพักผ่อนแล้ว
“ผมไม่รู้หรอกนะว่ามินาโฮะจะเป็นโมเดลระดับโลกหรืออะไร อืม ก็จริงอยู่ที่เธอเป็นน้องสาวที่น่ารัก แต่ว่าถ้าเธอไม่อยากทำ ก็ไม่เห็นจะเป็นอะไรเลย ใช่มั้ย?”
“ตะ แต่ว่า น่าเสียดายนะครับ มีพรสวรรค์ตั้งขนาดนี้”
เพราะผู้ชายคนนี้ทำตัวน่ารำคาญ ทำให้เซอิจิที่ฉุนกับเรื่องที่เจอมาแล้วฉุนหนักกว่าเก่าอีก
ปกติเซอิจิไม่เคยโมโหกับเรื่องนี้หรอก แต่ว่าวันนี้เขาอารมณ์ไม่ค่อยดี
“หยุดพล่ามได้แล้ว! น้องชั้นก็บอกไปแล้วนะว่าไม่ชอบ ไม่ใช่ว่าเธอก็อยากจะเกิดมาเป็นแบบนี้หรอก อะไรคือมีพรสวรรค์ เธอก็บอกไปแล้วไม่ใช่รึไงว่าไม่ทำ กลับๆไปซะเถอะ ทางนี้ก็มีเรื่องให้เครียดมากพอแล้วนะ!”
เซอิจิพูดแบบนั้นและก็ไล่ชายชุดสูทออกไปจากบ้าน
“ท่านมินาโฮะบริษัทของเรายัง..”
“รีบๆกลับไปได้แล้ว! บอกไปแล้วไม่ใช่รึไงว่ารำคาญ”
แม้จะโดนไล่ชายชุดสูทก็ยังพยายามชักชวนมินาโฮะ
เซอิจิผลักชายคนนั้นออกไปและล็อคประตู
“ให้ตายสิ มันกี่โมงกี่ยามแล้วรู้รึป่าว…”
เซอิจิบ่นและกำลังจะเดินกลับไปที่ห้อง
แต่มินาโฮะจะชายแขนเสื้อของเขาเอาไว้
“หืม? อะ ข ขอโทษนะ ที่โกรธและไล่ไปเองตามใจชอบนะ ไม่เป็นอะไรใช่มั้ย?”
“อืม.. คือว่า….”
มินาโฮะกล้มหน้าและพูดออกมาเบาๆ
เซอิจิระหว่างที่คิดว่าเธอยังเป็นคนที่เย็นชาเหมือนเดิม ก็ฟังเธอพูด
“….ขอบคุณ….”
“อะ โอ้ว…”
นานมากแล้วที่มินาโฮะเคยพูดขอบคุณกับเซอิจิ
เพราะว่าพักนี้ไม่เคยได้สนทนากันจริงๆจังๆกันสักครั้ง เลยไม่มีโอกาสได้รับคำขอบคุณ
ระหว่างที่เซอิจิคิดว่าดีจริงๆที่ได้พูดแบบนั้นออกไป คิดว่าเธอจะรำคาญ เขาพูดกับมินาโฮะ
“เธอเองถ้ามีปัญหาอะไร ก็บอกมาได้เลย ถึงช่วงนี้จะไม่ค่อยได้คุยกันก็เถอะ แต่อย่างไงชั้นก็เป็นพี่เธอนะ”
นานมาแล้วที่เขาไม่ได้ยิ้มให้เธอและพูดอะไรที่สมกับเป็นพี่ชายออกไป
“อืม… เอางั้นก็ได้… ขอบคุณนะ… พี่…”
“อะ โอ้ว”
เซอิจิคิดว่านี่มันครั้งแรกในรอบปีเลยนะที่เธอเรียกว่า “พี่”
ตอนประถมก็ยังเรียกอยู่หรอก แต่ช่วงไม่กี่ปีมานี้ไม่เคยมีเลย
ถูกเรียกแค่”นาย”ไม่ก็”นี่ เดี๋ยวสิ”เท่านั้น
มินาโฮะหน้าแดงนิดหน่อย เพราะเธอไม่ได้พูดแบบนี้มานาน
“ถ้างั้น ชั้นกลับห้องก่อนนะเหนื่อยสุดๆเลย แล้วพ่อกับแม่ล่ะ?”
“ไม่อยู่….อะนี่”
“หืม?”
เซอิจิรับเมมโมมาจากมินาโฮะ
เป็นจดหมายที่แม่เขียนไว้
‘ถึงลูกรัก คืนนี้พ่อกับแม่ติดธุระด่วนไม่ได้กลับบ้าน ส่วนกับข้าวใช้ของในตู้เย็นทำกินเองนะ ปล.อาจจะเมากลับมา’
“ก็แค่ปาร์ตี้วงเหล้า ธุระด่วนอะไรกันล่ะ”
ระหว่างที่อ่ามเมมโมเซอิจิก็ถอนหายใจ
สรุปคือไม่มีกับข้าว วันนี้ต้องทำข้าวกินเอง
“เห้อ อยากจะพักสักหน่อยแท้ๆ มินาโฮะกินอะไรรึยัง?”
“ยังไม่ได้กิน…ก็เพราะโดนคนนั้นรบกวน”
มินาโฮะเริ่มกลับไปเป็นแบบเดิม
ปกติไม่ได้ค่อยได้พูดกันเท่าไร แต่เพราะวันนี้มีเหตุการณ์นั้นเกิดขึ้นเลยทำให้พูดกันได้บ้าง
“อาา อย่างนี้เอง เวลา.. 2ทุ่มสินะ เธอจะไปกินด้วยกันมั้ย”
“กะ กับนาย?”
“อา เวลานี้จะให้ทำกินเองมันก็ลำบาก ออกไปหาอะไรกินง่ายกว่าว่ามั้ย? น่าจะพอมีเงินเหลืออยู่บ้าง อะ ไปคาราโอเกะมานี่หว่า..”
เซอิจิลืมไปว่าเอาเงินไปใช้กับคาราโอเกะและอื่นๆหมดแล้ว ทำให้เป๋าแฟ่บ
มินาโฮะถอนหายใจ หยิบกระเป๋าตังเธอและพูดขึ้นมา
“ช่วยไม่ได้นะ…เดี๋ยวออกให้”
“จ จริงดิ!”
“อืม ก็เพิ่งได้เงินค่าโมเดลมาด้วย และก็..ได้นายช่วยไว้”
“โอ้ว! งั้นไปกันเถอะ วันนี้เกิดเรื่องมากมาย พี่ชายเหนื่อยจังเลยน้า~”
เซอิจิรู้สึกดีขึ้นมาเล็กน้อย
“อยากจ่ายเอง?….”
“ขอโทษครับ…”
TL: หลบไปเรือน้องสาวมาแล้ว