[ นิยายแปล ] สารภาพรักไป99ครั้งก็ยังไม่ไหวงั้นหรอ!? - ตอนที่ 12
TL: ขึ้นบทใหม่แล้ว
“หา! อะไรของแก!”
“ไอ้เวรนี่ อยากโดนรึไง!”
“ย ยังไม่ได้ทำอะไรเลยนะครับ…”
เซอิจิโดนหาเรื่องโดยนักเลง
หลังจากร้องคาราโอเกะกันเสร็จแล้ว ทุกคนต่างแยกย้ายกันกลับบ้าน
“อาก 2วันติดๆกันเลยหรอเนี่ย”
ขณะที่เซอิจิกำลังเดินกลับและฮัมเพลงไปด้วยก็พบปัญหาที่เจอติดๆกัน2วัน
“เห้อ~ วันนี้แบบว่าเหนื่อยจังเลยน้า~ อยากรีบกลับไปนอนไวๆจัง”
ขณะที่บิดขี้เกียจเขาก็พึมพำออกมา
หลังเดินมาได้สักพัก เขาก็มาถึงสถานที่ที่ช่วยคิรินไว้
“จะว่าไปเมื่อวานตรงนี้เป็นที่ที่ได้ยินเสียงร้องของยามาเสะซังนี่นา”
่เซอิจิหยุดเดินและมองขึ้นไปบนฟ้าหวนนึกถึงเหตุการณ์เมื่อวาน
“เห้อ~ ถูกปฏิเสธไปจริงๆสินะ”
เซอิจิบิดขี้เกียจอีกรอบ
“อาา ไอ้เหตุการณ์เมื่อวานถ้าตามมังงะมันต้องกลายเป็นฉากปักธงสิ~”
แต่ความจริงนั้นไม่เหมือนกัน
เซอิจิยอมแพ้ และเริ่มเดินต่อ
“อื้ม แต่ไอ้เหตุการณ์แบบนั้นคงไม่เกิดขึ้นอี…”
“ไม่นะ! ปล่อยนะ!”
เซอิจิได้ยินเสียงผู้หญิงขณะที่คิดว่าคงไม่มีเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีกแล้ว
“ร หรือว่า ยามาเสะซั….”
“ปล่อยฉันเถอะค่ะ!”
“เฮะเฮะ ไม่เห็นเป็นไรเลย ไปด้วยกันหน่อยสิ”
ตอนแรกคิดว่าเป็นยามาเสะซังที่ร้องขอความช่วยเหลือ แต่เสียงที่ดังมานั้นมาจากผู้หญิงที่ไม่รู้จักเลยสักนิดกับนักเรียนมอปลายอีก3คนที่ดูแต่งตัวไม่เรียบร้อย
“ไม่ใช่นี่หว่า!”
เซอิจิเผลอตบมุกตัวเองในสถานการณ์แบบนี้
พอได้ยินแบบนั้นทางผู้หญิงก็ทำหน้าแบบ”อะไรของหมอนี่”
“ไอ้เจ้าเทพบ้า! ตรงนี้มันต้องเป็นสถานการณ์ที่ให้ชั้นปักธงยามาเสะซังไม่ใช่รึไงกัน!”
เพราะเขายังชอคที่โดนปฏิเสธอยู่ ทำให้เซอิจิเกรี้ยวกราด
“เห้อ เผลอหลุดไปอีกแล้ว”
“อะไรของแกวะ?”
“อย่ามายุ่งนะโว้ยย!”
“อะ… แย่ละ..”
หลังจากที่เซอิจิสงบสติอารมได้ก็เห็นว่าอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากแล้ว
เพราะส่งเสียงดังเกินไป จึงโดนพวกนักเรียนพวกนั้นล้อมไว้แล้ว
“เห้ย ไอ้เจ้านี่มันคงคิดจะมาช่วยผู้หญิงสินะ”
“ว้าว เท่จังเลย~ แต่เสียใจด้วยว่ะ อย่าหวังว่าจะให้ไป”
เซอิจิที่เพิ่งผ่านเรื่องร้ายๆมาและคิดว่ามันคงจบไปแล้ว
น่าอัศจรรย์ที่มีเรื่องแบบนี้เกิดติดๆกัน2วัน ในชีวิตเขาก็จริง แต่เขาคิดว่าวันนี้อาจจะช่วยไม่ได้แบบเมื่อวานก็ได้
“อะ เอาน่า ผู้หญิงคนนั้นเหมือนจะไม่ชอบฉันด้วยสิ ใจเย็นๆก่อน”
“หา? พูดอะไรของแกวะทั้งๆที่เข้ามาขัดจังหวะแท้ๆ อา พอดีเลย ช่วงนี้ไม่ค่อยมีเงินพอดี ส่งมาหน่อยเด๊ะ!”
เซอิจิกำลังประสบปัญหาใหญ่
เพราะวันนี้พวกเซอิจิไปคาราโอเกะกันด้วย ทำให้กระเป๋าแฟ่บ
“เอ่อ เงินก็ไม่มีหรอก…”
“เห้ยๆ อย่ามาโกหกสิวะ”
“อ่า น่ารำคัญว่ะ รีบๆเอากระเป๋าตังมันมา และพาผู้หญิงคนนี้ไปที่อื่นดีกว่า”
เซอิจิขณะที่กำลังฟังพวกนั้นบ่นอะไรไร้สาระอยู่ ก็มองดูสถานการณ์ปัจจุบัน
แขน1ข้างของผู้หญิงถูกจับไว้อย่างแน่นโดยชาย1คน
ถนนนั้นก็แคบ เส้นทางหนีจึงไม่ค่อยมี
สรุปจาก2อย่างนี้ เซอิจิคิดในใจ
(นี่มัน… โคตรแย่เลยนา…)
เซอิจิคิดวิธีการไม่ออกและเริ่มทำตัวสิ้นหวัง
เพราะด้วยวันนี้รู้สึกไม่ค่อยมีกะจิกกะใจในการทำอะไรเลย
เซอิจิเริ่มเข้าสู่โหมดยอมแพ้ และพูดกับนักเรียนพวกนั้น
“อ้าา อยากทำอะไรก็เชิญ น่ารำคาญ”
“อะไรของมึงวะ ท่าทีแบบนั้น!!”
“อย่าเอาแต่พูดสิค้าบ รีบๆลงมือสักสิ คับคับ กลัวแล้วๆ~ แบบนี้โอเคมั้ย?”
“มึงอย่ามาล้อเล่นนะโว้ยย!”
นักเรียนคนนึงจับคอเสื้อเซอิจิและตะคอกใส่
แต่เซอิจิก็ไม่ได้เปลี่ยนสีหน้าท่าทางแต่อย่างใดและหาวออกมา
“ฮ่าาว อา อยากรีบกลับไปนอนแล้ว จะทำอะไรกับผู้หญิงคนนั้นก็เชิญ รีบๆต่อยชั้นและปล่อยไปสักที”
“เอ๋? ไม่ได้จะช่วยหรอ?”
ผู้หญิงที่เงียบมาตลอดนั้น พูดออกมาด้วยท่าทีตกใจ
เซอิจิตอบกลับไป
“การยอมแพ้เป็นทางออกที่ดีที่สุดเลยนะ ไม่คิดอย่างนั้นหรอ”
“แล้วเธอมาทำอะไรกันล่ะคะ!”
เซอิจิยิ้มและตอบกลับเรื่องยอมแพ้ไป ทำให้ผู้หญิงตระโกนออกมา
แม้แต่พวกผู้ชายยังซ่อนความรู้สึกงงๆไม่ได้
“อะ ไอ้นี่ น่าขยะแขยงว่ะ”
“หุบปาก ลงมือมาได้แล้ว!”
“มาที่นี่มาทำอะไรกันแน่คะ…”
“เออ ถ้าพูดถึงขนาดนั้นละก็ต้องจะจัดให้สมพรปากเลยละกัน”
ผู้ชายคนหนึ่งชูหมัดแล้วต่อยเข้าไปที่เซอิจิ
เซอิจิที่รออยู่แล้วนั้นรับหมัดที่ต่อยมาแล้วก็จับคนที่ต่อยมาทุ่มหลังลงไปที่พื้น
“อัก”
เพราไม่มีอะไรกันหลังเขา ทำให้หลังของเขาลงพื้นไปเต็มๆ เจ็บแบบไม่ต้องสงสัย
“ไอเชี่ย!!”
“มันหลอกเรอะ!”
เซอิจินั้นรอเวลานี้อยู่
เพราะข่าวลือที่ว่าคิรินชอบผู้ชายแข็งแรง เซอิจิจึงเข้าชมรมจูโด เลยมีประสบการณ์จูโดอยู่บ้าง
เพื่อที่จะทุ่มลงไปได้นั่น จำเป็นต้องจับอกเสื้อของคู่ต่อสู้แล้วทุ่ม เซอิจิจึงรอโอกาสอยู่
“อ่า น่ารำคาญดูไม่มีท่าทีเปลี่ยนใจกันเลย”
“มึงง อย่ามาทำเป็นเล่นนะโว้ย!”
ผู้ชายอีกคนวิ่งมาชกเซอิจิ
เซอิจิผ่อนแรง รับหมัดคู่ต่อสู้และจับทุ่มลงไปอีกคน
“อุหวาา”
“ก แก”
เหลือเพียงแค่ผู้ชายที่จับแขนผู้หญิงอยู่
เซอิจิพูดขู่ออกไป
“ถ้าไม่อยากเจ็บตัวก็ปล่อยเธอ แล้วจะไปไหนก็ไปซะ”
“แม่งเอ้ย”
หลังจากที่เซอิจิพูดผู้ชายคนนั้นก็วิ่งหนีหายไป
(อา อยากจะพูดแบบนั้นมานานแล้วน้า~ แต่ว่าดีจัง ที่ไม่ได้วิ่งหนีมาก่อน ไม่งั้นคงโดนจัดการไปแล้ว)
เซอิจิจัดชุดตัวเองให้เป็นระเบียบ
เซอิจินั้นเพิ่งเข้าชมรมจูโดผ่านมาไม่กี่สัปดาห์
แค่เวลาสั้นๆไม่สามารถทำให้เก่งขั้นแข็งแกร่งได้หรอก วันนี้เซอิจิแค่พนันกับท่าจับทุ่มไปเท่านั้นเอง
เซอิจิจำวิธีใช้ท่าพวกนี้ได้ เลยลองใช้ออกมา เขาคิดว่าที่มันสำเร็จคงเพราะบังเอิญ