[นิยายแปล] มีชีวิตสโลว์ไลฟ์ด้วยพร「สร้างหมู่บ้าน」 สุดแกร่ง - ตอนที่ 16
Ch.16 – นี่มันอร่อยเกินไปแล้ว
Provider : Paradox
ผักที่พวกเราเพิ่งจะเก็บเกี่ยวมามีรสชาติที่อร่อยอย่างไม่น่าเชื่อ
“ป-เป็นอะไรรึเปล่าครับ หัวหน้าหมู่บ้าน”
“อ๊ะขอโทษทีครับ พอดีว่ารสชาติมันอร่อยเกินไปหน่อยน่ะครับ ก็เลยเผลอตะโกนออกมาซะดังเลย”
ผมกล่าวขอโทษคุณเบลริทที่กำลังจ้องมองมาที่ผมด้วยความแปลกใจ
“คุณเบลริทครับ ทำไมถึงไม่ลองชิมนี่ซักหน่อยล่ะครับ”
“ได้ครับ กระผมขอรับข้อเสนอนี้ไว้ก็แล้วกันครับ”
เขากล่าวออกมาและหลังจากนั้นก็กัดลงไปที่หัวผักกาด
ในวินาทีต่อมา ดวงตาของเขาก็เบิกโพลงทันที
“อร่อยโพดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด”
ปฏิกิริยาของพวกเรานี่คล้ายกันเลยแฮะ
“ถึงปกติแล้วหัวผักกาดที่เพิ่งเก็บเกี่ยวสดๆมาจะมีรสชาติที่สุดยอดก็จริงเถอะ แต่นี่มันอะไรกันเนี่ย กระผมไม่เคยได้ทาน…หัวผักกาด…ที่อร่อยขนาดนี้มาก่อน…”
บางทีอาจเป็นเพราะเขาตื่นเต้นมาก เลยทำให้คุณเบลริทยังคงเคี้ยวหัวผักกาดคำพูดคำ
หลังจากนั้น พวกเราก็ได้ตัดสินใจจะจัดงานเฉลิมฉลองสำหรับการเก็บเกี่ยวที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก
ซึ่งอาหารในงานก็มาจากผักที่พวกเราเพิ่งจะลงแรงเก็บเกี่ยวมาและยังใช้เนื้อบางส่วนที่ได้มาจากการล่าหมูป่าและกวางโดยกลุ่มที่เซเลนเป็นคนนำไปล่ามาอีกด้วย
อีกอย่างผมเองก็ได้สร้างครัวกลางแจ้งขึ้นมาซึ่งใช้แต้ม 60 แต้ม เพราะพวกเราไม่เพียงสามารถใช้ที่นี่ในการตระเตรียมเนื้อสัตว์สำหรับคนกลุ่มใหญ่แต่ยังคงเป็นสถานที่ที่จะทำการแล่เนื้อสัตว์ที่พวกเราล่ามาได้อีกด้วย ซึ่งเป็นสิ่งอำนวยความสะดวกที่ค่อนข้างจะคุ้มค่าเลยทีเดียว
“เอาล่ะ แด่การเก็บเกี่ยวที่สำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดีเช่นเดียวกับการพบพานมิตรสหายใหม่…ไชโย!”
“““ไชโย!!!”””
ผมได้เสนอที่จะทำการดื่มอวยพรไปและทุกคนก็เห็นด้วยอย่างรวดเร็ว
แต่เนื่องจากที่หมู่บ้านนี้ยังไม่มีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ดังนั้นในส่วนเครื่องดื่มพวกเราก็เลยใช้น้ำจากบ่อน้ำแทนล่ะนะ
“อะไรกัน!? ข้าไม่อยากจะเชื่อเลย!”
“นี่มันอร่อยเกินไปแล้ววววววววววววววว!!”
สามารถที่จะได้ยินเสียงตะโกนดังกล่าวได้ทุกที่
“เห้ย เห้ย เห้ย ไม่ใช่ว่านี่มันอร่อยเกินไปหรอกเรอะ ทั้งชีวิตนี้ข้าเพิ่งเคยได้กินของอร่อยแบบนี้เป็นครั้งแรกนี่แหละ”
“ของพวกนี้ถูกทำโดยภรรยาของพวกเราเองจริงๆรึนี่!”
“…ส่วนผสมพวกนี้มัน โดยเฉพาะผักที่เพิ่งเก็บเกี่ยวมาช่างสุดยอด”
ทุกคนได้แต่ตกตะลึงกับรสชาติอันโอชะของอาหาร
อย่างไรก็ตามในช่วงนั้นเอง
“ห-หัวหน้าหมู่บ้านครับ!”
ถึงแม้ว่าตอนนี้จะอยู่ในช่วงการเฉลิมฉลองดังกล่าวอยู่ แต่ก็ยังคงมีชายหนุ่มคนหนึ่งได้เฝ้าตรวจตราหมู่บ้านจากข้างบนหอสังเกตการณ์ อย่างไรก็ตามตอนนี้เขาได้รีบปีนลงมาและกำลังรีบร้อนตามหาผมอยู่
“เกิดอะไรขึ้น มีสิ่งผิดปกติงั้นเหรอ”
“มีกลุ่มคนกลุ่มหนึ่งกำลังมุ่งหน้ามาที่หมู่บ้านครับ”
“เอ๋”
กลุ่มนี้เองก็ดูเหมือนจะเป็นผู้อพยพเช่นกัน โดยครั้งนี้มีประมาณ 40 คน
พวกเขาแต่ละคนดูเหนื่อยล้าอย่างเห็นได้ชัด แต่พอพวกเขาได้มาถึงหน้าหมู่บ้านและสามารถยืนยันได้ว่าหมู่บ้านที่พวกเขาเห็นไม่ใช่อะไรอย่างภาพลวงตาที่พวกเขาได้คิดไปเอง สีหน้าของพวกเขาก็เต็มไปด้วยความตกตะลึง อีกทั้งเมื่อพวกเขาได้กลิ่นของอาหารที่ถูกจัดเตรียมไว้ในงานเฉลิมฉลองพวกเขาก็อดไม่ได้ที่จะเผลอกลืนน้ำลาย
“สวัสดีครับ ยินดีที่ได้พบครับ ผมมีชื่อว่าลุคและมีตำแหน่งเป็นหัวหน้าหมู่บ้านของที่นี่ครับ”
“เด็กอย่างนายเนี่ยนะเป็น… โอ๊ะ ต้องขออภัยด้วยครับ ยินดีที่ได้พบเช่นกันครับ กระผมมีนามว่าดอนกะครับ”
เมื่อชายที่ดูเหมือนจะมีอายุราว 30 ปีได้กล่าวชื่อของเขาออกมา คุณเบลริทก็ได้ตะโกนออกมาด้วยเหตุบางอย่าง
“ดอนกะ!? นั่นแกเองรึนี่ ไม่ได้เจอกันนานเลยนี่หว่า!”
“โอ้ แกมันเบลริท…เองไม่ใช่หรอกเรอะ!”
คุณดอนกะได้ตกตะลึงไป
“พวกคุณทั้งสองคนเคยรู้จักกันมาก่อนเหรอครับ”
“ใช่ครับพวกเราเคยรู้จักกันมาก่อน ย้อนกลับไปในวันวาน ดอนกะมักจะมาเยี่ยมเยียนที่หมู่บ้านของพวกเราอยู่เสมอ และหมู่บ้านของพวกเราทั้งสองก็ได้มีปฏิสัมพันธ์กันในหลายเรื่องอย่างเช่นการค้าขาย แต่สำหรับดอนกะแล้วเหตุผลหลักที่เขามายังหมู่บ้านของพวกเราบ่อยครั้งเป็นเพราะว่าเขาได้ตกหลุมรักน้องสาวของกระผม… แต่ช่างอนิจจาเสียจริงที่เธอได้ปฏิเสธและทำให้เป็นได้เพียงแต่ความรักที่ไม่สมหวัง”
“แกอย่าเอาเรื่องในอดีตออกมาพูดได้ไหมฟะ!? เห็นแบบนี้แต่ข้าเองก็มีภรรยาและลูกๆแล้วนะเฟ้ย”
ดูเหมือนว่าพวกเขาสองคนจะดูสนิทชิดเชื้อกันดีนะ
และดูเหมือนว่าน้องสาวที่ว่านั่นก็เหมือนจะไปแต่งงานกับผู้ชายจากหมู่บ้านอื่นไปแล้ว
“เดี๋ยวนะ ถ้าแกอยู่ที่นี่… ก็แปลว่าหมู่บ้านของแกก็…”
“ใช่แล้ว พวกเราได้ทิ้งหมู่บ้านของพวกเราเอาไว้ข้างหลัง ถึงมันจะเป็นการเดินทางที่แสนลำบากยากเข็ญ แต่ในท้ายที่สุดมันก็จบลงเมื่อไม่กี่วันก่อนเมื่อพวกเราได้มาถึงยังหมู่บ้านแห่งนี้”
“แต่ว่านะ ข้าเองไม่เห็นเคยได้ยินมาก่อนเลยว่ามีหมู่บ้านมาตั้งอยู่ในดินแดนรกร้างด้วย…”
มันคงจะเป็นเรื่องง่ายละนะ ถ้าคนในกลุ่มนี้เป็นคนรู้จักของคุณเบลริท
พวกเขาคงกำลังหิวโหยอยู่แน่ ดังนั้นผมเลยได้พูดแทรกขึ้น
“ผมคิดว่ารายละเอียดในเรื่องนี้เดี๋ยวพวกเราค่อยมาพูดกันทีหลังดีกว่า แต่ตอนนี้พวกคุณต้องการมาร่วมกับพวกเราไหมครับ พอดีในตอนนี้พวกเรากำลังจัดงานเฉลิมฉลองสำหรับการเก็บเกี่ยวได้สำเร็จอยู่น่ะครับ”
“ท่าน…แน่ใจเหรอครับ”
“แน่นอนสิครับ”
แน่นอนว่าไม่มีใครในที่นี้ที่คัดค้านความคิดนี้ พวกเขาได้รู้ซึ้งถึงความยากลำบากของคนกลุ่มนี้มาก่อน ดังนั้นพวกเขาจึงต้อนรับคนพวกนี้ด้วยความอบอุ่น