[นิยายแปล] มีชีวิตสโลว์ไลฟ์ด้วยพร「สร้างหมู่บ้าน」 สุดแกร่ง - ตอนที่ 15
Ch.15 – พวกนี้ทั้งหมดมันใหญ่เกิ๊น!
Provider : Paradox
ชื่อ : มิเลีย
อายุ : 21 ปี
ความสัมพันธ์ต่อหมู่บ้าน : สูงมาก
อาชีพที่เหมาะสม : นักบวช
พร : (ผู้พยากรณ์)
ช่างน่าประหลาดใจซะจริงที่แม้แต่มิเลียเองก็มีพรซ่อนเร้นอยู่ด้วย
ยิ่งไปกว่านั้น พรนี้ไม่ใช่พรอันอื่นใดเลยนอกจากพรที่มีความสามารถในการทำพิธีรับพรให้กับผู้อื่นได้ เนื่องจากโดยปกติแล้วศาสนจักรจะเป็นผู้ที่ผูกขาดพรนี้ ดังนั้นจึงเป็นเรื่องที่ยากมากที่จะพบเจอผู้ที่มีพรนี้และไม่ได้อยู่ในสังกัดของศาสนจักร
จะว่าไปแล้วคนที่จะทำพิธีรับพรให้กับคนอื่นได้นี่จำเป็นต้องเข้าพิธีรับพรก่อนรึเปล่านะ
แต่ว่าด้วยความจริงที่ว่า แม้แต่โบสถ์ที่ใกล้ที่สุดที่สามารถทำพิธีรับพรได้ก็ยังอยู่ห่างไกลแสนไกลจากหมู่บ้านของเรามาก อีกทั้งพวกเราเองก็ไม่ได้มีเงินมากพอที่จะใช้เข้าพิธีรับพรอีกด้วย
“แล้วพวกเราควรจะทำยังไงดีล่ะ…”
“ท่านลุคคะ มีอะไรเหรอคะ”
“คือว่านะ…”
ผมคิดว่ามันคงจะไม่ดีเท่าไหร่ที่จะปิดบังเรื่องนี้กับเจ้าตัวเอง ดังนั้นผมจึงตัดสินใจบอกเธอ แน่นอนว่าผมก็จำเป็นต้องบอกเธอเกี่ยวกับเรื่องสกิลประเมินชาวบ้านที่ปิดเป็นความลับมาจนถึงตอนนี้อีกด้วย
และเพื่อที่จะป้องกันไม่ให้เกิดความเสี่ยงที่เซเลนจะโกรธใส่ผมและพูดว่า ‘ทำไมนายถึงไม่บอกเรื่องนี้กับฉันบ้างละห๊ะ!?’ ผมเลยตัดสินใจเรียกเธอมาด้วยเช่นกัน
““ประเมินชาวบ้านเหรอ””
“ถูกต้อง”
“ดูเหมือนว่าพรของนายนับวันนี่ชักจะหลุดโลกขึ้นไปทุกทีแล้วนะเนี่ย…”
“สุดยอดไปเลยค่ะท่านลุค ท่านนี่ช่างเป็นที่รักของเหล่าทวยเทพจริงๆ”
ตรงกันข้ามกับเซเลนที่ดูจะอึ้งทึ่งจนพูดไม่ออก มิเลียได้พูดชมผมอย่างตรงไปตรงมา
“ก็อย่างที่บอกไป ผมได้แอบใช้สกิลนี้กับมิเลียไป”
“ดิฉันเองก็ไม่ได้รังเกียจอะไรหรอกนะคะและยังไม่มีปัญหาที่จะเปิดเผยทุกอย่างให้ท่านรู้อีกด้วยนะคะ อย่างเช่นเรื่อง ร่างกายของดิฉัน…”
“ยัยนี่ เลิกยั่วยวนลุคทุกครั้งที่มีโอกาสจะได้ไหม!”
ได้โปรดช่วยหยุดทะเลาะกันทีเถอะครับ
ผมสัมผัสได้ถึงความอันตรายหากถามมิเลียไปว่าเมื่อกี้กำลังจะพูดว่าอะไร ดังนั้นผมเลยตัดสินใจที่จะทำเป็นไม่ได้ยินเรื่องนั้นและทำเป็นพูดเปลี่ยนเรื่องแทน
“ซึ่งผลลัพธ์จากการที่ใช้สกิลนั้นกับเธอก็ทำให้ผมได้รู้ว่าเธอนั้นมีพรแฝงเร้นอยู่ ซึ่งหากเธอได้เข้าพิธีรับพร เธอก็จะสามารถใช้พรนั่นได้”
“มันบอกนายได้ขนาดนั้นเลย…”
เหมือนว่าเซเลนจะช็อกอีกครั้งไปซะแล้ว จากนั้นผมก็บอกกับพวกเธอต่อว่าพรแฝงเร้นของมิเลียก็คือ「ผู้พยากรณ์」
“「ผู้พยากรณ์」งั้นเหรอ หมายความว่าถ้าหากเธอมีพรนี้อยู่ เธอก็จะสามารถทำพิธีรับพรให้กับใครก็ได้ในหมู่บ้านที่มีพรแฝงเร้นอยู่สินะ”
“ใช่แล้ว แต่ปัญหาก็คือตัวเธอเองต้องเข้าพิธีรับพรก่อน เพื่อทำให้ใช้พรนี้ได้น่ะสิ”
ผมเองก็ไม่ได้คิดว่าจะได้คำตอบหลังจากการพูดคุยกับพวกเธอหรอก ผมก็แค่อยากจะบอกสถานการณ์ให้พวกเธอรับรู้บ้างก็แค่นั้นเอง
“「ผู้พยากรณ์」งั้นเหรอ… ดิฉันอยากรู้จริงว่าจะได้รับพรนั้นได้อย่างไร”
มิเลียทำหน้าอ่อนโยนแล้วพูดออกมาแบบนั้น บางทีเธออาจกำลังคิดทำนองว่าเธอจะสามารถช่วยในการพัฒนาหมู่บ้านได้มากแค่ไหนหากเธอสามารถปลดล็อคพรนั้นได้ มิเลียซึ่งเป็นชาวบ้านคนแรกอาจจะทุ่มเทให้กับหมู่บ้านมากกว่าที่ผมคิดก็ได้ ทำให้ความสัมพันธ์ต่อหมู่บ้านของเธออยู่ในระดับที่สูงมากสินะ
อืม ก็คงจะเป็นแบบนี้นั่นแหละ
3 วันได้ผ่านไปหลังจากที่ชาวบ้านกลุ่มใหม่ได้เข้ามาอาศัยอยู่ในหมู่บ้าน
ซึ่งเป็นช่วงที่พวกเราจะทำการเก็บเกี่ยวผลผลิตครั้งแรกพอดี
“ว้าวนี่มันอะไรกันละเนี่ย พวกนี้ทั้งหมดมันใหญ่เกิ๊น!”
“พวกผักตรงนี้เองก็ด้วย ขนาดของพวกมันช่างใหญ่จนน่าทึ่งซะจริง!”
การแสดงออกเช่นนี้ มีทั่วลานเพาะปลูกเต็มไปหมด
ต้องขอบคุณความช่วยเหลือจากทุกคนจริงๆ ที่ทำให้พวกเราสามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตหมู่แรกเสร็จได้ในเวลา 2 ชั่วโมง โดยส่วนหมู่แรกที่พูดถึงก็คือพื้นที่ 2 ใน 4 ลานเพาะปลูกที่พวกเรามีตั้งแต่ตอนแรกสุด
ถึงจะรู้ว่าพืชผลพวกนี้โตเร็วกว่าปกติมากก็เถอะ แต่นี่มันผ่านไปเพียงแค่เกือบเดือนเท่านั้นก็สามารถที่จะเก็บเกี่ยวผลผลิตได้แล้ว
“ช่างมหัศจรรย์ยิ่งนัก หัวหน้าหมู่บ้านนี่น่าจะเป็นเพราะคุณภาพดินของลานเพาะปลูกต้องสูงมากแน่ๆ แม้แต่กระผมเองก็ยังไม่เคยพบเห็นพืชผลที่โตมาได้ใหญ่ขนาดนี้มาก่อนเลยครับ!”
คุณเบลริทผู้ซึ่งมีความรู้ในด้านการเกษตรมากกว่าผมได้บอกมาแบบนั้น
อนึ่งเนื่องจากการที่เขามักจะเรียกผมว่า“ท่านหัวหน้าหมู่บ้าน”ซึ่งมันน่าอายเกินไป ผมเลยบอกให้เขาเรียกผมแค่“หัวหน้าหมู่บ้าน”ก็พอ
“พอลองมองดูแล้ว แม้แต่พืชผลนอกฤดูกาลก็ดูจะเติบโตได้ดีไม่มีปัญหาอะไรนะ”
บนลานเพาะปลูกลานอื่น พืชผลที่ปกติจะโตในฤดูใบไม้ร่วงก็ดูจะเติบโตไปได้ด้วยดี ถึงแม้ว่าตอนนี้จะอยู่ในฤดูใบไม้ร่วงก็ตามที
ผมเองก็ไม่ได้รู้ในเรื่องการเกษตรมากนัก ดังนั้นผมเลยลองปลูกเมล็ดพันธุ์ทุกประเภทที่มี โดยหวังว่าจะยังพอมีบางส่วนที่สามารถโตขึ้นได้บ้าง แต่ต้องขอบคุณจริงๆที่เมล็ดพันธุ์เหล่านี้ไม่ได้จบที่เสียเปล่าเลย
“หัวหน้าหมู่บ้านครับ ในเมื่อท่านเป็นคนปลูกพืชผลพวกนี้ขึ้นมาเอง ทำไมท่านถึงไม่ลองลิ้มรสชาติพวกมันซักหน่อยล่ะครับ”
“หืม แต่ว่ามันจะปลอดภัยเหรอ”
“ทำไมจะไม่ล่ะครับ ผักพวกนี้เป็นผักที่สามารถรับประทานแบบดิบๆได้เลยน่ะครับ”
ผมก็ดีใจอยู่หรอกที่มันโตมาได้ใหญ่ขนาดนี้ แต่มันจะรสชาติดีด้วยรึเปล่าเนี่ย
ผมได้คิดแบบนั้นขณะที่กัดลงไปที่ผัก—หัวผักกาด—ที่คุณเบลริทมอบให้อย่างระมัดระวัง
“หืม~~~~~~~~~!?”
“ทำไมเหรอครับหัวหน้าหมู่บ้าน”
“นะ นะ นี่มันจะอร่อยเกินไปแล้วววววววววววววววววววว!?”