[นิยายแปล] มีชีวิตสโลว์ไลฟ์ด้วยพร「สร้างหมู่บ้าน」 สุดแกร่ง - ตอนที่ 12
Ch.12 – เมื่อกี้กำแพงมันขยับได้เองเรอะ…
Provider : Paradox
เอ๋ เดี๋ยวนะนี่มันอะไรกันล่ะเนี่ย
<<เลเวลหมู่บ้านของคุณได้เพิ่มขึ้น>>
แปลว่ายิ่งมีชาวบ้านมากขึ้นก็จะทำให้เลเวลหมู่บ้านเพิ่มขึ้นตามงั้นเหรอ ว่าแต่เจ้าสิ่งที่เรียกว่า ‘เลเวลหมู่บ้าน’ นี่มันคืออะไรละเนี่ย ถึงตอนนี้ผมก็ยังไม่ค่อยเข้าใจซักเท่าไหร่ว่ามันทำอะไรได้…
หมู่บ้านของลุค
เลเวลหมู่บ้าน : 3
แต้มหมู่บ้าน : 764 (จะได้รับ 83 แต้มต่อวัน)
จำนวนชาวบ้าน : 53
สกิลหมู่บ้าน : 「ประเมินชาวบ้าน」,「ย้ายตำแหน่ง」
เพราะว่าได้สิ่งที่เหมือนจะเป็นโบนัสจากการเลเวลอัพ เลยทำให้ผมได้รับแต้มหมู่บ้านมามากถึง 500 แต้มในรวดเดียวเลยทีเดียว
มากกว่านั้นจำนวนแต้มหมู่บ้านที่ได้รับต่อวันก็เพิ่มขึ้นมากเช่นกัน
ไม่ใช่ว่าแต้มที่ได้รับต่อวันจะเพิ่มขึ้น 1 แต้มต่อจำนวนชาวบ้านที่เพิ่มขึ้น 1 คนงั้นเหรอ… หรือว่าผมคิดผิดมาตลอด
<<เพราะว่าตอนนี้หมู่บ้านมีเลเวล 3 เลยทำให้ได้รับแต้มพื้นฐาน 30 แต้มต่อวัน>>
อ๋อแบบนี้นี่เอง ถ้าเรารวมแต้มพื้นฐานที่ได้รับต่อวันกับจำนวนชาวบ้านในหมู่บ้าน ก็จะได้ 30 + 53 = 83 แต้มพอดีสินะ
พูดตามตรง ถึงแม้ว่าผมจะเป็นคนเชิญพวกเขาแต่ผมก็กังวลอยู่ว่าจะให้กลุ่มของพวกเขาอาศัยอยู่ที่นี่ยังไง แต่ตอนนี้ด้วยแต้มโบนัสที่ที่ได้รับมาบวกกับแต้มที่ได้รับต่อวันก็น่าจะเพียงพอแล้วล่ะนะ
อ๊ะ ไม่ใช่ว่าตอนนี้ผมสามารถสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกอย่างอื่นได้แล้วเหรอ
<<เนื่องจากหมู่บ้านถึงเลเวล 2 แล้ว คุณจึงมีสิทธิที่จะสามารถสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกชนิดใหม่ด้วยแต้มหมู่บ้านได้ดังนี้>>
หลุมฝังขยะ 30
แปลงนา 30
สวนสาธารณะ 30
โรงปศุสัตว์ 80
ตึกแถว 80
<<เนื่องจากหมู่บ้านถึงเลเวล 3 แล้ว คุณจึงมีสิทธิที่จะสามารถสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกชนิดใหม่ด้วยแต้มหมู่บ้านได้ดังนี้>>
กำแพงหิน 50
เตาเผาขยะ 60
ครัวกลางแจ้ง 60
เรือนจำ 80
บ้านขนาดกลาง 100
“ตึกแถวนี่มันคืออะไรกันละเนี่ย”
<<ตึกแถวเป็นอาคารชั้นเดียวที่เป็นการรวมกันของที่อยู่อาศัย 5 แห่ง โดยที่อยู่อาศัยแต่ละแห่งคาดว่าสามารถที่จะรองรับคนได้มากถึง 5 คน>>
“เยี่ยมเลย นี่สิสิ่งที่พวกเรากำลังต้องการอยู่พอดี”
เทียบกับกระท่อมที่สามารถให้คนอาศัยอยู่มากสุดได้แค่ 3 คนและต้องใช้แต้มหมู่บ้าน 20 แต้ม ตึกแถวที่สามารถให้คนอาศัยอยู่ได้มากถึง 25 คนและต้องใช้แต้มหมู่บ้าน 80 แต้ม ดูเป็นทางเลือกการใช้แต้มที่มีประสิทธิภาพมากกว่าอย่างเห็นได้ชัด
ก็อย่างที่คาดละนะ จะสร้างบ้านขนาดเล็กให้กับทุกคนก็คงไม่น่าไหวหรอก
“ตอนนี้พวกเราน่าจะไหวไปอีกซักพักละนะ แต่พวกเราก็ควรที่จะเพิ่มจำนวนของลานเพาะปลูกขึ้นอีก แต่ก่อนหน้านั้นผมควรที่จะขยายพื้นที่ของหมู่บ้านก่อนละนะ”
ก็อย่างที่เห็นว่ายิ่งหมู่บ้านเลเวลเยอะ อาณาเขตของหมู่บ้านก็จะยิ่งกว้างไกลขึ้นตามไปด้วย
ด้วยขนาดของอาณาเขตหมู่บ้านก่อนหน้านี้ แค่สร้างตึกแถวไปก็แทบจะเต็มที่แล้วละมั้ง
“ถึงจะค่อนข้างเสียดาย แต่คงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากทำลายกำแพงลงเพื่อสร้างพื้นที่ว่างสินะ…”
<<คุณไม่จำเป็นต้องทำแบบนั้น สกิล「ย้ายตำแหน่ง」น่าจะเหมาะกับสถานการณ์แบบนี้ หากใช้สกิลนี้จะสามารถที่จะเคลื่อนย้ายตำแหน่งของสิ่งอำนวยความสะดวกที่คุณเคยสร้างเอาไว้ไปไว้ที่ตำแหน่งอื่นได้>>
“โอ้ สะดวกดีจังแหะ”
ดังนั้นผมจึงล้อมรอบหมู่บ้านด้วยกำแพงดิน
แน่นอนว่ากำแพงจากก่อนหน้านี้ไม่พอที่จะล้อมรอบอาณาเขตหมู่บ้านใหม่นี้ได้ ดังนั้นผมเลยต้องสร้างกำแพงขึ้นมาใหม่
<<นอกจากนี้ ยังสามารถที่จะทำการอัพเกรดกำแพงดินให้กลายเป็นกำแพงหินได้ โดยมีค่าใช้จ่ายเป็นจำนวนแต้มที่ห่างกันระหว่างของทั้งสองซึ่งก็คือ 30 แต้มหมู่บ้าน>>
“อืมม ตอนนี้แค่นี้ก็น่าจะพอแล้วล่ะ ผมอยากจะเอาแต้มที่มีไปใช้ทำอย่างอื่นมากกว่า”
ตอนนี้ก็มีพื้นที่ว่างแล้วและยังถูกล้อมรอบด้วยกำแพง ผมจึงสร้างตึกแถวขึ้นมา 3 หลัง
พอลองมองเข้าไปข้างในก็พบว่าข้างในเหมือนกับบ้านขนาดเล็กตรงที่เฟอร์นิเจอร์อยู่ข้างในด้วย
ยกเว้นก็แค่ห้องน้ำที่เหมือนจะมีแค่ที่เดียวต่อแต่ละตึกแถว แต่ว่าก็มีชักโครกอยู่หลายตัวในห้องน้ำละนะ ดังนั้นมันคงไม่ได้แย่เท่าไหร่
ผมยังคงสร้างบ่อน้ำหนึ่งแห่งต่อแต่ละตึกแถว ด้วยสกิล「ย้ายตำแหน่ง」ทำให้ผมย้ายบ่อน้ำอันก่อนหน้าที่เพิ่งสร้างมาไว้ที่ตึกแถว
และด้วยประการนี้ พวกเราก็ได้จัดการเคลียร์ปัญหาเรื่องที่อยู่อาศัยของกลุ่มที่จะมาอาศัยอยู่ที่นี่ได้อย่างเรียบร้อย
“…อะแฮ่ม ทุกคนครับเชิญเข้าไปอาศัยอยู่ในสิ่งก่อสร้างพวกนี้ได้ตามสบายเลยนะครับ”
บางทีพวกเขาอาจเป็นแบบนี้มานานแล้ว ผมมองไปที่พวกเขาที่กำลังตาเบิกโพลงและอ้าปากค้าง
“เมื่อกี้นี้มัน…”
“เมื่อกี้กำแพงมันขยับได้เองเรอะ…”
“เมื่อกี้ตรงนี้ยังไม่มีอะไรอยู่แท้ๆ แต่ตอนนี้ดันมีสิ่งก่อสร้างอยู่ซะงั้น…”
“หวาาาาา…”
ในกลุ่มพวกเขา มีผู้สูงวัยคนหนึ่งตกใจจนหงายหลังไปเลย
“อ๊ะขอโทษนะครับ ไม่ได้คิดจะทำให้ตกใจอะไรหรอกนะครับ… อะแฮ่ม คือสิ่งพวกนี้มันเป็นเพราะพรของผมเองน่ะครับ ไม่ใช่เวทมนตร์ที่น่ากลัวอะไรแบบนั้นหรอก ดังนั้นสบายใจได้นะครับ”
ผมรีบอธิบายสถานการณ์ออกไปอย่างรวดเร็ว
“อะไรนะ พรของท่านหัวหน้าหมู่บ้านรึนี่!”
“เขาสามารถสร้างสรรค์สิ่งเหล่านี้ออกมาได้จริงเหรอเนี่ย”
“นี่มันอย่างกับพลังของทวยเทพ…!”
สำหรับพวกเขาที่ตื่นตระหนกตกใจมากขนาดนี้ บางทีอาจเป็นเพราะพวกเขาไม่เคยคุ้นชินกับพรล่ะมั้ง
เพราะว่ายังไงคนที่ได้รับพรก็ค่อนข้างหาจับตัวยากมากเลยนี่นะ นอกจากคนที่ได้เข้าพิธีรับพรแต่ถูกเปิดเผยว่าไม่ได้รับพรแล้ว ก็ยังมีคนบางกลุ่มที่ไม่ได้แม้แต่กระทั่งโอกาสเข้าพิธีรับพรเนื่องจากมีสถานะทางสังคมที่ต่ำเตี้ยเรี่ยดิน
โดยปกติตามกฎแล้ว แม้แต่สามัญชนก็สามารถที่จะเข้าพิธีรับพรได้ แต่พวกเขาจำเป็นต้องจ่ายเงินที่เป็นจำนวนมากโขเลยทีเดียว
ด้วยเหตุผลนี้เลยทำให้มีแต่ขุนนางและพ่อค้าที่มั่งคั่งเท่านั้นที่พอจะเข้าพิธีรับพรได้ นอกจากนี้ยังมีการให้สิทธิเข้าร่วมพิธีรับพรกับตระกูลช่างฝีมือที่มีประโยชน์ต่อการพัฒนาดินแดน แต่สิ่งเหล่านี้ก็หาได้ยากมากเช่นกัน
ผลกระทบที่เกิดจากพรนั้นยิ่งใหญ่มาก ทำให้ผมคิดได้ว่าหากทุกคนบนโลกสามารถมีพรได้โดยที่ไม่ต้องคำนึงถึงสถานะทางสังคม มันคงจะช่วยในการพัฒนาดินแดนเป็นอย่างมากแน่นอน