[นิยายแปล] ก็แค่ลูกสาวดยุกที่ผ่านทางมา - ตอนที่ 9
Ch.9 – บทแรก ตอนที่9 ตัวตนที่แท้จริง
Provider : ไม่มีเพจแล้วสบายดีแฮะ
元、落ちこぼれ公爵令嬢です。
บทแรก ตอนที่9 ตัวตนที่แท้จริง
เกาะลินเดลอยู่ห่างจากป้อมฟลาตานเพียง2ชั่วโมง เดินทางโดยทางทอดยาวที่ทั้ง2ข้างเป็นทะเล。
เพราะเป็นถนนที่อันตราย จึงเป็นเกาะที่แปลกจากการที่จะไปเยี่ยมเยือนนั้นต้องขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ。
โชคดีที่สภาพอากาศดี พวกแคลร์จึงไปเกาะลินเดลได้อย่างราบรื่น。
(……นี่มันอะไรกัน……!!)
แคลร์ถึงกับพูดไม่ออก。
สีอันสวยงามของน้ำทะเลที่ลึกจนน่ากลัว。
ทั่วทั้งเกาะเต็มไปด้วยดอกไม้ จะพูดว่าเกาะดอกไม้มันก็ไม่เกินจริง。
ทิวทัศน์ที่สวยงาม อาคารสมัยใหม่พร้อมกับทางเดินหินที่ทำให้เชื่อว่าเป็นประเทศลินเดลในประวัติศาสตร์。
「เป็นเกาะที่สวยจริงๆเลยเนอะ」
เมื่อแคลร์ก้าวเข้าสู่เกาะเธอก็รู้สึกประทับใจ。
ประเทศนอสตันเองก็เป็นประเทศที่มีธรรมชาติสวยงามมากมาย แต่แคลร์ไม่เคยเห็นทิวทัศน์ที่งดงามเช่นนี้มาก่อน。
(ชาร์ลอท……ถ้าไม่มีเหตุการณ์อย่างนั้นเกิดขึ้น คงจะได้มาเที่ยวด้วยกันซักวัน)
ขณะที่แคลร์กำลังรู้สึกอ่อนไหวทางอารมณ์ ก็ได้มีอัศวินมุ่งหน้ามาทางพวกแคลร์。
「ฝ่าบาทวีค วันนี้มาทำธุระทางการหรือครับ」
(ฝ่าบาท……!?)
ในจังหวะนั้น ความคิดของแคลร์ถูกหยุดไว้ในทันที。
「ไม่ล่ะ วันนี้ไม่ใช่。พาเพื่อนมาชมรอบๆน่ะ」
วีคหันหลังให้แคลร์และตอบกลับอัศวิน。จนทำให้แคลร์งุนงงนิดหน่อย。
「รับทราบครับ。ท่านคีส ท่านรุย ท่านโดนี่ ขอให้เพลิดเพลินกับการเยี่ยมชมครับ。……คุณหนูทางนี้คือ?」
อัศวินที่กำลังประหม่าหันมาสนใจทางแคลร์。
(อ๊ะ)
「แคลร์・มัลคุส ค่ะ」
แคลร์ที่กำลังอึ้งอยู่ ทำการยิ้มตอบกลับเพื่อกลบเกลื่อนสิ่งที่กำลังคิดอยู่ในใจ。
「เรื่องนี้อย่าไปบอกใครล่ะ」
「ครับ」
อัศวินตอบรับคำสั่งของวีคอย่างเคร่งเครียด และหลังทำความเคารพก็ได้เดินจากไป。
「……」
「……」
「……」
เกิดความเงียบอย่างหนักหน่วงเกิดขึ้นระหว่าง วีค แคลร์ คีส。
「บอกแล้วไง ว่าให้รีบบอกล่วงหน้าก่อนที่จะกลายเป็นเรื่องแปลกๆไปแท้ๆแล้วเชียวน้า」
รุยพูดอย่างใจเย็น ขณะที่หยิบผ้าจากกระเป๋าขึ้นมาขัดด้ามดาบ。
ส่วนโดนี่ผิวปากอย่างไม่รู้ร้อนรู้หนาว。
「……ฝ่าบาทเนี่ย คุณ ราชวงศ์ของประเทศปาฟีทงั้นหรือ?」
ก็จริงที่รู้สึกแปลกๆ。
ทั้งการเรียกประเทศปาฟีทว่า『ประเทศของเรา』。
แคลร์นั้นเดาว่าคงจะเป็นชนชั้นสูงที่รักชาติ。
และก็การแสดงออกทางสีหน้าที่ชัดเจนเป็นครั้งคราว。
ถึงแม้แคลร์จะเดินทางกับพวกเขามาแค่2วัน แต่ก็รู้สึกได้ถึงความสัมพันธ์แบบนายกับบ่าวอย่างชัดเจน。
(แต่เหนือสิ่งอื่นใด)
(ถึงจะได้รับพรป้องกันของรุยก็เถอะ แต่ราชวงศ์เดินทางกับแค่อัศวิน3คน ไม่มีคนคุ้มกันเลยแบบนี้ ไม่อยากจะเชื่อ!!)
―――――
「ข้า วีค・วิลเลี่ยม・ปาฟีสตันท์。เจ้าชายลำดับที่1ของประเทศนี้。ก็นะ กะจะบอกให้รู้ตอนเข้าเมืองหลวงน่ะ。……ขอโทษด้วยที่โกหก」
เมื่อถึงเวลาอาหารเย็น วีคก็ทำการพูดขอโทษขณะที่นั่งลง。
(แถมยังเป็น เจ้าชายลำดับที่1……!)
แคลร์ถึงกับรู้สึกมึนหัวไปหมด。
「ก็เข้าใจอยู่หรอกค่ะว่าเป็นเรื่องธรรมดาที่จะไม่ระบุตัวตนเมื่ออยู่นอกประเทศตัวเอง。อย่างไรก็ตาม การที่มีคนอย่างฉันร่วมเดินทางไปด้วยมันจะกลายเป็นเรื่องอื้อฉาวสำหรับฝ่าบาทได้นะคะ。น่าจะบอกให้เร็วกว่านี้……」
แคลร์หยุดพูดก่อนที่จะพูดอะไรมากไปกว่านี้。
โดนี่ที่ได้ยินแคลร์พูดมาเช่นนั้น ก็ทำการพูดขึ้นมาอย่างดีใจ。
「ต้องบอกให้เร็วกว่านี้สินะ。วีค โชคดีนะเนี่ยที่ไม่ถูกปฏิเสธเรื่องเป็นเจ้าชายน่ะ」
「ก็จริงนะ นั่นสิเนอะ。ปกติแล้ว ถ้าเป็นลูกสาวชนชั้นสูงที่ถูกเลี้ยงมาอย่างดีจะพยายามไม่เข้าใกล้นี่เนอะ」
รุยใช้โอกาสที่หายากนี่ตามน้ำไปกับคำพูดของโดนี่。
คีสที่อยู่ข้างๆกำลังก้มหัวอยู่。
「แคลร์……ขอโทษ……」
คีสขอโทษซ้ำแล้วซ้ำเล่าด้วยน้ำเสียงอู้อี้ แถมยังสารภาพกับแคลร์อีกว่าเขาเป็นทายาทตระกูลมาร์ควิสที่ใกล้เคียงกับราชวงศ์。
คีสที่จริงจังนั้นได้เคยแนะนำพร้อมรุยต่อวีคว่า ให้บอกว่าเป็นเจ้าชายให้เร็วที่สุด แต่วีคไม่ยอมทำอะไรเอง จึงสำนึกตัวเองที่ทำให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น。
「ถ้าบอกให้เร็วกว่านี้ละก็……แคลร์จะได้ไปอารามทางเหนือตามที่ตั้งเป้าไว้ ไม่ใช่มาที่ประเทศปาฟีทแบบนี้แท้ๆเชียว」
คีสทำการพูดพึมพำขึ้นมาอีกครั้ง。ดูท่าจะยังเป็นไม่หายไปอีกซักพัก。
「อะไรกันเล่า แคลร์ไม่สนใจเรื่องพวกนี้หรอกใช่ไหม!?」
วีคพยายามดิ้นรนสู้กลับ。
(ก็นะ ถึงมีอะไรหลายๆอย่างอยากจะพูดก็เถอะ แต่ว่า)
แคลร์มองไปที่ทั้ง4คนและหัวเราะคิกคิก。
「ตั้งแต่พรุ่งนี้ ฉันเป็นสาวใช้ติดตามฝึดหัดของรุยดีไหม」
「ก็ดีนะ」
รุยทำการพูดต่อด้วยน้ำเสียงยั่วยวนหน่อยๆ。「จะเป็นน้องสาวที่น่ารักก็ได้นะ」
「นั่นคงจะไม่ดีเท่าไหร่。ท่านพ่อของรุยจะถูกสงสัยว่ามีลูกนอกสมรสเอาได้นะ」
เมื่อเห็นสายตาระยิบระยับของแคลร์ วีคจึงรีบเข้ามาห้าม。
เมื่อเหตุการณ์สงบลง วีคก็พูดขึ้นมา。
「จะว่าไปแคลร์ ถ้าทานอาหารกันเสร็จแล้ว ไปเดินเล่นที่ด้านหลังของปราสาทลินเดลกันไหม?มีสถานที่ที่สามารถมองเห็นวิวที่สวยงามมากในตอนกลางคืนได้เลยนะ」
「อ๊าา ตรงนั้นรึ」
อีกทั้ง3คนก็ทำการพยักหน้า。