[นิยายแปล] ก็แค่ลูกสาวดยุกที่ผ่านทางมา - ตอนที่ 5
Ch.5 – บทแรก ตอนที่5 คุณเป็นใคร?
Provider : ไม่มีเพจแล้วสบายดีแฮะ
元、落ちこぼれ公爵令嬢です。
บทแรก ตอนที่5 คุณเป็นใคร?
「……คลร์。……ท่านแคลร์」
มีเสียงของใครซักคนทำการเรียกขึ้นมา。
「ท่านแคลร์ กรุณาตื่นได้แล้วครับ。ถึงด่านตรวจเยอัสแล้วครับ」
「……!」
พรึ่บ แคลร์ทำการลืมตาตื่นขึ้นมาทันที。
(จริงสิ อยู่ในระหว่างเดินทางนี่นา)
รถม้านั้นได้จอดเป็นที่เรียบร้อย。
ที่นอกหน้าต่างรถม้าก็เห็นแสงไฟของด่านตรวจส่องเข้ามา。
「ขอโทษด้วยนะ ไม่ได้รู้สึกตัวเลย。ขอบคุณค่ะ」
แคลร์ลงจากรถม้าโดยลากกระเป๋าเดินทางอย่างสับสน。
แคลร์นั้นหลับสนิท จนไม่ได้รู้สึกเลยว่าถึงเป้าหมายแล้ว。
(ยังไงดีล่ะ เป็นฝันที่แปลกจัง……)
เมื่อคนขับรถม้าช่วยถือกระเป๋าเดินทางลงจากรถม้า ก็ได้ทำการพูดขึ้นมาอย่างโล่งใจ。
「ถึงจะเป็นเวลาแค่2ชั่วโมง แต่ก็ค่อยยังชั่วนะครับที่ดูจะได้พักผ่อนเต็มที่。สีหน้าของท่านแคลร์ดูดีขึ้นอย่างมากเลยครับ」
「อะร๊ะ หน้าตาดูแย่ขนาดนั้นเลยหรือ」
แคลร์ทำการจับแก้มตัวเองด้วยความอาย。
「คงจะเหนื่อยจากการใช้เวลาทั้งวันที่โรงเรียนสินะครับ。……จะว่าไป ถึงเยอัสจะเป็นเมืองที่ค่อนข้างปลอดภัยก็ตาม แต่จะอยู่ด้วยจนกว่าผู้ที่มารับจะมาถึงนะครับ」
「……」
(แย่แล้ว)
มันก็จริงที่ลูกสาวชนชั้นสูงไม่มีทางเดินทางไกลโดยไม่มีผู้ติดตาม。
ไม่ว่าจะธุระเร่งรีบเท่าไหนก็ตาม แต่อย่างน้อยที่สุดก็ควรจะมีคนมารับที่จุดนัดพบ。
คนขับรถม้าธรรมดาจะไม่พูดอะไรแบบนี้ออกมา。เมื่อไปถึงจุดหมาย ถ้าเกิดถูกบอกว่า「จะมารับในภายหลัง」ก็คงจะไปส่งที่คาเฟ่หรือไม่ก็โรงแรม。
แต่ว่า ทั้ง2คนนี้คุ้นเคยกับแคลร์。
พวกเขาเป็นห่วงแคลร์อย่างจริงจัง ยอมทำเกินหน้าที่อย่างเต็มใจ。
ถ้าพูดกันตรงๆ แคลร์นั้นหลีกเลี่ยงไม่ให้เรื่องที่เดินทางรั่วไหล จึงไม่ต้องการบอกตระกูลมัลทีโน่。
อัสเบลที่กำลังหลงไหลชาร์ลอทอย่างสมบูรณ์แบบนั้น อาจทำให้แคลร์ถูกตามรบกวนเพราะอาจคิดว่าจะเป็นอันตรายต่อราชินีในอนาคตได้。
ทั้งพ่อเบนจามินและเหล่าพี่ชายในตอนนี้ก็ไม่สามารถพูดคุยกันได้ อาจจะไม่ปกป้องปิดเป็นความลับเมื่อเวลานั้นมาถึงก็เป็นไปได้。
และเหนือสิ่งอื่นใด แคลร์ต้องการเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่แตกต่างออกไปจากเดิม。
「เอ่อ นั่นสินะ。นัดเจอกันที่คาเฟ่ข้างหน้าน่ะ。พอดีเพราะรีบออกมา ผู้ติดตามอาจจะมาล่าช้าก็ได้」
แคลร์พยายามคิดว่าจะผ่านสถานการณ์เช่นนี้ไปได้ยังไง
「ทราบแล้วครับ ถ้างั้นผมจะไปด้วยนะครับ」
1ในคนขับรถม้าที่ไม่รู้ว่าอะไรคืออะไร ทำการตอบกลับพร้อมกับยิ้ม。
「เอ ค่ะ。นะ นั่นสินะ……」
(เป็นปัญหาจัง……)
ด่านตรวจเยอัสเป็นทางเข้าทางเหนือของประเทศนอสตัน。
เมืองเยอัสนั้นเป็นเมืองร่วม แม้จะไม่คึกคักเท่าเมืองหลวง แต่ก็คึกคักในแบบตัวของมันเอง。
เป็นสถานที่ปลอดภัยและมีคนมากมายอาศัยอยู่ การหางานก็คงจะไม่ลำบาก。
แต่ว่า แคลร์มีแผนจะไปทางโบสถ์อารามทางเหนือ。
ในโลกนี้คนที่มีพลังเวทนั้นมีจำกัด。
เช่นเดียวกับอารามที่เป็นของทางโบสถ์。
แม้จะเป็นหญิงกล้าที่ถูกทอดทิ้งแห่งตระกูลมัลทีโน่ก็ตาม ยังไงก็อยากใช้พลังของตัวเองให้เป็นประโยชน์。
นอกจากนี้ถ้าไปที่อาราม ก็จะอยู่ภายใต้อำนาจของโบสถ์。
ในประเทศที่โบสถ์มีอำนาจมาก แคลร์จึงคิดว่านั่นเป็นสถานที่ที่สามารถใช้ชีวิตได้อย่างปลอดภัยสูง。
(ถ้ายังอยู่อย่างนี้ พวกเขาก็จะรู้ว่ามุ่งหน้าไปที่ดินแดนทางเหนือแน่)
ขณะที่กำลังปั้นยิ้มอย่างอดทน ก็มีเสียงเรียกขึ้นมาอย่างไม่คาดคิด。
「ขอโทษที่ให้รอครับ คุณหนู」
(……ใคร?)
ผมบลอนด์นุ่มสลวย ตัวสูง。หน้าตาสวยงามที่ไม่เหมาะจะเป็นของเด็กหนุ่ม。ขนาดแคลร์ที่ชินกับคนหน้าตาดีอย่างอัสเบลและพี่ชายทั้ง2มาเป็นเวลานาน ก็ยังไม่พ้นถูกดึงดูดด้วยดวงตาสีเขียวมรกตนั่น。
「ผม วีค ผู้ติดตามของคุณหนูครับ。ต้องขอขอบคุณครับที่มาส่งไกลถึงนี่。ทุกคนกำลังรออยู่ที่โรงแรมตรงถนนหลัก ยังไงมาขนสัมภาระกันเถอะครับ」
เขายิ้มอย่างเป็นมิตรขณะที่เอื้อมมือไปที่กระเป๋าเดินทางที่อยู่ท้ายรถม้า。
เขาค่อนข้างเป็นธรรมชาติและเป็นมิตรมากจนคนขับรถม้าไม่ได้ระมัดระวังอะไรและส่งกระเป๋าเดินทางให้。
แคลร์และคนขับรถม้ายิ้มให้กันอยู่ซักครู่。
(เดี๋ยวนะ。ถ้านี่เป็นโจรล่ะ)
แคลร์ได้คิดขึ้นในทันที。แต่ว่าถึงจะเป็นโจร มันก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรมากนัก。สิ่งที่อยู่ในกระเป๋าเดินทางก็มีเพียงแค่เสื้อผ้าและของใช้ส่วนตัวเล็กน้อย。ของดูต่างหน้าของแม่ก็ใส่อยู่ที่ตัว เงินก็ฝากอยู่ที่ธนาคารในชื่อส่วนตัว。แม้กระเป๋าเดินทางจะหายไปก็ไม่มีปัญหาอะไร。
ถ้าเกิดเป็นโจรละก็ หลังจากที่แยกกับคนขับรถม้าก็แค่ทิ้งกระเป๋าเดินทางและรีบหนีไปที่ป้อมอัศวิน。
ในเวลาเพียงไม่กี่วินาทีที่มองเข้าไปในดวงตาของคนแปลกหน้า แคลร์ก็ยิ้มอ่อนขึ้นมา。มันเหมือนกับดวงตาสีเขียวมรกตนั้นบอกว่าไม่เป็นอะไรหรอก。
(คงไม่เป็นอะไร)
แคลร์ทำการจับมือเขาและยิ้มกว้างเพื่อไม่ให้รู้สึกถึงความกังวลใจ。
「วีค มาถึงแล้วสินะ。ขอบคุณนะที่มาซะไกล。……ทางนี้คือคนจากโรงเรียนน่ะ。พอบอกว่าคนที่จะมารับจากดินแดนทางเหนืออาจจะมาสายก็ได้ พวกเขาก็ยังคงย้ำว่าจะอยู่กับท่านแคลร์ต่อเพราะเป็นห่วงน่ะ」
เพื่อที่คนขับรถม้าจะไม่สงสัย จึงได้ทำการบอกชื่อตัวเองกับเขาไป。
「เช่นนั้นเองหรือครับ。อุตส่าห์ทำเพื่อคุณหนูแคลร์ขนาดนี้ ต้องขอขอบคุณครับ」
ดูเหมือนว่าเรื่องราวจะจูนเข้าหากันได้。
เขาทำการก้มหัวโค้งไปทางคนขับรถม้า。
ทันใดนั้นแคลร์ก็รู้สึกขึ้นมาได้。
ไม่ว่าจะถือกระเป๋าเดินทาง หรือจับมือกับแคลร์ ท่าทางของเขาทั้งที่ง่ายๆสบายๆแต่กลับสวยงาม。
ในทุกท่าทางที่ทำอย่างกับชนชั้นสูง。
「ถ้าเช่นนั้น ผมขอตัวเท่านี้นะครับ。รักษาตัวด้วย。หวังว่าจะได้พบกันอีกหลังพิธีจบการศึกษานะครับ」
「ค่ะ ทางคุณก็ด้วย。ขอบคุณที่มาไกลถึงนี่ค่ะ。ขากลับก็กรุณาระมัดระวังตัวด้วยนะคะ」
แคลร์ทำการขอบคุณคนขับรถม้าและมองส่งพวกเขา。
รถม้าออกเดินทางห่างออกไปเรื่อยๆ。
(……อีกนิด)
เขาที่ยืนอยู่ข้างแคลร์นั้น จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีท่าทางว่าจะหิ้วกระเป๋าเดินทางหนีไปอย่างใด。
และเมื่อคนขับรถม้าลับสายตาไป。
คงจะได้เวลาแล้วล่ะมั้ง。
แคลร์กำลังคิดถึงระยะห่างจากป้อมอัศวินของด่านตรวจเยอัส。
และได้ทำการถามเขาขึ้นมาขณะที่กำลังเตรียมหนีอยู่ในใจ。
「คุณเป็นใคร?」