[ นิยายแปล ] สารภาพรักไป99ครั้งก็ยังไม่ไหวงั้นหรอ!? - ตอนที่ 8
หลังเลิกเรียน เหมือนกับทุกๆวัน ฉันถูกเรียกออกมาโดยคนเดิม
สถานที่คือห้องเรียนในอาคารเรียนชั้น4 ซึ่งเวลานี้ปรกติจะไม่มีคนอยู่กันแล้ว
ดังนั้นที่นี่ก็ถือเป็นจุดสารภาพรักได้
“เห้อ.. มาได้ทุกวันจริงๆเลยนะ..”
ฉันถอนหายใจและมองจดหมายที่หยิบมาจากชั้นวางรองเท้า
เนื้อความจดหมายก็สั้นๆแค่”ผมมีเรื่องจะพูดด้วย หลังเลิกเรียน ได้โปรดมาที่ห้องเรียนในอาคารเรียนชั้น4 ด้วยครับ”
ที่จดหมายไม่ได้มีชื่อเขียนเอาไว้ แต่ในสถานการณ์นี้มีแค่คนเดียวที่จะทำแบบนี้ได้
“อืมช่างเถอะ มีเรื่องเมื่อวานที่ต้องขอบคุณด้วยนี่นะ”
โดนเรียกออกมาถึง99ครั้ง ตอนนี้เริ่มรู้สึกคุ้นชินแล้ว
ถึงจะปฏิเสธไปเท่าไรเขาก็ไม่ยอมแพ้ กลับกันทุกครั้งที่เขาถูกปฏิเสธและกลับมาสารภาพรักอีกรู้สึกเหมือนเขาจะเติบโตขึ้นในฐานะมนุษย์
“ทั้งที่มีคนดีมากว่าฉัน ตั้งเยอะแยะแท้ๆ..”
ระหว่างที่ฉันกำลังพึมพำก็นึกถึงใบหน้าของเขา
มันไม่ใช่ว่าฉันกังวล เรื่องความรักจากเขาหรอกนะ
ฉันคิดว่าเขาน่าจะหาผู้หญิงดีเป็นแฟนได้ ถ้ายอมตัดใจจากฉันและไปหารักใหม่
นี่คือเหตุผลที่ทำไมฉันถึงต้องปฏิเสธเขา แม้จะไม่ชอบก็ตาม
“ถ้าพูดออกไปตรงๆ เขาคงจะยอมแพ้สินะ”
ฉันไม่ได้ไม่ชอบเขาหรอกนะ ให้พูดคือฉันดีใจที่เขาให้ความสนใจฉันขนาดนี้
เพราะงั้นก็เลยคิดจะปฏิเสธไปเพื่อตัวเขาเอง
คิดว่าตัดใจจากผู้หญิงแย่ๆอย่างฉันแล้วไปหาผู้หญิงที่ดีกว่านี้จะดีกว่า
“จะว่าไป มาช้าจังเลยนะ”
พอเช็คเวลา ก็เห็นว่าเขาสายจากเวลานัดไป5นาทีแล้ว
ปกติแล้วเขามักจะมาก่อนเวลานัดประมาณ10นาทีเสมอ แต่วันนี้ไม่ใช่
นี่เป็นครั้งแรกเลยที่เขาเป็นแบบนี้ ฉันเริ่มเป็นห่วงแล้วว่าเกิดอะไรขึ้นกับเขารึป่าว
“เกิดอะไรขึ้นรึป่าวนะ?”
ฉันออกมาจากห้องเรียนมาที่โถงแต่ก็ยังไม่พบเขา
ขณะที่คิดว่าจะออกตามหาหรือจะรอดี ก็มีกลุ่มผู้หญิงกลุ่มนึงเดินขึ้นบันไดมา
“อิชิกิคุงไม่อยู่แฮะ”
“แปลกจังเลยน้า แต่เพื่อนอิชิกิคุงบอกว่าอยู่ที่ชั้น4ใช่มั้ย”
“ไปอยู่ที่ไหนกันนะ?”
ดูเหมือนจะเป็นกลุ่มผู้หญิง5คน
ฉันสงสัยว่าพวกเธอมาทำอะไรกันที่นี่ แต่ดูเหมือนเราจะมีเป้าหมายเดียวกันฉันเลยเดินไปถาม
“คนรู้จักของอิชิคุงสินะคะ?”
“เอ๊ะ? ก็ใช่อยู่หรอก.. เดี๋ยวนะ ยามาเสะซัง!!!”
“เอ๊ะ? อะ ค่ะ ยามาเสะค่ะ”
ไม่รู้ว่าทำไมทั้ง5คนถึงมองมาที่ฉันด้วยท่าทีประหลาดใจ
“อา คือ เป็นอะไรรึป่าว?”
“ห๊ะ! อะ ขอโทษนะ ช่วยรอแปปนึงได้มั้ย”
“เอะ? ก็ไม่มีปัญหาอะไรหรอก”
“ทุกคน รวมตัว”
พูดอย่างงั้นพวกผู้หญิงก็สุมหัวกันเป็นวงกลมกระซิบอะไรกันบางอย่าง
การหาลือดำเนินไปไม่กี่นาที พวกเธอก็เริ่มหันที่ฉันและเหมือนจะพูดอะไรบางอย่าง
“ขอโทษน้า พวกเราคือสมาชิกชมรมทำอาหารน่ะ”
“พวกเราเคยทำกิจกรรมชมรมกับอิชิกิคุงช่วงนึง”
“ด้วยเหตุนั้น ทำให้พวกเราได้เป็นเพื่อนกันค่ะ”
“อย่างงั้นหรอ ที่จริงแล้วเขาเรียกฉันมาที่นี่แต่ เขาก็ไม่มาจนเลยเวลานัดไปแล้ว…”
“เอะ? เอาจริงดิ? ไปอยู่ที่ไหนกันนะ?”
“พวกเราตามหาเขาเพราะมีเรื่องบางอย่างน่ะ ถ้าไม่รังเกียจจะมาด้วยกันไหม”
ฉันตัดสินใจตกลงข้อเสนอของพวกเธอ
ทั้งๆที่ฉันรู้จักกับเขา แต่กับไม่มีช่องทางการติดต่อเลย
ก็เลยไม่มีทางเลือก ต้องตามพวกเธอไป
“ก่อนอื่นเรากลับไปที่ห้องชมรมกันก่อนดีไหม ฉันอยากเรียกสมาชิกคนอื่นมาด้วยน่ะ”
“ไม่มีปัญหา”
พวกเราเดินไปที่ห้องคหกรรมซึ่งไปห้องของชมรมทำอาหาร
“ยามาเสะซัง ไม่ชอบตรงไหนของอิชิกิคุงหรอ?”
“อยู่ดีๆก็ถามมาเลยนะ.. อืม เพราะเขานี่แหละทำให้มีข่าวลือเรื่องความสัมพันธ์ของฉันกับเขาแบบแปลกๆ ระดับที่ไม่มีใครในโรงเรียนไม่รู้เลยนะ”
“นั่นสินะ ผู้ชายที่สารภาพรักมากกว่า90ครับกับสาวสวยที่คอยปฏิเสธ นี่ดังมากเลย”
“เป็นข่าวลือที่สนุกปากในโรงเรียนเลยล่ะ จะสร้างความรำคาญก็ไม่แปลก”
“แล้ว ความจริงคิดอย่างไงล่ะ?”
ฉันคิดเกี่ยวกับสิ่งที่ถามมา
ฉันไม่เคยคิดอย่างจริงจังเลยว่า อยากคบกับเขาหรือไม่ เพราะฉันนั้นเข้ากับเขาไม่ค่อยได้
ถึงหน้าตาเขาจะธรรมดา เรื่องการเรียนเขานี่เหมือนเคยได้ยินว่าเคยได้อันดับ1ของสายชั้น และก็เคยล้มกัปตันชมรมจูโดด้วย
ฉันคิดว่าเขาเป็นคนที่มีสเน่ห์ แต่ไม่ใช่ในเชิงโรแมนติกอะไร ฉันตอบพวกเธอไป
“ไม่ใช่ว่าฉันไม่ชอบหน้าเขาหรอก แต่เพียงแค่ว่าไม่ได้คิดถึงเรื่องรักๆชอบๆน่ะ”
ุ”อย่างนี้นี่เอง แต่ว่าแล้วทำไมเธอถึงยอมให้เขาสารภาพรักทุกครั้งเลยล่ะ เมินไปก็ได้นิ”
“ฉันรู้ว่าเขาพยายามอย่างหนัก ก็เลยตอบกลับไปอย่างสุภาพเอง”
“หืมม ครั้งนี้เธอก็คงจะปฏิเสธอีกสินะ”
ฉันคิดอย่างจริงจังและตอบกลับไป
“อืม ฉันคิดถึงอนาคตด้วยแหละนะ แล้วก็มีเหตุผลที่คบกับเขาไม่ได้อยู่ด้วย”
“นั่นสิน้า ก็ขึ้นอยู่กับเจ้าตัวว่าจะตอบไปอย่างไง เราคนนอกไม่ขอยุ่งหรอก ต่างคนต่างก็มีเหตุผลของตัวเองนี่นะ”
ฉันรู้สึกโล่งใจกับคำตอบของพวกเธอจากนั้นก็มาถึงห้องชมรม
มีคนกำลังพูดคุยกันอยู่ในห้องชมรม
พอฟังเสียงก็มีเหมือนเสียงคนกำลังทะเลาะกัน
สาวๆสมาชิกชมรมทำอาหารก็สังเกตุถึงสถานการณ์เหมือนกัน และเริ่มจะสอดส่องเหตุการณ์ผ่านประตู
ฉันเองก็ร่วมวงด้วยเช่นกัน และก็พบอิชิกิคุงที่กำลังตามหาอยู่
ดูเหมือนว่าเขาจะกำลังทะเลาะกับนักเรียนผู้หญิง
“ทำไม.. อิชิกิคุงถึงชอบใจดีกับคนอื่น แต่กับตัวเองถึงต้องโหดร้ายด้วยล่ะ…”
ฝั่งผู้หญิงพูดด้วยน้ำตา
ไม่รู้ทำไม คนของชมรมทำอาหารถึงมองด้วยตาเป็นประกาย
“ก็จริง ที่วันนี้ผมไม่เหมือนกับปรกติ เพราะคิดว่า จะถูกเกลียดเพราะไปสารภาพรักตั้งขนาดนั้นไว้”
คำพูดของอิชิกิคุง ติดอยู่ในใจฉัน
เขาเองก็คิดมากเช่นกัน เพราะเห็นว่าทุกๆวันเขาก็ยิ้มร่าเริ่งเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ก็เลยปฏิเสธไปคิดว่าเขาคงจะไม่เป็นอะไรหรอก แต่ดูเหมือนว่าจะไม่ใช่
วันนี้ฉันไม่รู้สึกถึงพลังที่ออกมาจากตัวเขาเลย
ระหว่างที่คิดจู่ๆก็ได้ยินอะไรที่คาดไม่ถึงเข้า
“ถ้างั้น มาสารภาพรักกับฉันสิ ถ้าเป็นฉันละก็…”
จะดูอย่างไงสถานการณ์แบบนี้มันก็การสารภาพรักชัดๆ
ถ้าให้พูด เหมือนผู้หญิงคนนั้นจะชอบอิชิกิคุงอยู่
และเหมือนว่าเธอจะรู้สึกได้กับสิ่งที่เธอพูดออกไป แล้วเธอก็วิ่งหนีไปด้วยใบหน้าแดงกร่ำ
“อะ ประธาน”
“เอะ? ประธาน?”
สมาชิกชมรมทำอาหารที่อยู่ด้วยกันเรียกเธอว่าประธาน
คนที่วิ่งออกไปนั้นคงจะเป็นประธานชมรมทำอาหาร
“ตามไป ทุกคน! เรื่องนี้ชักจะสนุกขึ้นแล้วสิ”
“อะ ยามาเสะซัง พวกเราจะตามประธานไป ที่เหลือฝากด้วยน้า~”
“เอ๋!”
ทุกคนวิ่งตามประธานไปหมดแล้ว
ฉันไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างไงกับสถานการณ์แบบนี้ดีเลยคิดจะทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้แล้วเดินออกมา ก่อนที่เขาจะรู้ตัว…
“อาเระ? ยะ ยามาเซะซัง!”
ไม่รอดสินะ
TL : ลงถี่เกินไปรึป่าวนะ ถถถ