[ นิยายแปล ] สารภาพรักไป99ครั้งก็ยังไม่ไหวงั้นหรอ!? - ตอนที่ 7
“ตะ ต่อยผมทำไม”
“กะ ก็เพราะ เซอิจิคุงทำตัวแบบนั้นไง”
ที่จริงไม่ใช่อย่างนั้น
ความจริงกะจะวิ่งเข้าไปกอดและให้กำลังใจเขา แต่ด้วยความลังเลจึงกลายเป็นต่อยเข้าไปแทน
แต่ว่า แบบนี้อาจจะทำให้เขามีกำลังใจเพิ่มขึ้นก็ได้
“อะ อ้องั้นหรอ จริงๆวันนี้รู้สึกเหนื่อยนิดหน่อยน่ะ…”
ดูเหมือนน่าจะได้ผล
ฉันรู้สึกโล่งใจ และก็ได้พูดถึงเขาออกไปด้วยความกังวล
“ชะ ใช่แล้ว! เซอิจิคุงน่ะ ปกติแล้วเวลาที่ไปสารภาพรักจะต้องร่าเริงและมีความมั่นใจมากกว่านี้สิ แต่ครั้งนี้กับดูอ่อนแอไร้กำลัง ถ้าเป็นแบบนี้ถึงแม้จะไม่ใช่ยามาเสะซัง ถ้าไปสารภาพรักก็โดนปฏิเสธได้นะ!”
“ก็จริงอยู่ ตั้งแต่เช้ามีแต่คนบอกว่าสีหน้าไม่ค่อยดี แต่นี่ไม่ใช่ว่าผมตั้งใจให้เป็นแบบนี้หรอก…”
จากคำพูดของฉัน ทำให้เขาดูมีกำลังใจมากขึ้น
แต่ถึงเขาจะพยายามโชว์สปิริตก็ตาม ดูเหมือนจิตใจเขาไม่ค่อยอยากจะตอบสนอง
“เกิดอะไรขึ้นรึป่าว?”
ฉันที่สงสัยได้ลองถามออกไป
“อา ที่จริงแล้ว..”
เซอิจิคุงเล่าเหตุการณ์ที่เกิดเมื่อวานให้ฉันฟัง
เซอิจิคุงได้ไปช่วยยามาเสะซังด้วยความบังเอิญ แต่กลับถูกเธอปฏิเสธที่จะพาไปส่งบ้าน เพราะเรื่องที่ไปสารภาพรักกับเธอ
แล้วรู้สึกว่า เขาจะเก็บเอาเรื่องนั้นมาใส่ใจ การที่เห็นจากท่าทีของเธอ ก็รู้เลยว่าที่เขาทำไปมันผิด
“พอมาคิดดูดีๆ คนที่ไปสารภาพรักมากกว่า90ครั้งเนี่ยมันแปลกจริงด้วยสินะ เหมือนกับพวกสตอล์เกอร์เลย ฮะฮะ…”
ฉันได้แต่เงียบกับเสียงหัวเราะที่ดูไร้พลังของเขา
“นั่นสินะ รีบตัดใจตอนนี้ จะได้ไม่เจ็บมากกว่านี้น่าจะดีกว่า”
“แต่ว่า ชอบเธอมากไม่ใช่หรอ”
“อืม ใช่แล้วล่ะ แต่เพราะชอบมากก็เลยทำไปโดยไม่คิด… เริ่มจะกลัวความรักแล้วสิ…”
มีคำพูดที่ว่า ความรักทำให้คนตาบอด คำนี้คงเหมาะกับเขาในสถานการณ์แบบนี้สินะ
แต่ว่า ฉันเข้าใจเขาดี
เพราะฉันเอาแต่คิดถึงคนที่รักมาเกินไป ทำให้พฤติกรรมของตัวเองเริ่มแปลกๆ
การที่ตาสว่างได้นั้นเป็นเรื่องที่ดี แต่สำหรับฉันนั้นไม่ใช่
คนที่ฉันชอบนั้น ถูกความรักบังตา
คนที่ฉันชอบนั้น มักคิดถึงแต่คนที่เขาชอบ
“อาา วันนี้กะว่าจะเป็นครั้งสุดท้ายแล้วแท้ๆ แต่พอคิดว่าจะถูกปฏิเสธแล้วรู้สึกไม่ดีเลย…”
“แบบนั้นดีแล้วหรอ?”
“เอะ”
“เซอิจิคุง เธอพยายามเพื่อยามาเสะซังมาตั้งขนาดนั้นแล้วแท้ๆ จะล้มเลิกแค่นี้จริงๆหรอ!”
“ไม่เป็นไรหรอก อย่างไงก็คงโดนปฏิเสธอยู่แล้ว กะจะเก็บมันไว้เป็นความทรงจำ อย่างไงซะก็บอกไปแล้วว่าครั้งสุดท้าย”
ฉันไม่อยากเห็นเขาสิ้นหวังไปมากกว่านี้
ฉันไม่ให้อภัยกับสิ่งที่เขาพูดออกมา และก็ตบหน้าเขาไป1ดอก
มีเพียงเสียงตบที่ดังกึกก้องขึ้นในห้องชมรม
เขาก็จ้องมาที่การกระทำฉัน
“ทำไมล่ะ! ทำไมถึงต้องพูดอะไรแบบนั้นออกมาด้วย! ฉันรู้นะว่าเธอพยายามมากขนาดไหน! เข้าชมรมมาเพื่อให้คนที่ชอบมาสนใจ ถึงตอนนั้นฉันจะโมโหมากก็เถอะ! แต่เห็นเธอพยายาม พยายามมากกว่าใคร จนสุดท้ายก็ทำอาหารได้ เพื่อยามาเสะซังไม่ใช่หรอ!”
“เอ่อ ป ประธาน?”
“ฉันน่ะ คิดว่าอิชิกิคุงสุดยอดไปเลยนะ สามารถทำเพื่อคนที่ชอบได้ขนาดนี้ แต่สุดท้ายทำไมกลับบอกว่าที่ทำมาศูนย์ปล่าวล่ะ?”
ฉันตวาดไปและร้องไห้ออกมา
รู้สึกเจ็บใจ ที่ผู้ชายที่ชอบนั้นปฏิเสธตัวเอง ในจุดที่ฉันชอบเขา ฉันเลยทนไม่ไหว
“ใจเย็นๆก่อน ประธาน ผมไม่ได้กะจะให้เป็นแบบ..”
“ถึงบางคนอาจจะคิดว่าน่ารำคาญก็เถอะ แต่นายสารภาพรักไปเพราะชอบยามาเสะซังไม่ใช่หรอ”
ฉันคล้อยตามอารมณ์ และพูดใส่เขาไปจนถึงตอนนี้
พอรู้สึกตัว เขาก็เอามือมาวางบนไหล่ฉันเพื่อทำให้ใจเย็น
“ทำไม.. อิชิกิคุงถึงชอบใจดีกับคนอื่น แต่กับตัวเองถึงต้องโหดร้ายด้วยล่ะ…”
“ก็จริง ที่วันนี้ผมไม่เหมือนกับปรกติ เพราะคิดว่าจะถูกเกลียดเพราะไปสารภาพรักตั้งขนาดนั้นไว้”
“ถ้างั้น มาสารภาพรักกับฉันสิ ถ้าเป็นฉันละก็…”
ฉันรู้สึกตัวว่าเพิ่งพูดอะไรน่าตกใจออกไปก่อนจะพูดจบ
อิชิกิคุงต้องรู้สึกตัวแน่ๆเลยถ้าพูดออกไปตรงๆขนาดนั้น
“เอ่อ นั่นน่ะ หมายความว่าไง.. หรอ?”
“เอะ เอ่อ มะ ไม่ คือ นั่นน่ะ ขะ ขอโทษค่าาา!!!”
“อ้า ประธาน”
ฉันวิ่งหนีออกมาจากห้องชมรมด้วยหน้าแดงกร่ำ
พูดไปสะแล้ว
เผลอพูดออกไปสะแล้ว
เซอิจิคุงต้องรู้สึกตัวอย่างแน่นอน เห็นเขาหน้าแดงนิดหน่อยด้วย
ฉันเผลอวิ่งขึ้นมาดาดฟ้าโดยที่ไม่รู้ตัว
“พะ พูดไปสะแล้ว”
เมื่อกี้เผลอไปสารภาพรักกับคนที่จะไปสารภาพรักอีกคนสะแล้ว(tl:งงมั้ยเนี่ย555)
เขานั้นกังวลกับการสารภาพรักครั้งสุดท้ายหนักกว่าแต่ก่อนอีก
“อ้าา ทำไมถึงทำแบบนั้นไปได้น้า”
ฉันที่หน้าแดงอยู่กุมหัวและตระโกนออกมา
พรุ่งนี้เจอกันจะทำอย่างไงดีละเนี่ย
จะพูดกับเขาอย่างไงดี
จะสบตากับเขาได้มั้ย
“เหมือนกำลังมีปัญหาสินะ”
“คะ ใครน่ะ!”
มีเสียงพูดมาหาฉันที่กำลังกังวลอยู่
พอหันกลับไปดู…
“อ๊ะ พวกเธอ.. ทะ ทำไม… ถึงมาอยู่ที่นี่…”
“ก็เพราะพวกเราคือชมรมทำอาหารนี่นา”
“ที่จริงก็กำลังจะไปห้องชมรมอยู่หรอก แต่เห็นประธานวิ่งออกมาก็เลยตามมาถึงดาดฟ้าน่ะ”
ที่อยู่ตรงนั้นคือสมาชิกชมรมทำอาหารที่น่าจะออกไปตามหาอิชิกิคุงนั่นเอง