[นิยายแปล] มีชีวิตสโลว์ไลฟ์ด้วยพร「สร้างหมู่บ้าน」 สุดแกร่ง - ตอนที่ 6
Ch.6 – หนูจะหนีออกจากบ้านค่ะ
Provider : Paradox
“ยกโทษให้ด้วยนะคะท่านพ่อ แต่หนูจะหนีออกจากบ้านค่ะ”
“หะ…นี่ลูกรู้ตัวไหมว่าพูดอะไรออกมาน่ะ เซเลน!?”
หลังจากที่ได้ยินคำพูดของฉัน ดวงตาของท่านพ่อก็เปิดกว้างด้วยความโกรธ
“ก็นี่มันรับไม่ได้นี่ท่านพ่อ! อย่างน้อยในครั้งนี้หนูก็ทนต่อไปไม่ไหวแล้ว”
ในช่วงเวลานี้ เป็นเรื่องปกติที่เหล่าลอร์ดจะให้ลูกหลานแต่งงานกับตระกูลอื่นเพื่อผลประโยชน์ทางการเมืองและเศรษฐกิจ
แม้แต่ฉันเองก็ไม่เว้นพอมีอายุได้ 10 ปี ฉันก็ได้ให้คำสัญญากับทายาทของลอร์ดอัลเบิร์ต เพราะฉันเข้าใจว่านี่เป็นทางเลือกที่ดีที่สุดเพื่อที่จะปกป้องดินแดนของพวกเรา ฉันจึงได้ตกลงที่จะทำตามคำสัญญาดังกล่าว
ที่จริงแล้วฉันก็โอเคที่จะแต่งงานกับลุคบุตรชายคนโตของลอร์ดอัลเบิร์ตนะ ฉันเคยพบเขาสองหรือสามครั้งนี่แหละ และดูเหมือนว่าเขาจะเป็นเด็กที่น่ารักและสุภาพมากซึ่งต่างจากพ่อของเขา อีกทั้งเขายังอายุน้อยกว่าฉันถึง 3 ปีอีกด้วย
อย่างไรก็ตามพรที่เขาได้รับในพิธีรับพรนั้นคือพรที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการต่อสู้อย่างชัดเจน
ในขณะที่ บุตรชายอีกคนของพ่อของลุคกลับได้รับพร「ปรมาจารย์ดาบ」ซึ่งคนนั้นก็คือน้องชายต่างแม่ของลุค ราอุล
และด้วยโชคชะตาที่ผกผันนี้ กลายเป็นว่าฉันต้องแต่งงานกับราอุลแทน
และฉันยังได้ยินมาอีกว่าลุคถูกส่งไปยังดินแดนรกร้างที่แสนห่างไกลอีกด้วย
“ถ้ามันเป็นลุค ฉันก็เต็มใจที่จะยอมรับในเรื่องนี้ แต่ถ้าเป็นเจ้าผู้ชายบิดเบี้ยวนั่นยังไงก็ไม่มีทางรับได้หรอกค่ะ!”
“แต่ตอนนี้เขาก็เป็นทายาทโดยตรงของลอร์ดอัลเบิร์ตแล้วนะ เซเลน! ถ้าลูกยังคิดห่วงใยดินแดนของพวกเราอยู่ละก็…”
“แน่นอนว่าไม่ค่ะ ท่านพ่อหนูขอตายดีกว่าถ้าจะต้องมาแต่งงานกับไอผู้ชายแบบนั้น!”
หลังจากที่ได้ตะโกนออกมาแล้ว ฉันก็รีบวิ่งหนีออกจากปราสาททันที
ฉันจะวิ่งไปจนกว่าจะถึงนอกอาณาเขตของดินแดน แต่เหล่าทหารที่กำลังประจำการอยู่บนทางหลวงก็ปิดกั้นเส้นทางของฉัน
“คุณหนูเซเลน ได้โปรดกลับไปด้วยเถอะครับ”
“เอาล่ะ ถ้านายอยากจะให้ฉันหยุด ก็ลองมาหยุดฉันดูสิ!”
ฉันพูดออกมาพร้อมกับชักดาบทั้งสองที่ห้อยเอาไว้ตรงบริเวณเอวออกมา
พร้อมกับที่เกิดเสียงแตกหัก น้ำแข็งก็ได้ก่อตัวขึ้นบนดาบของฉัน
บางทีอาจจะเข้าใจถึงความเอาจริงของฉัน เหล่าทหารเลยเผลอก้าวถอยหลังโดยสัญชาตญาณ
พวกเขารู้ว่าฉันแข่งแกร่งมากแค่ไหน และสรุปได้ว่าพลังของพวกเขาคงมีไม่เพียงพอที่จะหยุดฉันได้
“ด..ได้โปรดช่วยกลับไปเถอะครับ คุณหนูเซเลน…”
“พวกนายนี่มันดื้อด้านซะจริงนะ แต่ถ้าจะมาขวางทางกันละก็ จะไม่ปราณีแน่”
เมื่อได้ยินคำขู่ของฉัน เหล่าทหารจึงเปิดทางให้ฉันอย่างจำใจ
และฉันก็ได้วิ่งผ่านช่องว่างที่พวกเขาเปิดทางให้จนกระทั่งสถานที่ที่ฉันได้เกิดขึ้นมานั้นได้อยู่ห่างไกลออกไป
◇ ◇ ◇
หลายวันได้ผ่านไปหลังจากที่ได้มาถึงยังดินแดนรกร้าง
“ดูสิคะท่านลุค! ดูเหมือนว่าต้นอ่อนจะขึ้นทั่วลานเพาะปลูกแล้วล่ะคะ!”
“โอ้ จริงด้วย!”
พอผมได้รีบวิ่งมาถึงตรงที่มิเลียได้เรียกผมมา ผมก็ได้เห็นต้นอ่อนด้วยตาตัวเอง ซึ่งก็เป็นเหมือนกับที่เธอบอกเลย
พูดตามตรง ผมก็ไม่แน่ใจว่าเมื่อไหร่พืชผลที่หว่านเมล็ดไว้จะเริ่มโต แต่พอได้เห็นนี่แล้วก็น่าจะหมดห่วงได้ล่ะนะ
ยิ่งไปกว่านั้นเหมือนมิเลียจะบอกว่า พืชผลพวกนี้โตเร็วกว่าที่คาดการณ์เอาไว้เสียอีก
“พวกเราทำสำเร็จแล้วนะคะ ถึงแม้ว่าหลังจากนี้พวกเราคงจะมีงานที่ต้องทำอีกมาก แต่อย่างน้อยตอนนี้พวกเราก็มีแหล่งอาหารที่มั่นคงแล้วล่ะค่ะ”
“จริงด้วยสินะ เยี่ยมไปเลย”
และผมก็ยังได้ใช้แต้มที่สะสมไว้ในหลายวันมานี้สร้างหอสังเกตการณ์และกำแพงดิน
ซึ่งแต่ละอันก็มีราคา 20 แต้ม
จริงแล้วๆผมก็กะว่าจะสร้างกระท่อมอีกหลังละนะ แต่มิเลียดันยืนกรานว่าพวกเราควรให้ความสำคัญกับสิ่งอำนวยความสะดวกด้านความปลอดภัยเพื่อป้องกันในกรณีที่เลวร้ายที่สุดไว้ก่อน
ถึงในตอนนี้พวกเราจะยังไม่เคยถูกโจมตีเลยก็ตาม แต่ผมก็ได้เห็นสิ่งมีชีวิตบางตัวที่อยู่ห่างไกลมากเมื่อไม่กี่วันก่อน ทำให้ผมรู้สึกดีใจที่นี่เป็นสิ่งที่พวกเราเลือกที่จะสร้างก่อน
กำแพงดินนั้นมีความสูงประมาณ 2 เมตรได้ มันคงไม่สามารถที่จะใช้ป้องกันมอนสเตอร์ตัวใหญ่ๆได้ แต่สำหรับตัวเล็กๆนี่ก็คงจะพอแล้วล่ะ
“…ท่านลุคคะ! เกิดเหตุฉุกเฉินขึ้นแล้วค่ะ!!”
มิเลียที่อยู่บนหอสังเกตการณ์อยู่ดีๆก็ตะโกนออกมา เพราะว่านี่ค่อนข้างกะทันหันสัญชาตญาณแรกของผมเลยหันไปมองทางทิศที่เธอกำลังดูอยู่
“มีกลุ่มก็อบลินกลุ่มหนึ่งกำลังมุ่งหน้ามาทางนี้ค่ะ!”
“อะไรนะ!?”
ก็อบลินเป็นสิ่งมีชีวิตน่าเกลียดที่มีรูปร่างคล้ายกับมนุษย์
ปกติแล้วพวกมันจะตัวเตี้ย ตัวที่สูงที่สุดในหมู่พวกมันไม่น่าจะสูงเกิน 150 เซนติเมตรด้วยซ้ำ
ถ้าแค่ตัวเดียวพวกเราก็คงจะจัดการมันได้อย่างง่ายดาย แต่ถ้ามาเป็นกลุ่มล่ะก็เป็นปัญหาใหญ่เลยล่ะ
หวังว่ากำแพงนี้จะพอที่จะทำให้พวกมันยอมแพ้และถอยหลังกลับไปได้นะ
“ดูเหมือนว่าพวกมันเหยียบเพื่อนของตัวเองเพื่อปีนขึ้นมาบนกำแพงค่ะ!!”
แต่ก็ดันเป็นแบบนี้ ตอนนี้มันก็คงขึ้นอยู่กับเวลาแล้วล่ะที่พวกมันจะปีนข้ามกำแพงมาแล้วบุกรุกเข้าไปในหมู่บ้าน
“พวกเราคงต้องสู้กลับแล้วล่ะ!”
“ท่านลุคคะ!?”
ผมตัดสินใจได้และชักดาบของผมออกมา