[นิยายแปล] มีชีวิตสโลว์ไลฟ์ด้วยพร「สร้างหมู่บ้าน」 สุดแกร่ง - ตอนที่ 5
Ch.5 – …ฟุดฟิด…ฟุดฟิด…
Provider : Paradox
หมู่บ้านของลุค
เลเวลหมู่บ้าน : 1
แต้มหมู่บ้าน : 10 (จะได้รับ 11 แต้มต่อวัน)
จำนวนชาวบ้าน : 1
สกิลหมู่บ้าน : ไม่มี
“ตอนนี้ในหมู่บ้านก็มีชาวบ้านคนนึงแล้วสินะ แล้วก็ได้แต้มที่จะได้รับต่อวันเพิ่มมาหน่อยนึงด้วย”
ดูเหมือนว่าถ้าจำนวนชาวบ้านในหมู่บ้านเพิ่มขึ้น แต้มที่จะได้รับต่อวันก็จะเพิ่มขึ้นตามสินะ
“ดูเหมือนว่าผมคงจะต้องหาชาวบ้านมาเพิ่มสิน้า…”
“ฟุฟุฟุ ทั้งที่ชั้นคิดว่าหมู่บ้านนี้มีแค่พวกเราสองคนจะดีกว่าแท้ๆ”
“…หืม?”
“ไม่มีอะไรค่ะ”
แต่ตอนนี้ก็ไม่เหลือแต้มพอที่จะสร้างอะไรแล้ว ดูเหมือนว่าจะต้องรออย่างน้อยซักวันนึงจริงๆด้วยสินะ
หลังจากนั้น มิเลียก็ได้เตรียมอาหารเย็นมาให้ พอทานอาหารเย็นเสร็จฟ้าก็เริ่มมืดพอดี
ไม่เหมือนกับตอนที่เคยอาศัยอยู่ในเมือง ที่นี่แทบจะไม่มีแหล่งกำเนิดแสงเลย มีเพียงแต่แสงที่ส่องสลัวๆมาจากดวงจันทร์และดวงดาว
เนื่องจากพวกเราคงทำอะไรได้ไม่มากเท่าไหร่ในความมืด พวกเราเลยตัดสินใจเข้าไปอยู่ในกระท่อมที่ผมได้ใช้พรของผมสร้างมา
พวกเราเจาะรูเล็กๆบนกำแพงเพื่อให้แสงส่องเข้ามาได้เล็กน้อย แต่ข้างในก็ยังมืดสนิทอยู่ดี
ทำให้พวกเราต้องมานั่งคลำหาของเอาเองในความมืด พอหาผ้าห่มเจอก็จัดการคลุมผ้าห่มแล้วนอนลงบนพื้นข้างกัน
หวังว่าในอนาคตพรของผมจะมีวิธีการช่วยในเรื่องนี้ได้บ้างนะ
ในตอนแรกผมก็เคยสงสัยว่าจากพรทั้งหมดทำไมถึงเป็นพรนี้ที่ผมได้รับ แต่ตอนนี้ผมก็ได้เริ่มรู้ความสามารถของพรนี้แล้ว บางทีสถานการณ์ในตอนนี้มันอาจจะไม่ได้เลวร้ายเท่าไหร่นะ
อย่างที่ผมเคยบอกไปว่าผมไม่ค่อยชอบการต่อสู้ แทนที่ในโลกนี้ทุกคนจะมาสู้รบราฆ่าฟันกันเพียงเพื่อแย่งชิงดินแดนและทรัพยากร ผมอยากที่จะเห็นโลกที่ทุกคนสามารถใช้ชีวิตอยู่ร่วมด้วยกันอย่างสันติมากกว่า ผมได้คิดเรื่องนี้มาตั้งแต่เด็ก และพอได้มายังดินแดนที่ผมสามารถสร้างหมู่บ้านเล็กๆของตัวเองได้ บางทีนี่อาจจะเป็นโอกาสครั้งสำคัญในชีวิตของผมก็ได้
หมู่บ้านที่ผมอยากที่จะสร้างไม่จำเป็นต้องยิ่งใหญ่ แต่อย่างน้อยอยากให้สงบสุขล่ะนะ
ขณะที่ผมกำลังจดจ่อกับการครุ่นคิดสิ่งต่างๆ ผมก็รู้สึกได้ถึงความผิดปกติ : คนที่อยู่ข้างผมอยู่ดีๆก็กำลังทำเสียงแปลกๆ…..
“ฟุด…ฟิด…ฟุด…ฟิด… (กุฟุฟุ ได้สูดดมกลิ่นของท่านลุคแบบใกล้ชิดตลอดทั้งคืนแบบนี้ ท…ที่นี่มันสวรรค์รึยังไงกัน!?)”
…ผมก็ไม่แน่ใจว่ามันเกิดอะไรขึ้น แต่ผมรู้สึกเหมือนมีพลังงานบางอย่างกำลังบอกผมว่าจะดีกว่าถ้าผมเพิกเฉยมัน
เช้าวันต่อมา ผมได้ตื่นขึ้นจากแสงแดดที่ส่องออกมาจากรูที่พวกเราได้เจาะไว้
ส่วนมิเลีย ดวงตาของเธอยังปิดอยู่และกำลังนอนอยู่ในท่ากอดผมเบาๆ
“…หืม สงสัยคงจะต้องสร้างกระท่อมหลังอีกหลังจริงๆสินะเนี่ย”
“ไม่ค่ะ! ไม่ใช่ว่าแค่หลังเดียวก็พอแล้วเหรอคะ”
“ธ-เธอตื่นอยู่แล้วหรอกเหรอ!?”
“แน่นอนค่ะ ไม่ใช่ว่ามันเป็นเรื่องปกติอยู่แล้วเหรอคะที่เมดจะต้องตื่นเช้าก่อนเจ้านายของตัวเอง”
“แล้วทำไมเธอถึงยังไม่ลุกออกจากที่นอนล่ะ”
(ก็เพื่อที่ชั้นจะได้เพลิดเพลินไปกับใบหน้าที่แสนน่ารักของท่านลุคตอนหลับและโอบกอดร่างกายที่แสนอ่อนนุ่มไว้ให้นานที่สุดเท่าที่ทำได้ไงล่ะคะ)
มีหลายครั้งที่ผมรู้สึกเหมือนมิเลียกำลังซ่อนความลับอะไรบางอย่างอยู่
แต่ก็นะ ทุกคนเขาก็มีความลับกันเป็นของตัวเองทั้งนั้นแหละ
“ทำตัวตามสบายเถอะ ตอนนี้เธอก็ไม่ได้เป็นเมดอีกต่อไปแล้ว ดังนั้นไม่จำเป็นต้องบังคับตัวเองให้ตื่นเช้าหรอก”
“นั่นก็จริงค่ะ แต่ตอนนี้ดิฉันได้กลายเป็นชาวบ้านและคุณก็เป็นหัวหน้าหมู่บ้าน ดังนั้นนี่จึงเป็นเรื่องปกติที่ดิฉันจะต้องแสดงการกระทำบางอย่างเพื่อแสดงความเคารพค่ะ”
เป็นแบบนั้นหรอกเหรอ
ผมไม่เคยอาศัยอยู่ที่หมู่บ้านมาก่อน ดังนั้นผมเลยไม่ค่อยรู้เรื่องพวกนี้ซักเท่าไหร่
“อ๊ะ ดูเหมือนว่าตอนนี้ผมจะมี 21 แต้มแล้ว”
“ยินดีด้วยค่ะท่านลุค ไม่ใช่ว่าตอนนี้ก็มีแต้มพอที่จะสร้างลานเพาะปลูกแล้วเหรอคะ”
เวลาได้ผ่านไป 1 วันแล้ว ดังนั้นผมเลยได้รับแต้มมาจำนวนหนึ่ง
และดังที่มิเลียได้ยืนกรานหลายครั้ง ผมเลยตัดสินใจที่จะสร้างลานเพาะปลูกเป็นอย่างต่อไป
<<20 แต้มหมู่บ้านจะถูกใช้เพื่อสร้างลานเพาะปลูก ดำเนินการต่อหรือไม่ {ตกลง} || {ปฏิเสธ}>>
ข้อความที่คุ้นเคยปรากฏขึ้นมาบนวิสัยทัศน์ของผม
พอผมได้กด {ตกลง} พื้นที่ข้างหน้ากระท่อมก็ได้กลายเป็นลานเพาะปลูกในพริบตา
“นี่….มันมหัศจรรย์มากค่ะท่านลุค! พวกเราจะต้องสามารถปลูกพืชผลที่ยอดเยี่ยมด้วยลานเพาะปลูกนี่แน่นอนค่ะ!”
ในขณะที่มิเลียกำลังพูดด้วยความตื่นเต้น เธอก็ได้เริ่มหว่านเมล็ดพันธุ์ที่พวกเรานำมาด้วย
…เธอเคยเป็นเมดมาก่อน แต่ทำไมเธอถึงหว่านเมล็ดพันธุ์ได้อย่างรวดเร็วและงดงามขนาดนี้กันนะ หรือว่าเธอจะเคยมีประสบการณ์ในการทำฟาร์มมาก่อนกัน
“ให้ผมช่วยด้วยคนสิครับ”
“แต่ท่านว่าลุคคะ งานแบบนี้น่ะมันไม่เหมาะกับท่า-”
“ได้โปรดอย่าปฏิบัติต่อผมเป็นเหมือนกับตอนที่ผมยังอยู่ที่ปราสาทเลยครับ ตอนนี้ที่นี่คือหมู่บ้านของผม ดังนั้นนี่จึงเป็นความรับผิดชอบของผมด้วยที่จะทำให้หมู่บ้านนี่เติบโตเท่าที่ผมทำได้”
“…งั้นเหรอคะ ขอรับความช่วยเหลือนี้ไว้ก็แล้วกันค่ะ”
ลานเพาะปลูกนี้มีขนาด 50 เมตรทั้งด้านกว้างและด้านยาว
มิเลียก็ได้สอนผมอย่างเชี่ยวชาญถึงวิธีการหว่านเมล็ดพันธุ์ แต่ถึงอย่างนั้นพวกเราสองคนก็ใช้เวลาไปมากพอสมควรถึงจะหว่านเมล็ดเสร็จทั่วทั้งแปลง
และนี่ก็เป็นแค่การหว่านเมล็ดเท่านั้น ถ้าพวกเราเริ่มตั้งแต่การสร้างลานเพาะปลูก มันคงต้องใช้เวลามากกว่านี้หลายเท่าแน่นอน
จนกระทั่งไม่นานมานี้ การรับประทานอาหารเป็นเรื่องปกติของผม แต่ตอนนี้ผมก็ได้เริ่มเข้าใจแล้วว่าในเบื้องหลังเกษตรกรต้องทำงานหนักแค่ไหน