[นิยายแปล]ครูผู้กล้า - ตอนที่ 9
Ch.9 – 「จ้าวปีศาจสุดแกร่ง โดนเอลฟ์สาวสวยจับคาเบะด้ง」
Provider : เสือหนุ่มโดนนางพญากด
Chapter 9 「จ้าวปีศาจสุดแกร่ง โดนเอลฟ์สาวสวยจับคาเบะด้ง」
ผมสูดลมหายใจเอาอากาศบริสุทธิ์เข้ามาในตัว เพื่อขจัดกิเลส
หลังจากที่เมื่อวานวิ่งวุ่นสอบเข้าเรียนทั้งวัน
ดังเช่นสุทรพจน์ของโรงเรียนที่กล่าวไว้ 『จงแสดงความแข็งแกร่งทั้งหมดออกมาทุกด้าน』.
มันก็เป็นระบบที่ดูแฟร์ๆดี แม้ว่าผมคิดว่าจะติดอันดับหนึ่งทั้งหมดก็เถอะ แต่ความกระหายนี่ไม่อาจเอาออกไปได้ง่ายๆ
ถึงแม้ว่าจะเป็นมนุษย์ในตอนนี้ แต่ด้านในก็เป็นจ้าวปีศาจ พลังส่วนใหญ่โดนผนึกไว้ แต่นิสัยก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลง
ถึงแม้จะมีความรู้สึกไม่รู้กระแสเวลาและความโลภที่ไร้ขีดจำกัด แม้ว่าเรนะจะพยายามช่วยทำให้ผมสงบลง แต่ว่ายังไงมันก็ตื่นเต้น
พวกปีศาจส่วนใหญ่ก็ใช้เวลาส่วนมากในรังรัก เนื่องจากผมมีชีวิตที่ยาวนานจึงใช้เวลาหลายวันที่จะทำตารางเวลาชีวิตให้ตรงกับพวกมนุษย์ ไม่สิหลายปีเลยล่ะหลังจากนี้
ไม่ดีเลยแหะ ก่อนอื่นก็ควรจะทำอะไรสักอย่างเกี่ยวกับการ 『ความรู้สึก』 ให้เหมือนมนุษย์ปกติสักที
…รู้สึกเหนื่อยเมื่อตระหนักได้เช่นนั้น มันอาจจะไปกระตุ้นความกระหายสงครามขึ้นมาอีกต้องชังใจไว้
ตอนนั้นเองก็ใช้เวลาส่วนมากอยู่กับลูมิเอล ซึ่งใช้เวลามากว่า 1,000 ปี จนกระทั่งมาที่นี่และไม่รู้ว่าจะความแตกเมื่อไรแล้วเมื่อคืนที่ใช้เวลาอยู่กับเรนะความรู้สึกมันก็รุนแรงมากขึ้น นี่เป็นปัญหาสำหรับพวกปีศาจเลยนะเนี่ยที่มีเวลาว่างเยอะมันยิ่งตื่นเต้นเข้าไปใหญ่
「เน่ เน่ เธอน่ะ」
ลองคิดดูสิว่าตอนนี้ลูมิเอลกำลังทำอะไร? ผมให้เธอเฝ้าบัลลังก์เพราะว่าอาจจะมีขาประจำมาเยี่ยมเยือนอยู่บ่อยๆ บางทีเธออาจจะเบื่อ หวังว่าเธอจะไม่อารมณ์เสีย…..
「เธอตรงนั้นได้ยินรึเปล่าคะ」
ครั้งหนึ่งลูมิเอลเคยโกรธมากจนคุมอารมณ์ไม่อยู่ ตอนนี้ผมต้องใช้กำลังบังคับทำให้เธอหยุดจนเธอร้องไห้ แต่ตอนนี้ผมไม่อยากบังคับลูมิเอลแบบนั้นอีก อยากเห็นลูมิเอลที่สดใสเหมือนเคย
บางทีผมควรซื้อของฝากไปให้เธอบ้างนะ เช่น อาหาร เครื่องประดับ เอ่อยุ่งยากจังแหะ
「อะ・รุณสะ・หวัดจ้าาาา! ได้ยินรึเปล่าค้าาาา!? 」
「เหวออออ!?」
ผมลุกขึ้นยืนพร้อมกับร้องเสียงหลง รู้สึกเหมือนใจตกไปอยู่ตาตุ่มเลยนะเนี่ย!?
「แฮะ แฮะ ไม่ได้คิดจะทำให้ตกใจขนาดนั้นสักหน่อยน้า …..」
หญิงสาวคนนั้นที่พูดเช่นนั้นเป็นเอลฟ์
ผมสีเขียวเข้มยาวสลวย และหูของเธอที่มีรูปร่างยื่นยาวซึ่งสวยงามสมคำร่ำลือของเอลฟ์เลย
ดวงตาของเธอเป็นสีเขียวอ่อน ตอนนี้ผมเองก็มีดวงตาสีเขียวมรกตซึ่งมันดูคล้ายกันมากๆเลย
เธอดูราวๆอายุ 16-17 ปี สูงเกือบเท่าผมเลยล่ะ อาจเป็นเพราะสวมรองเท้าส้นสูง
เธอสวมกระโปรงสีน้ำเงินเข้มพับสั้นและเสื้อโค้ทที่ดูเปิดไหล่ทั้งสองข้างอย่างชัดเจน ต้นขาที่เรียบเนียนและเต่งตึงที่โผล่ให้เห็นใต้กระโปงนั่นดึงดูดสายตาโดยธรรมชาติ
อ่าา ขอยอมรับเลยว่า ถ้าไม่มีใครอยู่ นี่เล่นไปแล้วนะ ยังไงก็ตาม เอ่อนี่จะเอาอีกแล้วสินะผมเนี่ย ชังใจหน่อยสิ
ในขณะที่ผมกำลังจมไปอยู่กับความสิ้นหวังเอง สาวน้อยคนนั้นก็ยิ้มมาราวกับดอกไม้
「อิย๊าาาา〜.หนุ่มน้อยรูปงามที่มีสีหน้าเศร้าหมองยืนอยู่หน้าโรงแรมตั้งแต่เช้าตรู่แบบนี้ ก็เลยเผลอทักออกไปนะจ้ะ」
「หวาาา」
สำหรับเอลฟ์แล้วเธอค่อนข้างเป็นมิตรมากเกินไปเลยล่ะ ภาพลักษณ์ในหัวผมเป็นพวกหยิ่งผยองและมักจะดูถูกคนอื่นๆ
แต่ว่าไม่รู้สึกเช่นนั้นกับเธอเลยแหะ
「เน่ นี่ เธอนะมาจากไหนงั้นเหรอ? ไม่ใช่คนแถวนี้ใช่ไหมล้า ฉันรู้น้า?」
เอลฟ์สาวสวยเดินเข้ามาพร้อมกับใบหน้าสงสัย เอิ่มนี่ไม่ใกล้เกินไปเหรอเนี่ย ผมตอบพร้อมกับผลักเธอออกไปเบาๆ
「อะ ครับ ผมมาจากทางตะวันตก.」
ไม่ได้โกหกนะ เป็นเรื่องจริงที่มาจากตะวันตก มาจากอาณาจักรมาร เทเลเบลย์ ทางตะวันตกของจักรวรรดิไง
「ตะวันตกงั้นเหรอ?อะ-~อืม ถ้างั้นคงจะเป็นเมืองป้อมปราการแกรเด้ม?」
「อ่ อะใช่ครับ」
แกรเด้ม เป็นจุดยุทธศาสตร์ทางตะวันตกของอัลเบเรีย เมื่อก่อนที่เผ่าปีศาจบุกตรงจุดนั้นเคยถูกยึดมาเป็นฐานของพวกปีศาจและใช้เป็นที่กวาดล้างเหล่ามนุษย์
แม้ว่าตอนนี้ผมจะมาเพียงเพื่อเฝ้าดูอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์แห่งเลสตาฟลอร่า ซึงเป็นประเทศเล็กๆเหนือเทเลเบลย์ แทนที่จะเป็นจักรวรรดิ ซึ่งตอนนั้นเป็นตอนที่แย่งชิงบัลลังก์มาเอง
「อุฟุฟุฟุ? มาจากแกรเด้มงั้นเหรอ? แถวนั้นมีแต่พวกผมสีบลอนด์นี่น่า หายากนะที่จะเจอเด็กผมฟ้าแบบเธอน่ะ」
อย่าล้วงลึกจะได้ไหมเนี่ย การถามคนอื่นแบบนี้ทั้งที่เจอกันครั้งแรกเสียมารยาทนะ ตอนนี้ผมก็ไม่รู้อะไรเกี่ยวกับแกรเด้มด้วย
「ชื่ออะไรอะเรา? บอกพี่สาวมาสิจ้ะ! 」
「……ทีโอดอร์ครับ」
「ทีโอคุง โฮะโฮะ ช่างเป็นเด็กที่น่ารักอะไรเช่นนี้ ชื่อดูเชยจังเลยนะ อ่านั่นคงเสียมารยาทเนอะ~? 」
「ผมต่างหากที่ควรจะพูดแบบนั้น」
ผมพลักเอลฟ์สาวคนนั้นเข้ากับกำแพงพร้อมกับจับข้อมือของเธอและยกคางเธอขึ้น. (TL note: คาเบะด้งล่ะ!)
「ถ้างั้นล่ะก็ถึงคราวฝ่ายนั้นแนะนำตัวแล้วนะครับ ผมเองก็อยากรู้ชื่อเธอเหมือนกัน?」
เรนะเคยบอกไว้ว่าเอลฟ์ที่หยิ่งในศักดิ์ศรีนั้นจะโกรธมากเวลาโดนทำอะไรแบบนี้
มันควรจะเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพที่สุดที่ทำให้เธอเลิกสนใจผม
「ลิซ พูดโดยไม่ต้องเติมคำลงท้ายก็ได้นะ พี่สาวไม่ถือหรอกจ้ะ」
(TN: ลิซ ชื่อเล่นของนาง)
ลิซงั้นเหรอ ในทางกลับกันเธอมองมาทางนี้ด้วยแววตาที่สนใจมากกว่าเดิม
「อืมมมมม ลิซงั้นเหรอครับ ถ้างั้นไปทำเรื่องสนุกๆกันไหมครับ? โชคดีจังเลยนะแถวนี้มีโรงแรมอยู่ด้านหน้าเลยนี่น่า แถมยังมีเตียงที่มีเสียงดังเอี๊ยดอ๊าดดีนะครับ」
นี่มันเป็นการกระทำที่หยาบคายน่าดูเลยแหะ รู้สึกผิดเลยอะ
「งั้นเหรอ เธอโอเคงั้นเหรอจ้ะ? ถ้างั้นทีโอคุงจะทำอะไรกับเค้างั้นเหรอ? หืมมม? ช่วงเวลาที่ดีอะไรกันน้าา?」
…… ยัยเอลฟ์นี่เพี้ยนไปแล้วรึไงเนี่ย?
ผมเริ่มร้อนรน ทำไมถึงไม่ตกใจเลยล่ะทั้งๆที่นี่มันเป็นอะไรที่มันเป็นคำพูดที่มันส่อไปเชิงลามกมากเลยนะ นี่มันเปิดเผยถึงความหื่นกระหายของผมเชียวนะ?
「อยากจะให้บอกหน่อยนะจ้ะ จะเกิดอะไรขึ้นงั้นเหรอจ้ะ เธอจะทำอะไรกับเค้างั้นเหรอ」
ลิซออกจากกำแพงแล้วกดผมเข้ากับกำแพงด้วยมือทั้งสองข้างของเธอ
ใบหน้าอันแสนน่ารักของเธอนั้นกดเข้ามาใกล้
「เป็นอะไรที่พูดไม่ได้งั้นเหรอจ้ะ〜?」
ผมเหงื่อเต็มหน้า เกิดขึ้นได้ไงเนี่ย? นี่ผมโดนเธอสวนกลับงั้นเหรอ (TL Note: โดนคาเบะด้งกลับเลย!)
「นะเน่〜 บอกเค้าหน่อยได้ม้าาา?, พี่สาวคนนี้ไม่โกรธหรอกนะคิดอะไรอยู่กันเหรอ 」
「อะเอ่อ นั่นคง…..」
「หืมมมม อะไรล่ะ?จะทำอะไรกันน้า?」
หัวใจของผมเต้นรัวเมื่อเธอยื่นหน้าเข้ามาใกล้ ทำยังไงดี? ผู้ชายส่วนใหญ่เขาทำยังไงนะสถานการณ์แบบนี้
「ทีโอคุงที่เป็นฝ่ายรุกเอง กลับอายเองเวลาที่โดนรุกกลับงั้นเหรอ? น่ารักจังเลยน้า~!」
ลิซยกคางของผมขึ้นด้วยมือของเธอ ราวกับกำลังเอาคืน
ดวงตาสีเขียวอ่อนนั้นส่องแสงสว่างเจิดจ้า
「เน่~รู้รึเปล่าเดี๋ยวนี้น่ะเอลฟ์เป็นพวกกินเนื้อแล้วนะจะบอกให้…พวกฉันน่ะทนไม่ได้หรอกนะที่โดนเด็กอย่างเธอมาล้อเล่นแบบนี้ ถ้างั้นเข้าไปในโรงแรมกันเลยไหมจ้ะ? ฟุฟุฟุ~ถ้างั้นเราขึ้นห้องแล้วไปทำให้เรื่องสนุกๆ จนเตียงส่งเสียงดังกันไปเลยเนอะ?」
หัวของผมเบลอและคิดอะไรไม่ออกเลย
ผมพยายามคิดว่ามันคงไม่เป็นไรเพราะว่าเธอเป็นฝ่ายรุกเอง อ่าาอยากจะรับข้อเสนอนั่นจังเลยนะ แต่ว่าตอนนี้ดันทำไม่ได้ …… เวรเอ้ย
「อะเอ่อผมก็แค่ล้อเล่นนะครับ ลิซ」
「หืมมมม? แต่พี่สาวคนนี้จริงจังนะ?」
「ถ้างั้นถ้าผมทำโดยไม่ได้ล้อเล่นละครับ?」
「ก็เอาเลยสิ? ยินดีเลยล่ะ ทำข้างนอกก็คงไม่เลวใช่ไหมล่า? เอาสิ เอาซี้ พี่สาวพร้อมแล้วนน้า〜」
ผมไม่สามารถบอกได้เลยว่าตอนนี้เธอเอาจริงหรือล้อเล่นกันแน่ ในขณะนี้ผมก็คิดถึงสิ่งที่ต้องทำ
ทันใดนั้นเองประตูของโรงแรมก็เปิดออกดังปั้ง
สาวสวยผมสีเงินสวมชุดเมดกำลังมองมาที่พวกเรา
นั่นคือเรนะเอง นอกจากนี้ยังไม่ได้ซ่อนตัวด้วย สาวเมดที่สวยมากซึ่งขัดกับโรงแรมราคาถูกเช่นนี้มองเราอย่างเงียบๆ สายตาของเอลฟ์ที่ผลักผมติดกำแพงนั้นทำเอาผมหดหู่เลยอะ
「อะ〜อุ๊บบบ โดนเห็นซะแล้วสิ」
จู่ๆลิซก็ปล่อยมือของเธอ ผมเว้นระยะห่างเพื่อหนีจากเธอ
「ไม่เห็นจะต้องหนีไปแบบนั้นเลยนี่〜. ถ้าเค้าจริงจังนะเธอจะหนีไปแบบนี้เลยงั้นเหรอ? เค้านะชอบเด็กน่ารักๆนะจะบอกให้」
「ละลิซ…… ขอโทษนะครับแต่ว่าผมต้องไปแล้ว」
「น่า น่า เค้ารู้แล้วเธอจะไปสอบใช่ไหมล่ะ?」
ผมมองไปที่เธอด้วยความประหลาดใจ ลิซพูดด้วยรอยยิ้มที่ไม่เปลี่ยนแปลง
「ก็เมื่อวานพี่สาวคนนี้เห็นทีโอคุงอยู่แถวๆโรงเรียนนี่ อาจจะเป็นเพราะแบบนั้น ใช่ม้า? 」
「อะ อ่าครับ〜 ใช่แล้วล่ะตอนนี้ผมกำลังจะไปสอบครับ」
「แต่ว่าไม่ปกติเลยนะที่ต้องสอบถึงสามวิชาเนี่ย ปกติต้องสอบวิชาเดียวไม่ใช่เหรอ?」
「พอดีมันเป็นสถานการณ์พิเศษน่ะครับ.」
「หืมมมม ก็ช่างเถอะนะ อันที่จริงวันนี้พี่สาวก็จะไปสอบเหมือนกันล่ะ.」
ลิซสะบัดผมสีเขียวเข้มของเธอพร้อมกับจ้องมาทางนี้
「ถ้างั้นผมไปก่อนนะครับจะไปรอ ถ้างั้นพวกเราสองคนมาพยายามให้สอบผ่านกันเถอะครับ? 」
「อ่าา อืม หวังว่าพวกเราจะทำได้นะ」
เธอยิ้มออกมา ผมเดินไปที่โรงเรียนอย่างรวดเร็ว
ผมถอนหายใจอย่างโล่งอกแล้วหันไปกลับเรนะ แต่เรนะเอามือชี้ริมฝีปาก บางทีคงจะไม่ให้พูดเรื่องนี้สินะ?
『เอลฟ์มีหูที่ดีค่ะ บางทีเธออาจจะได้ยินสิ่งที่พวกเราพูด.』
เรนะใช้เวทสื่อสารบอกผมเช่นนั้น
แน่นอนอยู่แล้ว ว่าในบรรดาเผ่าต่างๆนั้นเอลฟ์มีความสามารถในการได้ยินที่สูงมาก บางทีผมคิดว่ามันคงไม่เป็นไรเพราะมีคนเยอะแบบนี้บางทีคงคิดผิด
ทันใดนั้นเรนะก็หายตัวไป
『เอาล่ะ ถ้างั้นก็รีบไปที่โรงเรียนกันเถอะค่ะ พวกเรามีเวลาไม่มากในการสอบแล้วค่ะ』
นั่นสินะ เรนะพูดขึ้น
『ท่านลูซิเฟอร์เนี่ยน้าแพ้เวลาโดนผู้หญิงกดงั้นเหรอคะเนี่ย ก็รู้หรอกนะคะ』
「อะอืม…..」
『มันเป็นเพราะว่าท่านแข็งแกร่งเกินไป ดังนั้นเลยด้อยประสบการณ์ เวลาที่โดนผู้หญิงกดดันแบบนั้นเลยทำตัวไม่ถูกสินะนะ แต่ว่า…』
เรนะหยุดพูดสักพักแล้วพูดต่อ
『ถ้าอยากจะทำตัวเป็นมนุษย์ต่อไปก็ควรจะระวังผู้หญิงแบบนี้ให้ดีค่ะ ฉันไม่รู้เลยค่ะว่าผู้หญิงแบบนั้นคิดอะไรกันแน่…แต่โปรดมั่นใจไว้เถอะคะดิฉันจะคอยเฝ้าดูท่านอยู่เสมอ.』
ขอบคุณนะเรนะ ผมไม่มีทางเลือกอื่นเลยที่ต้องให้เธอคอยช่วยแบบนี้