[นิยายแปล]ครูผู้กล้า - ตอนที่ 11
Ch.11 – 「เริ่มการทดสอบเข้า ~ ภาควิชาเวทมนตร์ ~ อีกรอบงั้นเรอะ! ผู้คุมสอบเผ่นไปแล้วเว้ย」
Provider : เอ้าคนคุมสอบไหงทำแบบนี้
CHAPTER 11 「เริ่มการทดสอบเข้า ~ ภาควิชาเวทมนตร์ ~ อีกรอบงั้นเรอะ! ผู้คุมสอบเผ่นไปแล้วเว้ย」
『เฮ้ย แกนะชื่ออะไร?』
「ทีโอดอร์ครับ แล้วนายล่ะ?」
『……ข้าจูเลี่ยน』
「ชื่อดูเหมือนมนุษย์มากเลยนะครับ?」
เขาไม่ตอบ แต่จ้องมองมาทางนี้ด้วยดวงตาอันแหลมคม
『ทีโอดอร์ เจ้าบอกว่าเจ้าจะเอาชนะข้าใช่ไหม? แน่นอนว่าเจ้าไม่มีสิทธิบ่นหากข้าจะโจมตีเจ้านะ?』
「เอาจริงๆแล้วจะ ข่วนด้วยเล็บนั่นหรือเผาด้วยลมหายใจมังกร แช่แข็งผมหรือทำอะไรก็ได้ครับ แต่ว่าสิ่งเหล่านั้นผมว่านายทำไม่ได้หรอก」
「นะ เน่ ทีโอคุงนายรู้ตัวไหมเนี่ย…… ตอนนี้ฉันไม่อยากมีส่วนร่วมอะไรแล้วน้า เรื่องนี้พี่สาวขอไม่ยุ่งนะ.」
ลิซพูดอย่างช้าๆจากนั้นก็เดินเข้าไปในฝูงชน แน่นอนว่าผมไม่คิดจะลากเธอเข้ามาอยู่แล้ว
「เอ่อ ผู้คุมสอบถ้าผมจัดการหมอนี่ได้ก็ผ่านใช่ไหม?」
「นะนั่นก็ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของผมค้าบบบ」
ขาหน้าของมังกรกระแทกลงตรงหน้าผู้คุมสอบที่ลังเล แผ่นดินแตกร้าวพร้อมกับเสียงดังกึกก้อง
『อย่ามาขัดล่ะไม่งั้นข้าฆ่าแกแน่』
「ฮะฮี้~!!」
ผู้คุมสอบวิ่งหนีไปด้วยความตื่นตระหนก
ทำเรื่องน่าหนักใจจนได้ ไม่มีคนตัดสิน เอาเถอะไว้ค่อยไปแสดงให้ดูก็ได้ว่าจูเลี่ยนโดนตบหลับไปแล้ว
『แน่ใจนะว่าเอาจริง? ถ้าตอนนี้มันยังทันนะที่ให้ข้ากลับเป็นร่างมนุษย์』
「ไม่ต้องมาทำเป็นถามหรอกครับ เอาจริงๆกลัวผมงั้นเหรอ?」
เปลวไฟสว่างไสวในดวงตาสีเงินนั่นซึ่งมันไม่เปลี่ยนไปเลยแม้จะกลายเป็นมังกรแล้วก็ตาม ในขณะเดียวกันก็มีมวลความร้อนสูงก่อขึ้นในปากของเขาและปล่อยลมหายใจอันร้อนแรงออกมาด้วยพลังมหาศาล
ในแง่ของเวทย์แล้วเทียบเท่ากับระดับ 7 หรือมากกว่านั้น
ผมสร้างบาเรียขึ้นมาตรงหน้าด้วยมือขวา กำแพงสี่เหลี่ยมจัตุรัสสีเขียวมรกตปรากฏขึ้นตรงหน้าแล้วหยุดเปลวเพลิงได้อย่างง่ายดาย ไม่ว่าจะเป็นทั้งแรงลมทั้งอุณหภูมิก็ไม่มีทางเล็ดลอดเข้ามา
บาเรียเวทย์ที่ใช้โดยไม่ต้องร่าย ทำให้มังกรสีเงินนั้นจ้องมาทางนี้
หลังจากที่ยืนยันว่าไฟมันเบาลงแล้ว
『ก็มีดีเหมือนกันนี่หว่า? ถ้าเป็นบาเรียต่ำกว่าระดับสามมันคงพังไปแล้วนะ』
「ไม่เห็นจะต้องภูมิใจอะไรเลยนี่? ผมบอกแล้วนะว่าให้เอาจริงน่ะ.」
『ถ้าเจ้าตายก็ลำบากข้าสิ ถ้าข้าฆ่าเจ้าแล้วข้าคงโดนตัดสิทธิ์ ครั้งต่อไปเจ้าจะต้องโดนเผาแน่』
「ยิ่งแรงสิยิ่งดียังไงผมก็ไม่ตายอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องระวังตัวเลยด้วยซ้ำ」
『…… แล้วอย่ามาเสียใจก็แล้วกัน!! 』
แสงสีขาวพุ่งขึ้นจากกรามของมังกร มันมีพลังมากกว่าเปลวไฟก่อนหน้านี้มาก ในแง่ของเวทย์แล้วอยู่ระดับ 10
เผ่ามังกรมักจะชอบอยู่ในร่างของมนุษย์ มันยากนักที่จะวัดอายุจากรูปร่างแต่เขาบอกเป็นนัยว่าอายุราว 15
ถึงแม้จะเป็นเช่นนั้นพวกเขาก็เป็นมังกรที่ทรงพลัง ถึงแม้จะพึ่งอายุ 15 กลับมีพลังมากมายขนาดนี้ คุ้มค่าที่จะตบสักหน่อย
ลมหายใจที่เปล่งประกายถูกปล่อยออกมา ด้วยพลังระดับนี้คงเป็นเรื่องยากถ้าจะหยุดด้วยบาเรียโดยไม่ร่าย มันไม่พอที่จะตั้งรับแน่ๆ
「ーด้วยพลังแห่งข้า จงเดือดดาลไปกับความโกรธพร้อมกับแผดเผาพื้นดินนี่ 『เมจิก แอปโซปชั่น(โล่กลืนเวทย์)』」
ด้วยเสียงร่ายเบาๆพร้อมกับวงเวทย์สีดำปรากฏขึ้นตรงหน้าผมและลมหายใจทั้งหมดก็ถูกดูดกลืนเข้าไป อย่างไรก็ตามผลพวงของลมหายใจนั่นทำให้รอบข้างไหม้เกรียม
ผมกำลังจะวางบาเรียไว้ที่ด้านหลังเพื่อไม่ให้กระเด็นไปโดนคนรอบข้าง แต่ว่ามีวงเวทย์สีเขียวปรากฏขึ้นพร้อมกับกั้นลมหายใจเอาไว้ เจ้าของบาเรียนั่นคือลิซนั่นเอง แม้จะปั้นหน้ายุ่งยากแต่ก็ดูจริงจังใช่เล่น
ผมเองได้กลืนกินพลังเวทย์ส่วนใหญ่ของลมหายใจมังกรไปแล้ว แต่มันก็ยังทรงพลังพอเทียบกับเวทย์ระดับ 6 ดูเหมือนเธอจะทำได้ดีทีเดียวที่หยุดมันได้
เอาล่ะ เมื่อลองมาคิดดูแล้ว การสอบทั้งดาบและศิลปะป้องกันตัวและเวทมนตร์ ทำไมถึงไม่มีผู้กล้ามาหาผมเลยล่ะ? หรือเพียงเพราะว่าปีนี้มันผิดแปลกงั้นเหรอ
ขณะที่กำลังคิดเช่นนั้นเองวงเวทย์สีดำก็ดูดกลืนลมปราณสีขาวนั้นจนอ่อนลงและพลังมันก็ลดลงไปเรื่อยๆจนถึงจุดที่ว่าโดนดูดเข้าไปหมด
จูเลี่ยนมังกรหนุ่มถึงกับตกตะลึง
『…ไม่ใช่เพียงแค่หยุดมัน แต่ดูดพลังเวทย์ไปได้หมดเลยงั้นเรอะ…!?』
「ถึงแม้ว่าจะเห็นเป็นแบบนี้ก็เถอะนะครับ แต่ว่าผมนะเก่งเวทย์เอาเรื่องน่า」
แม้ว่าจะเป็นร่างกายนี้ แต่ถ้าเป็นเวทย์ระดับ 10 ผมก็สามารถใช้ได้ด้วยการร่าย และยังสามารถใช้ได้แบบต่อเนื่องด้วย
「ー–จงเปลี่ยนความเกรี้ยวกราดที่กลืนกินเข้าไปเป็นพลัง ลูกศรแห่งความพินาศー 『รีเวิสท์ บอร์มบาเม้นต์ (ระเบิดหวนคืน)』」
จากวงเวทย์ดำนั้นเวทย์ที่แข็งแกร่งกว่าลมปราณมังกรก่อนหน้านี้ถูกปล่อยออกมาและยิงไปออกไปด้วยแสงอันเจิดจรัส มันทะลุร่างของมังกรนั่นในทันที
เทคนิคก็คือการเสริมพลังเวทย์ที่กลืนกินเข้าไปและสะท้อนไปยังศัตรู พลังที่ถูกกลืนไปเมื่อกี้มีระดับ 10 ซึ่งเวทย์สะท้อนเองก็มีระดับพอๆกันกับลมหายใจนั่น ถ้าโดนเข้าไปแล้วตายนี่หงอยเลยนะ
『อั่กก!?』
ด้วยเสียงกรีดร้องสั้นๆร่างกายสีเงินของมังกรก็ปลิวหายไป
มังกรนั้นมีความสามารถในการต้านทานเวทย์สูง หากเวทย์ปัจจุบันที่ยิงไปแม้แต่ปีศาจที่ทรงพลังก็เดี้ยงได้ แต่ดูเหมือนว่าจะสบายดีนะหมอนั่น
เขาปลิวไปพร้อมกับควันแต่ว่าก็ไม่ได้ตาย ก่อนที่ผมจะรู้นั้นร่างกายของเขาก็กลายเป็นมนุษย์เหมือนเดิมแล้ว การสูญเสียพลังนั่นทำให้กลับเข้าร่างมนุษย์
ผมเข้าไปใกล้พร้อมกับพูดคุยกับเด็กหนุ่มที่ล้มลง
「ไม่เป็นไรนะครับ?」
「……..เวรเอ้ย……แกกก……อั่ก」
พยายามช่วยเขาให้ลุกขึ้น แต่ว่าดันผลักมือผมออกไปข้างๆ
และด้วยความเจ็บปวดนั่น เขาปล่อยวงเวทย์ออกมาตรงหน้า
เขาไม่คิดจะยอมแพ้สินะ มันทำให้ผมนึกถึงสาวน้อยโรกะคนเมื่อวาน ทำเอาผมยิ้มเลยทีเดียว
เวทย์ต่อไปประมาณระดับ 6 ถ้างั้นก็คงต้องตอบรับสักหน่อยแล้ว
ผมเองก็ปล่อยวงเวทย์ออกไปอย่างง่ายๆและช่วงเวลานั้นเองประกายไฟของแต่ละวงเวทย์ก็ปรากฏขึ้นมาและเข้าประทะกั ――。
「พอแค่นั้นแหละ!」
ด้วยเสียงนั้นเวทย์ของผมและจูเลี่ยนก็พังทลายลง
เวทย์แทรกแซงงั้นเหรอ
ผมตัดสินใจอย่างรวดเร็วพร้อมกับมองไปที่เจ้าของเสียงและมีเอลฟ์ชายคนหนึ่งเดินฝ่าฝูงชนเข้ามา
ตัวค่อนข้างสูงพร้อมกับผมสีม่วงแต่งชุดทหารของอัลเบเรียและสวมเสื้อคลุมทับไว้
ดูเหมือนว่าเขาจะอายุมากกว่า 20 ปี หน้าตาหล่อเหลาสมกับเป็นเอลฟ์
「พวกนายทั้งสองคนนั้นน่าทึ่งมาก ไม่สิ ปีนี้มันมีแต่เรื่องดีๆเข้ามาทั้งนั้นเลย」
เขาปรบมือพร้อมกับเผยรอยยิ้มอันสง่างาม
แม้ว่าจะเป็นเวทย์ระดับหก แต่มันก็เป็นเรื่องผิดปกติสำหรับคนธรรมดาที่จะทำลายเวทย์ที่ถูกสร้างขึ้นมาแล้วสองอันได้ทันที
นอกจากนี้การตัดสินจากลักษณะคำพูดของเขาแล้ว ー.
「ขอโทษที ลืมแนะนำตัวสินะครับ ผมมีชื่อว่า ลูดิโอ้ แลมเบิร์ต เป็นผู้อำนวยการของโรงเรียนฝึกทหารที่รายงานโดยตรงต่อจักรวรรดิอัลเบเรียในมิลเดียน่า 」
แม้ว่าเขาจะมีสีหน้าที่ดูสุภาพและอ่อนโยน แต่ผมก็เข้าใจได้ว่าเขาไม่ได้ลดการป้องกันตัวลงเลย
ถึงแม้ว่าพวกเราจะพยายามสร้างเวทย์ที่แกร่งกว่านี้ทั้งสองคน ผมก็คิดว่าเขาน่าจะหยุดมันได้
「……เป็นผู้อำนวยการก็อย่ามาแทรกแซงการสอบสิฟะ…..」
จูเลี่ยนบ่นอุบพร้อมกับร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด เขายังไม่ยอมแพ้ เทียบเท่ากับโรกะเลยนะเนี่ย อาจจะเก่งกว่าก็ได้
「ผมตัดสินใจแล้วว่าสู้ต่อไปก็ไร้ค่า และเหนือสิ่งใดนั้นผู้เข้าสอบคนอื่นกลัวกันหัวหดหมดแล้วนะครับ ถึงเวลาที่จะยอมแพ้ได้แล้ว 」
「หุบปากไปเลยน่า ข้ายังสู้ไหว จะเอาชนะให้ดู」
「ผมเกรงว่ามันคงจะเป็นไปไม่ได้ครับ คุณบอกว่าคุณชื่อจูเลี่ยนสินะ ตอนนี้คุณเอาชนะเขาไม่ได้หรอกครับ ทีโอดอร์ นายคิดว่ายังไงล่ะ? 」
ในแวบแรกลูดิโอ้ดูสงบเสงี่ยมพร้อมกับเอามือจับคาง แต่ดูเหมือนว่าเขาจะพบกับของเล่นที่น่าสนใจตรงหน้า บางทีอาจจะเป็นพวกประเภทเดียวกับผมก็ได้
「ถ้าท่านผู้อำนวยการไม่หยุดผมเองก็คงสู้จนถึงที่สุดครับ ผมจะจัดการเขาจนกว่าเขาหมดสติไปนั่นแหละครับ」
「อืม อืม ดูเหมือนว่านายจะรู้ตัวเองดีสินะว่าไม่แพ้แน่ๆอยู่แล้ว ผมไม่เคยคิดเลยนะว่าจะมีคนกล้าหือกับมังกรเช่นนี้ ผมไม่มีอะไรจะพูดเลยนอกจากนายน่ะห่างไกลความเป็นมนุษย์เลยนะ.」
…… แย่แล้ว นี่ผมทำเกินไปงั้นเหรอเนี่ย? ไม่สิ ไม่ว่าคิดยังไงมันก็ไม่เหมือนว่าทำเกินเหตุสักหน่อย
ผมก็ต่อสู้กับศัตรูอย่างเต็มความสามารถแล้วนี่ ร่างกายเองก็เป็นมนุษย์ แต่ว่านั่นก็เป็นความคิดของผมที่เป็นปีศาจอะนะ
อืม เดาว่าคงเป็นแบบนั้น ดังที่เอลฟ์คนนั้นกล่าวไว้ไม่มีใครกล้าจะไปเผชิญหน้ากับมังกร เพราะปกติแล้วมังกรนั้นไม่สามารถเอามาเทียบได้กับทหารธรรมดาทั่วไปหรอก
ผู้อำนวยการคาดไว้แล้วเหรอว่าจะมีเรื่องเช่นนี้เกิดขึ้น หากลองคิดดูดีๆแล้วมิลเดียน่าเป็นเมืองที่มีจอมเวทย์จำนวนมากรวมตัวกันและจำนวนนักเรียนเข้าสอบก็มีมาก ไม่มีทางที่ผู้อำนวยการและคนอื่นๆจะไม่ดูการสอบ
「เพราะฉะนั้นนี่ก็รู้ผลแล้ว ผู้ชนะได้แก่ทีโอดอร์」
「อย่ามาล้อเล่นนะโว้ย!! ใครแ……อั่ก!?」
ร่างกายของจูเลี่ยนกระแทกลงกับพื้นขณะที่พยายามจะลุกขึ้น
เขาถูกบังคับให้ลงไปนอนด้วยพลังเวทย์อันแข็งแกร่งที่ถูกใช้เมื่อกี้ แต่ยังไงเขาก็ยังเป็นเผ่ามังกร
「นี่เองก็เป็นสิ่งสำคัญแต่ในฐานะทหาร แต่ยังรวมถึงเผ่ามังกรเองก็ด้วย หัดรู้จักความแตกต่างทางด้านความสามารถซะบ้าง หากคิดจะสู้ต่อไปก็ไม่ต้องสอบผ่านแล้วละนะ 」
เขาพูดอย่างใจเย็นแต่ห่างไกลจากความอ่อนโยน
จูเลี่ยนเลิกขัดขืนอีกต่อไป แต่นอนอยู่นิ่งๆ เมื่อเผชิญหน้ากับพลังที่ท่วมท้นแม้แต่มังกรก็ยังสยบ
เยี่ยมมากเลยหมอนี่ บางทีอาจจะเทียบกับปีศาจในเทเลเบลย์เลยนะ?
「 แน่นอนว่าพวกเราเสียใจที่สนามสอบถูกทำลายแบบนี้ แต่ว่ามันก็อยู่ในการประเมิน ยังไงผมก็คิดจะต้อนรับเข้ามาในฐานะนักเรียนทุนอยู่แล้ว ดังนั้นช่วยใจเย็นหน่อยนะ?」
เด็กหนุ่มเผ่ามังกรเดินโซเซและจ้องมาที่ลูดิโอ้ด้วยสายตาเลื่อนลอย ดูเหมือนจะไม่พูดอะไร แต่ในที่สุดเขาก็เข้าใจแล้ว….ว่าสู้ไม่ไหว
「……หึ…… เข้าใจแล้ว」
「เอาล่ะแน่นอนทีโอดอร์นายเองที่ล้มจูเลี่ยนได้….ก็จะได้เป็นนักเรียนทุนเช่นกัน นอกจากนี้ยังเป็นคนที่ได้คะแนนสูงสุดในการสอบวิชาดาบและศิลปะป้องกันตัวเมื่อวานนี้ด้วย เท่าที่จำได้…..อืมผู้กล้าในตำนานที่สร้างสถิติเมื่อ 500 ปีก่อน ผู้หญิงที่ชื่อว่าเรนะดูเหมือนจะเป็นคนแรกและคนสุดท้ายที่ทำแบบนี้ได้.」
อ่าา เรนะเองเหรอที่เป็นคนสร้างสถิติไว้ เยี่ยมไปเลยนะ ไว้จะให้รางวัลที่หลัง
「นายอาจจะมีพลังของผู้กล้า ได้โปรดเข้าเรียนที่โรงเรียนเราด้วย ทีโอดอร์」
「อะ-เอ่อ ครับ ถ้าเช่นนั้นก็ขอรับขอเสนอครับ อาจารย์…แต่ว่ามันไม่เกินไปหน่อยเหรอครับการที่จะได้เป็นนักเรียนทุนนอกจากจะได้คะแนนท็อปทั้งการสอบสามประเภท? 」
ยังไงก็เถอะมันก็สนุกดี
「เอ่อ……กฏแบบนั้นไม่เคยมีสักหน่อยครับ โรงเรียนอื่นก็ไม่มีครับ…… 」
เอ๋?
「ไม่นะครับ แต่ว่าพนักงานต้อนรับที่เป็นเอลฟ์บอกผมแบบนั้นจริงๆ.」
「ฟุมุ? ไว้ตรวจสอบที่หลังนะ นอกจากนั้นทีโอดอร์ เราจะพูดถึงการปฐมนิเทศและเรื่องอื่นๆในภายหลังดังนั้นกลับบ้านไปก่อนนะ จูเลี่ยนนายเองก็…..เอิ่ม หมดสติไปแล้วเหรอเนี่ย 」
ผมมองไปยังจูเลี่ยนที่ลงไปนอนอยู่กับพื้นแน่นิ่ง สงสัยจะหมดแรง
「การมาหลับไปทั้งๆที่ทุ่มสุดแรงแบบนี้เนี่ย ก็เป็นเรื่องที่ดี ผู้คุมสอบที่ทำได้แต่มองเหตุการณ์แล้วก็ค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมนี่มัน เจ็บเอาเรื่องเลยแหะ.」
ขณะพูดเช่นนั้น ลูดิโอ้เองก็เผยรอยยิ้มตลกๆออกมาบนใบหน้า
「ร้อยโทแลมเบิร์ต! ทางนี้ครับ! มีหลายคนทีเป็นลมจากการต่อสู้ก่อนหน้านี้ครับ!」
(TN:ผมแปลยศผิดแหะคราวที่แล้ว ชื่อยศเป็นLieutenant เฉยๆ)
「อืม เข้าใจแล้ว」
เอาล่ะเท่านี้การสอบก็จบลงแล้ว
ง่ายดายแต่ว่าก็น่าสนใจ แทบจะรอคอยอนาคตไม่ไหวแล้ว
เมื่อนึกถึงเช่นนั้นผมเองก็ออกจากสถานการณ์ที่มันวุ่นวายนี่ฟ