[นิยายแปล]กาวฮีล - ตอนที่ 56
Ch.56 – การปราบนกฟีนิกซ์
Provider : เมื่อไรBlemishineจะมาหาเค้า
Chapter 10 : การปราบนกฟีนิกซ์
—มุมมองราอุส—
สองสามวันก่อนการปราบปรามนกฟีนิกซ์พวกเราได้ไปเตรียมตัวซื้อของสำหรับการจัดการกับมัน
ผมเองก็ต้องสร้างอุปกรณ์เวทย์ในการต่อสู้กับนกฟีนิกซ์ ซึ่งใช้เวลานานกว่าที่คิด
แต่อย่างนั้นก็สามารถเตรียมการเสร็จในหนึ่งวันก่อนเข้าไปสู้กับนกฟีนิกซ์ ตอนนี้ก็พอจะมีเวลาเหลือเฟือ
「นายมาเช้ากว่าที่คิดนะเนี่ย」
「………หือ?」
แต่เมื่อเรามาถึงสถานที่นัดพบก็เจอกับปาร์ตี้ของซีคอยู่ก่อนหน้าแล้ว
ไม่เพียงแค่นั้น นอกจากนั้นเขายังถือเควสปราบนกฟีนิกซ์มาด้วย
เช่นเดียวกับพวกเราปาร์ตี้ของซีคก็เตรียมตัวมาดีเหมือนกัน
แม้ว่าพวกเขาจะมีดูอายุพอๆกับเรา แต่สิ่งที่ต่างกันของพวกเราคือประสบการณ์
ขณะที่คิดเช่นนั้นเองผมก็เริ่มพูดขึ้น
「ขอโทษนะครับที่ผมมาสาย …」
「น่า อย่ากังวลไปเลยพวกเราแค่มาเช้าเท่านั้นเอง.」
ไลลาซังตอบผมเช่นนั้นด้วยรอยยิ้มราวกับจะบอกว่าอย่ากังวลไป
…แต่ในขณะที่เธอมองมาที่ผมเธอก็สังเกตเห็นถึงสัมภาระข้างหลังผม และมองมาด้วยความสับสน
「…ถึงแม้จะรู้อยู่แล้วก็เถอะ แต่นายวางแผนจะสู้กับมันจริงๆนะเหรอ?」
ไลลาซังถามผมพร้อมกับยิ้มแหยๆ
ด้านหลังของผมมีดาบใหญ่
มันไม่ได้ถึงขั้นของดาบเวทย์แบบซีค แต่ดาบนี่ก็มีน้ำหนักและขนาดใหญ่พอสมควร สำหรับคนที่ใช้อาวุธสั้นมาตลอดอย่างผม เปลี่ยนมาใช้ดาบใหญ่จะโดนสงสัยก็ไม่แปลก
「ไม่ต้องกังวลไปหรอกครับ ถึงแม้จะไม่เหมือนกับมีดสั้น แต่ผมก็ใช้มันได้.」
ไลลาซังไม่จำเป็นต้องกังวลเช่นนั้น
ถ้ามันเป็นแค่ดาบใหญ่เฉยๆยังไงผมก็ใช้ได้
……เพราะนี่เองก็ได้รับการฝึกฝนจากอาจารย์โรนัลโด้
「แต่…」
อย่างไรก็ตามสำหรับไลลาซังที่ไม่เคยฝึกกับอาจารย์โรนัลโด้ ถึงจะได้ยินผมพูดเช่นนั้นแต่ก็ยังไม่สบายใจอยู่ดี
「……ไลลา ชั้นคิดว่ามันจะดีกว่านะถ้าเชื่อในสิ่งที่ราอุสพูด」
「……ฉันเองก็ไม่เคยเห็นพี่ชายใช้ดาบใหญ่ขนาดนี้มาก่อนเช่นกัน แต่ฉันไม่กังวลหรอกค่ะ แม้จะเป็นฉันเองก็ใช้ได้เหมือนกัน」
「ใช่แล้ว……เพราะการฝึกของอาจารย์โรนัลโด้เลย……」
เมื่อเห็นไลลาซังที่ยังไม่มั่นใจ เหล่าลูกศิษย์ของโรนัลโด้ อย่างนาร์เซน่าและซีคเองก็พูดด้วยรอยยิ้มแหยๆเช่นกัน
ต้องขอบคุณพวกเขาที่ทำให้ไลลาซังเริ่มมีความมั่นใจ
……ด้วยเหตุผลบางอย่างใบหน้าผมก็ตะหงิดหน่อยๆ
「ถ้างั้นก็ไปกันเถอะ.」
บรรยากาศอันอ่อนโยนที่เรามีระหว่างบทสนทนาของพวกเราแยกย้ายกันไปทันทีหลังจากที่ซีคพูดเช่นนั้น
เมื่อถึงเวลาพวกเราเริ่มออกเดินทาง บรรยากาศอันอ่อนโยนแบบเมื่อกี้นี้ก็หายไป
ต้องขอบคุณการสนทนานั่นจนถึงตอนนี้ไม่มีความเครียดใดๆเลย
…อย่างไรก็ตามแม้จะในสถานการณ์นี้เรารู้ดีว่าการปราบนกฟีนิกซ์มันสำคัญแค่ไหน
พวกเราสามารถหนีออกมาได้แม้จะทำเควสล้มเหลวก็ตาม
แต่นั่นมันก็ในกรณีที่นกฟีนิกซ์มันกลายพันธุ์
พวกเราจะไม่ยอมให้เกิดเช่นนั้น
นั่นคือเหตุผลที่พวกเราวางแผนมาจนถึงตอนนี้
ผมก้าวเข้าไปในเขาวงกตด้วยความมั่นใจ……
◇ ◆ ◇
「ราาา──ว๊ากกก!」
เจ้านกฟีนิกซ์ปรากฏตัวขึ้นในชั้นเดียวกันกับที่ข้อมูลกิลด์ระบุไว้ ซึ่งมันอยู่ใกล้กับจุดเทเลพอร์ตอย่างมาก
「คิย๊าาาา!」
ร่างกายที่ปกคลุมไปด้วยเปลวเพลิงที่เผาไหม้ นี่เป็นครั้งแรกที่นาร์เซนาและผมเจอกับนกฟีนิกซ์ พวกเราถึงกับอ้าปากค้าง
นี่เป็นครั้งที่สองที่ปาร์ตี้ของซีคเผชิญหน้ากับนกฟีนิกซ์ พวกเขาเห็นเราตัวสั่นเล็กน้อย
แต่นกฟีนิกซ์นั้นมันท่าทางตรงกันข้ามกับเราเลย
「ราาาาาาาาา────────วากกกกกกกก!」
「อะไรกัน-!」
ณ เวลานั้นเองราวกับมันจำซีคได้มันยิงลูกไฟขนาดใหญ่พร้อมกับตะโกนก้อง
โดยธรรมชาติแล้วฟีนิกซ์จะไม่เริ่มโจมตีก่อน แต่มันจะวัดระดับภัยคุกคามของฝ่ายตรงข้ามก่อนเสมอโดยพิจารณาจากพลังเวทย์และ คิ ที่พวกเขามี
เพราะว่านั่นเป็นเรื่องปกติที่เรารู้ นั่นเลยทำให้เราตกใจเป็นอย่างมาก
「อืมมมม ช่างเป็นการต้อนรับที่เร้าร้อนดีนะ เครื่องติดละเหวย」
ยกเว้นซีค
ซีคยืนอยู่ตรงนั้นแม้จะมีลูกไฟขนาดใหญ่มากจนสามารถกลืนกินทั้งร่างเขาได้เลย แต่เขาก็เหวี่ยงดาบปัดลูกไฟที่เข้ามาอย่างใจเย็น
การเคลื่อนไหวอันเป็นธรรมชาติ เหมือนกับรู้อยู่แล้วว่ามันจะโจมตีมา
「กา──────กร๊ากกกกก!」
ต่อมานั้นเปลวไฟที่กระจัดกระจายไปเพราะดาบเวทย์ของซีคทำให้นกฟีนิกซ์ME่ร้องด้วยความรำคาญ
「ฮ่าาาาาาห์-」
เพื่อตอบสนองต่อเสียงคำรามนั่น ซีคเองก็ยิ้มเยาะเย้ยให้กับนกฟีนิกซ์
「ดูเหมือนว่าแกจะจับที่เจอกันคราวก่อนได้สินะ น่าภูมิใจดีจริงๆที่แกยังไม่ลืมชั้น เอาล่ะ เข้ามาเลยสิฟะ」
จากนั้นเมื่อได้ยินคำพูดยั่วยุของซีคเอง ผมก็มองมาที่ตัวเอง
ในสถานการณ์ที่ไม่คาดคิดนี้นกฟีนิกซ์จ้องซีคเป็นเป้าหมาย ผมเกือบจะพยายามเข้าไปซัพพอร์ตเขา
แต่ว่านั่นไม่ใช่หน้าที่ของผม
แน่นอนตอนนี้สถานการณ์มันไม่ใช่อย่างที่คิด
แต่ตามสถานการณ์ปัจจุบันยังห่างไกลจากคำว่าล้มเหลว
ในทางกลับกัน ไม่ใช่เรื่องแปลกที่เจ้านกฟีนิกซ์จะพุ่งเป้าไปยังซีคแต่เพียงผู้เดียว สถานการณ์นี้เองเรียกได้ว่าดีเกินคาดเลยก็ว่าได้
ถ้าเป็นเช่นนั้นผมก็เริ่มต้องดำเนินการตามแผน
「นาร์เซน่า!」
「ค่ะ!」
ต่อมานั้นเองนาร์เซน่าและผมก็พุ่งเข้าไปหานกฟีนิกซ์ตามแผน
ในมือของนาร์เซน่านั้นมีถุงมือต้านไฟอยู่และผมที่ถือดาบใหญ่เข้าไปประชิดตัว
「กร๊า──กกกกกกกกก!」
อาจเป็นเพราะมัวแต่จดจ่ออยู่กับซีคจนเกินไป ทำให้มันตอบสนองต่อเราช้าเกินไป
ถึงอย่างนั้นก็ใช่ว่าจะช้ามาก
แต่สำหรับผมและนาร์เซน่าแล้ว ผมรู้ดีว่าพวกเราสามารถโจมตีเจ้านกฟีนิกซ์ได้ในจังหวะนี้
นกฟีนิกซ์ดูเหมือนจะตระหนักได้ในสิ่งที่พวกผมคิด มันลังเลก่อนที่จะเริ่มเคลื่อนไหว
แต่ว่าในตอนนั้นเอง ผมกับนาร์เซน่าก็เข้าไปใกล้มันได้แล้ว
「ว๊า─กกกกกก!」
หลังจากมองไปที่ระยะแล้ว นกฟีนิกซ์ก็ตัดสินใจโจมตี ดูเหมือนว่ามันจะรู้ตัวแล้วว่าคงหลบการโจมตีไม่พ้น
เมื่อมันตัดสินใจได้เช่นนั้น แต่ว่าการโจมตีก็ไม่โดนพวกเราทั้งคู่แน่นอน มันต้องเล็งคนใดคนหนึ่ง
「ราาาา───────ลลลลลล!」
「อึก! พี่ชายค่ะ จังหวะนี้แหละ!」
จากนั้นเองเจ้านกฟีนิกซ์ก็ตัดสินใจโจมตีนาร์เซน่า
นาร์เซน่าหลบบอลเพลิงโดยการถอยห่างออกไปพร้อมกับส่งเสียงบอกทางนี้
ด้วยเหตุนี้เองหากนาร์เซน่าจะเข้ามาโจมตีอีกครั้งก็ต้องย่นระยะเข้ามาอีกรอบ
「ฮะ ฮ่ะ ฮ่าาา~」
แม้ว่าเธอจะพลาดไป แต่ผมก็ยังคงหัวเราะออกมาขณะที่โจมตีมัน
เหตุผลมันก็เป็นเรื่องง่ายๆ
เป็นเพราะว่าไม่ว่านาร์เซน่าจะโจมตีนกฟีนิกซ์ได้ไหมมันไม่สำคัญเลย
———สุดท้ายแล้วนาร์เซน่าเป็นเพียงนกต่อที่เอาไว้ให้ผมโจมตีเพียงเท่านั้น
เหตุผลที่โจมตีนกฟีนิกซ์ในตอนนี้ไม่ใช่การสร้างความเสียหาย
เราพยายามโจมตีด้วยพลังทั้งหมดของเราเพื่อปลดเกราะเพลิงออก กล่าวคือไม่คิดจะทำดาเมจนั่นเองแต่เพียงเพื่อยื้อเวลา
ถ้างั้นผมจะโจมตีนกฟีนิกซ์ไปทำไหมนะเหรอ?เพื่อเป็นการดึงความสนใจมาที่ผมยังไงล่ะ
ตอนนี้นกฟีนิกซ์ไม่ได้ระแวงผมเลยแม้แต่น้อย
หลักฐานก็คือเจ้านกฟีนิกซ์มันเล็งนาร์เซน่าแทนที่จะเป็นผมยังไงล่ะ
นั่นเป็นเรื่องปกติของนกฟีนิกซ์ที่ตัดสินผู้คนจากพลังเวทย์ในร่างและคิที่ผู้อื่นมีในครอบครอง
จริงๆแล้วพลังเวทย์และคิของผมเองก็น้อยที่สุดในปาร์ตี้นี่ล่ะ
แม้ว่าจะใช้เวทย์พื้นฐานและเสริมกำลังกายได้ แต่พลังเวทย์และคิที่ผมมีก็ไม่ได้น้อยขนาดนั้น
มันเป็นเพราะว่าที่นี่มีแต่คนไม่ธรรมดาต่างหากผมเลยดูต่ำกว่าพวกนั้นเป็นไหนๆ
นั่นคือเหตุผลว่าเจ้านกฟีนิกซ์นี่มันคิดว่าผมเป็นปลาตัวกระจ้อย
「ราาาาาาาาาาาาาาล──ฟฟฟฟฟ」
……ผมเข้าใจได้เลยจากการที่มันมองมาทางนี้
แม้ว่าใก้ลจะถูกผมโจมตีแล้ว แต่การจ้องมองนั้นราวกับจะเยาะเย้ยผมก็ไม่ปราน
———และจุดมุ่งหมายของผมนั้นก็คือทำให้มันได้รู้ซึ้ง
ณ ตอนนี้ ผมต้องให้นกฟีนิกซ์นั่นมันมาสนใจผมให้ได้ เพื่อยื้อเวลาไว้ให้อาร์เมียได้ใช้เวทย์ของเธอ
แต่ตอนนี้มันยังคงดูถูกผมอย่างเห็นได้ชัด ไม่คิดว่าผมจะเป็นศัตรูมันด้วยซ้ำ
นั่นคือเหตุผลที่ผมจะฟาดมันเข้าไปด้วยแรงทั้งหมดที่มีเพื่อเบนความสนใจ
ว่าผมน่ะเป็นตัวตนอันตรายสำหรับมัน
เพื่อให้มั่นใจว่ามันจะไม่เมินผม
บทบาทของนาร์เซน่าก็คือดึงดูดความสนใจเพื่อให้ผมมีโอกาสได้โจมตี
แต่สำหรับนกฟีนิกซ์แล้วมันไม่มีความเข้าใจกับแผนการของเราหรอก แม้จะโดนผมโจมตีอยู่แล้วมันก็ไม่ได้สนใจ
มันคิดว่าการโจมตีของนาร์เซน่าคือของจริงและคิดว่าผมนั้นเป็นตัวล่อ แต่ตรงกันข้ามเลยทางนี้ต่างหากที่ของจริง
「ราาาาาาาา───กาาาาาาา !?」
จากนั้นเมื่อผมเข้าไปถึงในระยะนั้นเองผมยกดาบใหญ่ขึ้น ทันใดนั้นเองมันก็เข้าใจได้แล้วว่าผมเป็นภัยคุกคามต่อมัน
มันตระหนักได้ถึงความผิดพลาดที่ปล่อยให้ผมมาถึงจุดนี้ได้ ผมใช้เวทย์เสริมพลังกายให้กับตัวเองและนั่นก็เป็นช่วงเวลาที่นกฟีนิกซ์มันเริ่มสนใจผม
มันพยายามจะหลบการโจมตีของผม แต่ทว่ามันสายไปแล้ว
「ฮะย๊ากกกกกกกกกกกกห์!」
「กาาาาาาาาาาาาาาาาาร๊ากก !?」
ต่อมานั่นเองดาบใหญ่ที่เหวี่ยงลงมาด้วยแรงทั้งหมดนั่นก็ทะลุผ่านเกราะเพลิงอย่างง่ายดายและสร้างบาดแผลขนาดใหญ่ให้กับเจ้านกฟีนิกซ์
เสียงกรีดร้องนั่นดังลั่นพอที่จะทำให้แก้วหูฉีกขาดได้ นั่นหมายความว่าการโจมตีของผมได้ผลกับมันอย่างรุนแรง
「อึก!」
…แต่ถึงอย่างนั้นผมก็ไม่รู้สึกเลยว่าควรดีใจแม้แต่น้อย ที่สร้างความเสียหายให้มันได้
「ราาาาาาา──อาาาาาาาาาา」
เสียงคำรามของมันเต็มไปด้วยความกระหายเลือด
นี่ก็หมายความว่ามันเริ่มโกรธแล้วนั่นเอง
「ขั้นแรกก็ผ่านไปด้วยดีสินะ」
ในขณะที่โดนหมายหัวอยู่นั่นเอง ผมก็ยิ้มแหยๆ
ก่อนที่ความเกลียดชังของมันจะทำให้ขนของผมลุกซู่ผมบอกตัวเองว่าทำแบบนี้ล่ะดีแล้ว
「เอาล่ะ เข้ามาเลยไอ้นกย่าง」
「ราาาาาาาาาาาาา───────อาาาาากกกกกก!」
จากนั้นก็ราวกับว่าเวลาได้ถูกหยุดไปสักพักหนึ่ง