[นิยายแปล]กาวฮีล - ตอนที่ 55
Ch.55 – มุ่งหน้าสู่การปราบปราม
Provider : ราอุสนักหลีสาว
Chapter 9 :มุ่งหน้าสู่การปราบปราม
—มุมมองราอุส—
「………ไม่อยากจะเชื่อเลยนะดูเหมือนว่ามันจะง่ายในการปราบมัน」
ท้องฟ้าถูกย้อมเป็นสีม่วงแดงเมื่อเรากำลังกลับบ้าน
ผมกำลังพูดคุยกับนาร์เซน่าด้วยความตื่นเต้นเล็กน้อย
「ค่ะ อย่างที่คิดจริงๆสมแล้วที่เป็นปาร์ตี้ของตัวแทนกิลด์」
นาร์เซน่าที่ตื่นเต้นก็เห็นด้วยกับผม
ผู้คนรอบข้างต่างมองเราด้วยสายตาแปลกๆ แต่ผมรู้ว่าผมทำอะไรไม่ได้ที่เห็นนาร์เซน่าเป็นแบบนั้น
เกี่ยวกับการประชุมนั่นแผนของเราคือให้ผมดึงดูดความสนใจของฟีนิกซ์จนกว่าอาร์เมียจะปลดเกราะของฟีนิกซ์ได้
ถ้าผมสามารถดึงดูดความสนใจได้นกฟีนิกซ์ก็จะไม่โจมตีอาร์เมีย
แน่นอนว่าผมไม่ว่าผมจะดึงดูดความสนใจมันมากแค่ไหนก็ไม่สามารถกันลูกไฟที่หลงไปทางเธอได้
ซีคบอกว่าจะตบลูกไฟนั่นด้วยดาบเวทย์ของเขาเอง
แล้วก็ในกรณีฉุกเฉินนาร์เซน่าจะใช้โล่เวทย์ของเธอที่ใช้สำหรับต่อสู้กับนกฟีนิกซ์โดยเฉพาะ
ด้วยสิ่งนี้แม้ว่าสิ่งที่ไม่คาดคิดจะเกิดขึ้นระหว่างการต่อสู้กับนกฟีนิกซ์เราก็ยังสามารถผ่านไปได้อยู่
เนื่องจากได้ข้อสรุปแล้วนาร์เซน่าและผมก็ไม่สามารถซ่อนความตื่นเต้นเอาไว้ได้
ผมเชื่อว่าแม้จะเป็นเพียงเราสองคน แต่การปราบนกฟีนิกซ์เองก็ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้
อย่างไรก็ตามผมไม่สามารถปฏิเสธได้ว่านั่นเป็นการพนัน
เมื่อสถานการณ์ของเราดีขึ้นอย่างก้าวกระโดดเมื่อเทียบกับตอนที่มี แค่สองเรานั้นมันเป็นธรรมดาที่จะตื่นเต้น
「แต่ถึงยังงั้น ก็ห้ามเสียสมาธิเด็ดขาด.」
แม้สถานการณ์จะดีขึ้น แต่เอาชัวร์ไว้ก่อนมันก็ไม่เสียหาย
ผมนึกถึงตอนที่ปราบไฮดร้า แม้ว่าจะชนะมาในท้ายที่สุดแต่อย่างน้อยก็ใช้เวลาไป 3 ชั่วโมงเลยทีเดียว แถมยังจบด้วยซาร์เวเรียติดพิษอีก
เอาตามตรง มอนสเตอร์ที่ความยากระดับสูงลิ่วขนาดนี้เสียสมาธิก็ไม่ใช่เรื่องที่ดีเท่าไร
แม้ในสถานการณ์ใกล้ตายของพวกมัน มันก็อาจจะมีเหตุการณ์ทำให้สถานการณ์พลิกผันได้
สิ่งที่เราทำได้เพื่อป้องกันสถานการณ์ดังกล่าวคือการเตรียมตัวให้พร้อม
「ถ้างั้นไปซื้อของกันเถอะ.」
「การปราบฟีนิกซ์อยู่ห่างออกไปไม่กี่วันดังนั้นก็ควรจะเตรียมตัวไปให้พร้อมสินะคะ?」
ขณะที่คิดอย่างนั้นผมก็ก้าวไปยังเมืองพร้อมกับคุยกับนาร์เซน่า
ต่อจากนี้ผมคิดว่าจะซื้อของที่จำเป็นสำหรับการกำจัดนกฟีนิกซ์
「รอประเดี๋ยวก่อนค่า!」
「………หืออออ?」
ทันใดนั้นเสียงที่บอกให้เราหยุดนั้นก็ดังก้อง
เมื่อผมมองย้อนกลับไปก็เจอฮีลเลอร์สาวคนหนึ่งจากปาร์ตี้ของซีคชื่อไลลา
เมื่อเธอมาถึงต่อหน้าเราก็หอบหายใจอย่างหนัก
ผมไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเธอแต่ชักจะกังวลหน่อยๆแล้ว
「นี่มันอาจจะช้าไปหน่อยก็จริงนะ แต่ว่าขอบคุณนะคะที่ช่วยอาร์เมียให้กลับมายืนหยัดได้อีกครั้ง」
แต่ในเวลาต่อมาเมื่อเห็นไลลาซังกำลังก้มหน้าด้วยความหนักแน่นผมเข้าใจทันทีเลยว่ากังวลไปทำไมกันเนี่ย
เธอรีบรุดมาที่นี่ไม่ใช่เพราะมีเหตุอะไรแต่เพียงต้องการขอบคุณเท่านั้น
หลังจากเห็นเช่นนั้นแก้มผมก็ผ่อนคลายลง เมื่อตอนผมเห็นหน้าไลลาซังตอนแรกใบหน้าผมแข็งทื่อไปเลย เพราะความแข็งแกร่งของเธอนั่นเอง
ดูเหมือนว่าคราวนี้เองอาร์เมียก็ได้ปาร์ตี้ที่ดีต่อตัวเธอเองเช่นกัน
「เขาไม่สามารถพูดต่อหน้าอาร์เมียได้ แต่ซีคเองก็รู้สึกขอบคุณทั้งคู่จริงๆ ขอบคุณมากจริงๆนะ」
แต่เมื่อผมสังเกตเห็นความเข้าใจผิดของเธอ ผมก็แสดงท่าทีอึดอัดออกมา
ดูเหมือนว่าไลลาซังคิดว่าผมเป็นคนโน้มน้าวอาร์เมีย
เพื่อแก้ไขความเข้าใจผิดผมเริ่มพูดพร้อมกับยิ้มแหยๆ
「ผมไม่ได้ทำอะไรเลยครับ」
「ไม่ ไม่ใช่แบบนั้นหรอก.」
「……หือ?」
「ขอบคุณที่ให้โอกาสอาร์เมียได้กลับตัวอีกครั้ง.」
………อย่างไรก็ตามหลังจากฟังสิ่งที่เธอพูดต่อไป ผมก็รู้ว่าแท้จริงแล้วผมเป็นคนเข้าใจผิด
บางทีเธออาจจะเคยบอกล่วงหน้า แต่ดูเหมือนว่าเธอจะรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นระหว่างอาร์เมียและนาร์เซน่า
ยิ่งไปกว่านั้นเธอยิ้มมาทางนี้ราวกับจะขอบคุณผม
ผมเข้าใจได้แล้วจากท่าทางของไลลาซัง แต่ผมไม่สามารถซ่อนความสับสนของตัวเองได้
พูดจริงๆผมไม่ได้จะโทษอะไรอาร์เมียเลย
นั่นคือเหตุผลที่ผมพยายามบอกไลลาซังว่าไม่จำเป็นต้องขอบคุณ
「ฉันต้องขอโทษด้วยจริงๆสำหรับสิ่งที่อาร์เมียทำไว้ บางทีบางครั้งคุณเองก็คงจะเจ็บปวดจากการกระทำของอาร์เมียที่เมินต่อคุณเช่นกัน แต่นั่นไม่ได้ทำให้ความจริงที่ว่าอาร์เมียเคยทำร้ายความรู้สึกคุณนั้นหายไปเลย」
แต่ก่อนที่ผมจะได้พูดอะไรไลลาซังก็ก้มหัวให้ผม
「บาปนั้นจะไม่ได้รับการชดใช้จากอาร์เมียเพียงคนเดียว แต่ยังรวมถึงพวกนั้นที่เป็นสมาชิกปาร์ตี้ของเธอด้วย เป็นหน้าที่ที่เธอจะต้องทำให้สำเร็จและเนื่องจากดิฉันเป็นคนให้เธอเข้าปาร์ตี้ของเรามาเองก็มีส่วนที่ต้องรับผิดชอบเช่นกันค่ะ」
หลังจากฟังไลลาซังผมก็รู้เหตุผลที่อาร์เมียเปลี่ยนไป
การได้พบกับไลลาซังคือสิ่งที่ทำให้อาร์เมียเปลี่ยนไป
「และเป็นหน้าที่ๆเราทำร่วมกันก็ต้องมาขอบคุณด้วยเช่นกันค่ะ」
จากนั้นไลลาซังก็เงยหน้าขึ้นและหันไปทางนาร์เซน่าและยิ้มให้เธอ
「ช่างน่าสมเพชจริงๆค่ะ แต่เราไม่สามารถช่วยอาร์เมียให้กลับมายืนหยัดได้ ถ้าเธอไม่ได้อยู่ที่นั่นอาร์เมียคงไม่ฟื้นกลับมาแบบนี้」
「เอ๋ อ่าาา」
ในขณะที่ยิ้มราวกับหัวเราะนั้นไลลาเองก็สารภาพกับนาร์เซน่า
นาร์เซน่าไม่คาดคิดด้วยซ้ำว่าเธอจะได้รับคำขอบคุณ เธอดูตกใจเป็นอย่างมาก
เห็นการตอบสนองของนาร์เซน่าเช่นนั้น ไลลาซังก็หัวเราะออกมาจากนั้นก็ก้มหัวให้เธอ
「นั่นคือเหตุผลที่ฉันต้องขอบคุณมากจริงๆ ฉันดีใจนะที่เธอช่วยอาร์เมียได้.」
「เอ๋ อะ ค่ะ!」
นาร์เซน่าพูดเช่นนั้นพร้อมกับพยักหน้าพร้อมกับเขินหน่อยๆ
เมื่อเห็นใบหน้าสองคนที่ยิ้มแย้มแล้วมันก็ทำให้ผมพลอยยิ้มไปด้วย
ดูเหมือนว่าคนในปาร์ตี้ของซีคที่เรารู้จักน้อยที่สุดและไม่รู้ว่าเป็นคนแบบไหนนั้น ตอนนี้เรารู้แล้วว่าเธอน่าไว้วางใจอย่างมาก
「ขอโทษด้วยที่มารบกวน ฉันแค่อยากจะมาขอบคุณเฉยๆ ไม่อยากให้ติดค้างอะไร」
หลังจากเงยหน้าขึ้นเล็กน้อยไลลาซังก็หันมาหาผมแล้ว เธอก็รู้สึกแย่ที่หยุดผมไว้เช่นนี้เธอก็ก้มหน้าอีกครั้งเป็นการขอโทษ
เธอรู้ว่าผมกังวลเกี่ยวกับเรื่องนั้นเลยขอโทษอย่างนั้นเลยเหรอเนี่ย
เมื่อหันหน้าไปทางไลลาซังผมก็พูดกับเธอว่าไม่เป็นไร
「เปล่าเลยครับ ไม่ต้องกังวลไปหรอก」
ผมที่เหนื่อยล้า ไม่ได้สนใจหรอก
หลังจากนั้นเธอก็รีบมาขอบคุณเรา
นอกจากนี้ถ้าเธอไม่วิ่งมาที่นี่เราก็คงจะออกไปแล้ว
เมื่อเห็นสถานการณ์เช่นนี้ก็โทษเธอไม่ลง
「เข้าใจแล้ว ขอบคุณนะที่พูดเช่นนั้น.」
บางทีเธอคงจะแคร์ความรู้สึกจากคำพูดของผมและการกระทำของผม เธอหันมายิ้มด้วยรอยยิ้มอันอ่อนโยน
การที่เธอทำเช่นนั้นมันละม้ายคล้ายกับใครที่นึกถึงเรื่องบางอย่างได้ขึ้น
「เนื่องจากพวกเราเองก็จะไปเตรียมตัวสำหรับปราบนกฟีนิกซ์เช่นกัน ดังนั้นฉันก็ต้องกลับแล้วล่ะ……」
「อ่า ใช่ครับทางผมเองก็ต้องเตรียมตัวเหมือนกัน」
ด้วยคำพูดของเธอผมจำได้ว่าเรากำลังจะไปที่เมือง
และเท่าที่เห็นจากสีหน้าเธอแล้วดูเหมือนเธอจะมาโดยไม่ได้บอกอาร์เมีย
บางทีเธอต้องรีบกลับไปก่อนที่อาร์เมียจะสงสัย
「ขอโทษด้วยที่มาหยุดกระทันหันเช่นนี้นะ.」
หลังจากพูดเช่นนั้นไลลาซังก็กลับไปยังทิศทางที่เธอจากมา
ระหว่างนั้นเองเธอหันกลับมาพร้อมกับยิ้มให้เรา
「ฉันจะต้องตอบแทนพวกเธอทั้งสองคนให้ได้ ด้วยการมีส่วนร่วมในการปราบนกฟีนิกซ์นี่ล่ะ」
มันเป็นคำพูดที่ดูมั่นใจมากเกินไปนะ สำหรับคำสัญญาเช่นนั้น
กลับมาที่การปราบนกฟีนิกซ์นั่นไม่ใช่เรื่องที่ใครบางคนจะพูดได้ง่ายๆ
หลังจากพูดแบบนั้นไลลาซังก็วิ่งเหยาะๆและไม่หันกลับมามองอีกเลย
◇ ◆ ◇
หลังจากไลลาซังวิ่งออกไปลับสายตาแล้ว นาร์เซน่าก็ยังคงจ้องมองไปอีกสักพัก
เมื่อมองไปที่เธอสิ่งที่อยู่ในใจนั้นคือความใสซื่อบริสุทธิ์
「……นักผจญภัยหญิงระดับสูง มีคนที่ทั้งสวยและสง่างามแบบนั้นด้วยสินะคะ」
ณ ตอนนั้นนาร์เซน่าก็พึมพำแสดงท่าทางชื่นชมด้วยความประหลาดใจ
ดูเหมือนว่าสำหรับนาร์เซน่าแล้ว ตัวตนของไลลาซังเป็นอะไรที่ทำให้ตกใจ
「…แม้กระนั้นก็ยังมีราลม่าซังเช่นกัน…」
「……อ่าใช่ อาจารย์นะเป็นข้อยกเว้นนะ ตอนแรกผมไม่คิดว่าจะเหมารวมอาจารย์เป็นมนุษย์ได้หรอกนะ」
「……นั่นสินะคะ.」
……แต่หลังจากฟังคำตอบของนาร์เซน่าที่พึมพำ พลังงานในร่างผมก็เหมือนจะหมดลง
แทนที่จะได้รับอิทธิพลจากการดำรงอยู่ของไลลาซังแต่ดูเหมือนเธอจะหดหู่จากอิทธิพลของอาจารย์แทน
「เฮ้ออออ~…」
อะไรละเนี่ย? อยากจะบ่นอะไรงั้นเหรอ? ทันใดนั้นฉากที่อาจารย์พยายามจะข่มขู่ผมก็ลอยเข้ามาในหัว จนผมต้องถอนหายใจ
หลังจากใช้เวลานานกับคนๆนั้นปฏิกิริยาของนาร์เซน่าก็ดูจะหลีกเลี่ยงไม่ได้
ท้ายที่สุดแล้วอาจารย์ก็เป็นแบบนั้น
อย่างไรก็ตามการดำรงอยู่ของอาจารย์ไม่ต้องสงสัยเลยว่าไลลาซังมีนิสัยดีกว่าอย่างเห็นได้ชัด
แม้ว่าผมจะไม่ได้เห็นความสามารถของเธอแต่การที่เธอจับตี้กับซีคได้หมายความว่าเธอต้องเก่งมากเลยทีเดียว
ในขณะที่คิดเช่นนั้นความคาดหวังที่มีต่อการปราบนกฟีนิกซ์ก็เพิ่มมากขึ้น
การปราบนกฟีนิกซ์ไม่ใช่สิ่งที่ทำได้ด้วยแค่ความรู้สึกครึ่งๆกลางๆ แม้ว่าจะบอกตัวเองเช่นนั้นแต่ก็อดยิ้มไม่ได้เลย
ดูเหมือนว่านาร์เซน่าก็มีความรู้สึกเช่นเดียวกับผม
ผมตระหนักได้เมื่อหันไปมองเธอ จากนั้นก็เลยพูดขึ้น
「เอาล่ะถ้างั้นก็ไปที่เมืองกันเถอะ」
「ค่ะ!」
ความคาดหวังต่อการปราบนกฟีนิกซ์นั้นสูงขึ้นในขณะที่เราเดินไปยังเมือง เราไม่สามารถซ่อนความสุขตรงนี้ได้เลย……