[นิยายแปล]กาวฮีล - ตอนที่ 53
Ch.53 – โรคหลงผิดคิดร้าย(Persecution delusion)
Provider : เมากาวจนหลอน
Chapter 7 :โรคหลงผิดคิดร้าย(Persecution delusion)
—มุมมองราอุส—
ก็สักพักหนึ่งแล้วหลังจากที่นาร์เซน่าวิ่งออกไปหาอาร์เมียด้วยความเร่งรีบ
ผมมองเห็นหน้าเธอไม่ชัด เธออยู่ห่างออกไปหน่อย แต่เมื่อเห็นว่าเธอกลับมาด้วยท่าทางอารมณ์ดีผมก็ยิ้มออกมา
「นาร์เซน่าทำได้ดีมาก」
บอกตามตรงก่อนหน้านี้อาร์เมียดูน่าสงสารจริงๆ
แต่ถึงผมจะพยายามเข้าไปคุยกับเธอ ปัญหามันก็ไม่สามารถแก้ไขได้
ผมเข้าใจเพราะตอนแรกผมเองก็เป็นฝ่ายที่โดนหักหลังเช่นเดียวกัน
สถานการณ์มันก็คล้ายกับอาร์เมีย
…ผมสามารถยกโทษให้เธอได้แต่แบบนั้นมันก็ไม่ได้แก้ปัญหาโดยพื้นฐาน
ขณะที่ผมไม่รู้จะทำยังไงดี นาร์เซน่าก็ดูมีท่าทีแตกต่างออกไป
「เรื่องนี้ปล่อยให้ฉันจัดการได้ไหมคะพี่ชาย?……… ฉันไม่เคยถูกหักหลังมาก่อน แต่แค่คิดภาพก็รู้แล้วว่ามันเจ็บปวดขนาดไหน ฉันแค่…… ไม่อยากจะปล่อยเธอไว้แบบนั้นเลยค่ะ」
หลังจากที่ซีคจากไปนาร์เซน่าก็พูดแบบนั้น
จริงๆแล้วก็ไม่เข้าใจหรอกว่าเธอพยายามจะทำอะไร
แต่ผมก็ไม่ลังเลที่จะปล่อยให้เธอทำในสิ่งที่ต้องการ
ต้องขอบคุณเธอจริงๆ ที่ทำให้ผมฟื้นตัวขึ้นมาได้เช่นกัน
ผมมีลางสังหรณ์ว่าถ้าเป็เธอ คงจะสามารถรับมือกับอาร์เมียได้แน่นอน
และลางสังหรณ์ของผมก็ถูกเสียด้วย
ผมรู้ได้เลยจากภาพที่อาร์เมียวิ่งออกไปเช่นนั้น
ทีนี้ซีคและพรรคพวกก็คงโล่งใจได้แล้ว
「……จริงๆเลยนะ เธอนี่มันสุดยอดจริงๆ」
คิดได้เช่นนั้นก็บ่นออกมา
นาร์เซน่านั้นต่างจากผมเธอเป็นคนพิเศษแถมยังดีเลิศในทุกๆด้าน
ราวกับโอบกอดความรู้สึกเช่นนั้นเอาไว้ผมรู้สึกภูมิใจกับเธอมากๆ
อารมณ์ผมก็ดีขึ้นมาทันทีหลังจากนั้นผมก็เดินออกมาจากที่แห่งนั้น
「เจอเจ้าจนได้นะ」
「ดีนะเนี่ยที่เชื่อคำพูดของพนักงานกิลด์เนี่ย……」
「……หือ?」
……ถัดมานั้นก็ได้ยินเสียงผู้ชายหลายคนผมหยุดเดิน
เสียงพวกนั้นผมไม่เคยได้ยินมาก่อน
แต่ถึงอย่างนั้นขณะที่รู้สึกเหมือนว่าเดจาวูได้เกิดขึ้นอีกครั้งผมก็มองย้อนกลับไป
「………หวาาาา-」
เมื่อเห็นนักผจญภัยจำนวนมากที่ตรงนั้น ใบหน้าผมก็บิดเบี้ยวทันที
โดยที่ไม่ได้ตระหนักถึงเสียงกรีดร้องภายในใจของผม พวกนั้นก็เริ่มก้มหัวขอโทษผม
「ต้องขอโทษจริงๆด้วยนะสำหรับสิ่งที่ทำลงไปกับนายทั้งหมด!」
…นักผจญภัยเหล่านั้นคือเหล่าคนที่ผมหนีมาจากกิลด์นักผจญภัย
ในขณะที่พวกนั้นกำลังเข้ามาหาอย่างช้าๆและเริ่มล้อมรอบผม ความคิดที่จะหนีไปจากที่นี่ก็หายไป
「ได้โปรดล่ะ!จะให้เงินทั้งหมดเลยก็ได้! อย่างน้อยก็ช่วยไว้ชีวิตข้าด้วยเถอะ!」
……เมื่อเห็นนักผจญภัยเหล่านั้นกรีดร้องด้วยความสิ้นหวัง ผมก็หนีไม่ลง
พวกนั้นจะไม่ยอมแพ้แน่หากผมหนีไป
ถึงแม้ผมไม่มีแผนที่จะฆ่าพวกเขาทิ้ง แต่พวกนั้นก็ไม่ได้รู้สึกตัว
「…เฮ้ออออออ~」
คิดได้เช่นนั้นก็ถอนหายใจออกมา
ณ เวลานั้นเอง ผมไม่สามารถออกไปจากที่นี่ได้หากไม่อธิบายแก้ไขความเข้าใจผิด
「…ก่อนหน้านั้น พวกนายช่วยใจเย็นลงก่อนได้ไหมครับ?」
หลังจากตัดสินใจได้ ก็เบ่งเสียงให้ดังขึ้น…
◇ ◆ ◇
「ได้โปรดละ! อย่างน้อยก็ไว้ชีวิตด้วย…」
แม้ว่าจะผ่านไปหลายสิบนาทีหลังจากที่ผมตัดสินใจจะแก้ความเข้าใจผิดแต่มันไม่ได้คืบหน้าขึ้นเลย
ในขณะที่ฟังเหล่านักผจญภัยที่ก้มอยู่ตรงหน้า ด้วยความหงุดหงิดผมก็เริ่มขึ้นเสียง
「เอาจริงๆนะ ผมไม่เคยคิดฆ่าเอาชีวิตพวกนายเลย……」
「ไม่จริงน่า! ไม่เป็นไรหรอกนะ! แม้ว่านายจะพูดแบบนั้นก็เถอะ แต่ข้ารู้ว่าเจ้าไม่มีทางที่ปล่อยเราไปแน่ๆ!」
「ใช่แล้ว! นายคงไม่กล้าพูดตรงๆใช่ไหมล่ะ!」
「นั่นละเหตุผลว่าทำไมอย่างน้อยก็ชีวิต……」
…แต่ว่าคำพูดของผมไม่ได้เข้าหูพวกนั้นเลยสักนิด
ผมไม่คิดจะเอาชีวิตพวกนายหรอก ไม่คิดว่าจะทำซ้ำซากแบบนั้นไปได้นานเท่าไรหากยังไม่ฟังกันอีกละก็นะ
คำพูดที่พูดเท่าไรก็ไม่เข้าหูพวกนั้นสักที
พวกนั้นต่างจ้องมองผมมาด้วยความกลัวเป็นอย่างมาก
เพราะเพียงว่าความกลัวคำพูดพวกนั้นเลยไม่เข้าหูเลย
「…เฮ้อออออ~ ช่างเป็นช่วงเวลาที่เลวร้ายซะจริง…」
เมื่อเห็นสภาพพวกนั้นผมก็ถอนหายใจออกมา
เหตุผลที่พวกเขากลัวไม่ใช่แค่เพราะว่าผมไม่สนใจพวกนั้น
เมื่อเร็วๆนี้ดูเหมือนว่าจะมีนักผจญภัยระดับกลางหลายคนตายในชั้นบน
ตามจริง เรื่องแบบนี้ไม่เกิดขึ้นบ่อยนัก แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นไม่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้ในเขาวงกต
นั่นคือเหตุผลหลักละ มันไม่ใช่ปัญหาใหญ่อะไร
อันที่จริงนั่นเป็นข้อมูลที่ผมรู้มาจากนักผจญภัยที่มาบอกเล่าต่อหน้าผม
พวกนั้นไม่สามารถเตรียมความพร้อมต่อสู้กับฮ็อบก็อบลินได้เพียงเพราะว่าอยู่พวกเขาอยู่ชั้นบนๆ
「ข้าจะให้เงินหมดเลย! เกราะก็ด้วย เอาไปได้ตามใจชอบเลย! ดังนั้นล่ะ ได้โปรด อย่ามาโจมตีข้าในเขาวงกตเลย!」
…แต่พวกนั้นก็คิดว่าการตายของพวกเหล่านักผจญภัยนั้น เกิดขึ้นจากการโจมตีทีเผลอของผม
แน่นอนว่ามันเป็นเพียงแค่ความหลงผิด
ผมหมายถึง ภายใต้สถานการณ์ปกติไม่มีทางที่นักผจญภัยจะเข้าใจผิดในสถานการณ์แบบนี้
แต่นักผจญภัยเหล่านั้นกลัวความจริงที่ว่าผมไม่สนใจพวกเขา นั่นหมายความว่าผมต้องลงมือทำอะไรบางอย่างกับพวกเขาแน่
ไม่ต้องพูดถึงนักผจญภัยบางคนที่เสียชีวิตในชั้นบนๆด้วย รวมถึงพวกนั้นก็เป็นพวกที่กดขี่ผมมาจนถึงตอนนี้ ด้วยเหตุผลอันเหมาะเจาะก็กลายมาเป็นว่าผมเป็นคนทำซะงั้น
「ข้อร้องล่ะ! นี่เป็นคำร้องขอเดียวในชีวิตของข้า!」
「ต้องขอโทษด้วยจริงๆที่ชั้นทำมาจนถึงตลอดนี้!」
「ขอร้องล่ะ ได้โปรดเมตตาข้าด้วย!」
「จะทำตามที่ขอทุกอย่างเลย!」
นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมเหล่านักผจญภัยเหล่านี้หลงผิด และเชื่อว่าผมเป็นอาชญากร แน่นอนว่าไม่มีการเอาคำพูดที่ผมจะพูดไปประจานด้วยเพราะกลัวตาย
นักผจญภัยเหล่านี้กลัวในการถูกพรากชีวิตอันแสนสำคัญ น้ำตาไหลและน้ำมูกที่เปรอะเปื้อนผม พวกนั้นกำลังขอให้ผมไว้ชีวิตทั้งๆที่ผมไม่ได้ทำอะไร
「ฮะ ฮ่าฮ่าฮ่า…」
………ตอนนี้ผมทำได้เพียงแค่หัวเราะแห้งๆออกมา
ไม่ว่าผมจะพยายามพิสูจน์ความบริสุทธิ์แค่ไหน พวกนี้ก็ไม่ฟัง แต่ถ้าผมเอาอุปกรณ์ของพวกนั้นไปก็เป็นปัญหาอีก
ถ้าผมรู้ว่าสิ่งนี้จะเกิดขึ้น งั้นไม่เมินที่กิลด์ตั้งแต่แรกก็สิ้นเรื่อง ตอนนี้เลยต้องมานั่งเสียใจที่ไม่ทำเช่นนั้น
เอาเถอะถ้าผมมานั่งฟังพวกนี้ทั้งหมดหัวผมคงระเบิดแน่ๆ ไม่รู้ว่าเหตุการณ์ไหนมันจะทำให้ผมรำคาญมากกว่ากัน
แต่ยังไงตอนนี้ผมก็จนมุมไม่สามารถตัดสินเรื่องนี้ได้อย่างถูกต้อง
เมื่อนักผจญภัยอันแสนน่ารังเกียจเหล่านี้ต่างก้มหัวร้องขอชีวิตทั้งที่ทำกับผมหนักขนาดนั้น ผมพยายามรวบรวมความสนใจเหล่านั้น
พยายามหาทางจะหนีไปจากสถานการณ์เช่นนี้พร้อมกับยอมรับว่าพวกนี้อาจจะตามมาตอแยในอนาคต
「………อาาา」
ตอนนั้นเองก็คิดอะไรออกขึ้นมา
มันราวกับเป็นปาฏิหาริย์สำหรับผมที่สมองทื่อที่มันแว่บเข้ามาในหัวในวินาทีสุดท้าย
ตอนนี้ผมสามารถแยกย้ายพวกเหล่านักผจญภัยได้พร้อมกับช่วยเหลือพวกชาวเมืองไปด้วย
「ถ้างั้นก็มาพูดถึงเงื่อนไขกันดีกว่า」
「หือออ?」
เมื่อตัดสินใจได้อย่างนั้นรอยยิ้มที่แสดงถึงความมั่นใจก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของผม
เมื่อเห็นท่าทีของผมเปลี่ยนไป เหล่านักผจญภัยก็ดูสับสน
อย่างไรก็ตามผมไม่สนและอธิบายอย่างละเอียด
「ในช่วงสามสัปดาห์ถัดไปนี้ ให้นำวัตถุดิบจากชั้นกลางมาขึ้นให้ชาวเมืองโดยต้องไม่เอาเงินค่าตอบแทน ผมจะไม่ช่วย แต่ถ้าผลงานของพวกนายเป็นที่น่าพอใจผมก็จะตอบแทนให้เช่นกัน แน่นอนถ้าเกิดทำร้ายคนในเมือง คงรู้นะว่าจะเกิดอะไรขึ้น」
สิ่งที่ผมคิดขึ้นมานั่นก็คือการให้นักผจญภัยทำงานเพื่อชาวเมืองในช่วงนี้
ด้วยวิธีนี้เองเหล่านักผจญภัยก็จะไม่ตามผมมา ขณะที่แมรี่ซังและคนอื่นๆก็ได้วัตถุดิบด้วยความช่วยเหลือของนักผจญภัยเหล่านี้
「นะ นี่ เงื่อนไขดีแบบนี้ ถ้ามันช่วยชีวิตพวกเราได้ก็จะทำ」
「พูดแล้วนะ! เอาล่ะ! ข้าจะทำเอง!」
「ข้าด้วย!」
หลังจากได้ยินเงื่อนไขของผมเหล่านักผจญภัยก็ตัดสินใจที่จะเข้าร่วมทีละคนๆ
ขณะที่มองสถานการณ์ตรงหน้าโดยไร้ซึ่งความสนใจ ผมก็แอบชมตัวเองที่คิดแบบนี้ได้
หวังว่าด้วยการทำแบบนี้สถานการณ์ในเมืองจะดีขึ้นนะ
「…บางทีผมเองก็เป็นคนที่มีความสามารถเหมือนกันนะเนี่ย.」
……อย่างไรก็ตามมันมีรายละเอียดเล็กน้อย ที่ผมบ่นไป ช่างมันเถอะ
มันเป็นความระแวงของชาวเมืองที่มีต่อนักผจญภัย
ผมไม่มีทางรู้เลยว่าหนึ่งชั่วโมงหลังจากนั้นเองผมจะต้องมาจมปลักอยู่กับกองเอกสารมากมายเพื่อให้นักผจญภัยเหล่านั้นเซ็นต์เอกสารเพื่อเข้ามาทำงานภายในเมือง……
สาระเล็กน้อย
โรคจิตหลงผิดคือ
การมีความเชื่อ หรือความคิดไม่ตรงกับความเป็นจริง เรียกว่า อาการหลงผิด (delusion) ตั้งแต่ 1 เรื่องนานตั้งแต่ 1 เดือนขึ้นไป โดยอาการหลงผิดที่พบบ่อยที่สุดคือ ระแวงว่าตนถูกกลั่นแกล้ง หรือถูกปองร้าย ผูกเรื่องเชื่อมโยงไปในแนวทางเดียวกัน ส่วนใหญ่ไม่พบว่ามีประสาทหลอน เช่น หูแว่ว ผู้ป่วยมักจะยังคงทำหน้าที่ได้ตามปกติ ยกเว้นบางกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับความหลงผิด เช่น ถ้าหลงผิดว่าเพื่อนร่วมงานกลั่นแกล้งก็อาจจะขอลาออกจากที่ทำงาน ทั้ง ๆ ที่ยังทำงานด้านนั้นได้ตามปกติ ทั้งนี้ผู้ป่วยอาจจะไม่รู้ตัวว่ามีอาการหลงผิด ญาติหรือผู้ใกล้ชิดจึงควรสังเกตอาการและแนะนำให้มารักษา เพื่อให้ผู้ป่วยปรับตัวและอยู่ในสังคมได้
ในตอนนี้อาการของจิตหลงผิดคือประเภทที่ว่า ความเชื่อที่ฝังลึกลงไปในหัวของเหล่านักผจญภัยว่าสิ่งที่เคยทำกับพระเอกมันจะย้อนกลับมาทำตัวเอง เป็นประเภทคิดแง่ลบกลัวคนทำร้าย