[นิยายแปล]กาวฮีล - ตอนที่ 20
Ch.20 – ความเสียใจของนาเซน่า
Provider : รินคะน้า
ฮีลเลอร์ถูกถีบ Chapter 20 ความเสียใจของนาเซน่า
—นาเซน่า—
ตามคำพูดของ ราลม่าซังแล้ว พี่ชายไม่ยอมแพ้เพียงเพราะไม่สามารถใช้เวทย์รักษาได้และพยายามอย่างเต็มที่เพื่อได้รับความสามารถใหม่ๆ
…… ยังไงก็ตามถึงแม้จะมีความสามารถใหม่นั้น พี่ชายก็ยังถูกบอกว่าไร้พรสวรรค์
「ฮึก!」
… ฉันพยายามจินตนาการภาพความเศร้าโศกของพี่ชาย ในขณะนั้นเองฉันก็รู้สึกเจ็บปวดใจอย่างมาก
แน่นอนว่าความเศร้านั้นไม่มีอะไรนอกจากเรื่องที่จินตนาการออกมา
ถึงยังงั้นก็ตามฉันเคยได้ยินเสียงคร่ำครวญของพี่ชาย ที่โดนกดขี่ขมเหงเพียงเพราะขาดพรสวรรค์ในฐานะฮีลเลอร์
นั่นคือสาเหตุที่ฉันสามารถจินตนาการได้ถึงความเศร้าโศกของพี่ชายได้อย่างชัดเจน
… นอกจากนี้ฉันยังรู้เรื่องในอดีตของพี่ชายอีก ฉันรู้สึกเสียใจเป็นอย่างมาก
「ไม่สิ อาจจะผิดก็ได้ที่เรียกว่าไร้พรสวรรค์? หลังจากนั้น ราอุสก็เรียนรู้เกี่ยวกับพลังเวทย์และคิในเวลาเพียงไม่กี่เดือน ขณะที่คนอื่นใช้เวลาตั้งหลายปีในการทำเช่นนั้น บางทีแทนที่จะบอกว่าเขาไม่มีพรสวรรค์ แต่เรียกว่าอัจฉริยะภาพน่าจะดีกว่าสำหรับเขาสินะ? มันเป็นพรสวรรค์ของช่างเครื่องมือเวทย์ที่ต้องการให้ได้ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น」
ในขณะที่ราลม่า ซัง กำลังพูดกับตัวเองด้วยความตื่นเต้น ฉันก็กัดริมฝีปากตัวเอง
เมื่อตอนที่พี่ชายช่วยฉันไว้ฉันสาบานกับพี่ชายว่าจะเป็นพรรคพวกของเขา ฉันคิดว่าจะปกป้องเขาในสักวัน
แต่ในความเป็นจริงมันตรงกันข้ามเลย ฉันต่างหากที่ได้รับการปกป้อง
ถึงอย่างน้อย แม้กระนั้นฉันก็อยากจะช่วยสนับสนุนด้านกำลังใจของพี่ชายบ้าง
เพราะพี่ชายนั้นเริ่มร่าเริงขึ้นตอนที่ฉันเข้าร่วมปาร์ตี้ของเขา
นั่นคือสาเหตุที่ฉันคิดว่าฉันสามารถที่จะพอช่วยอะไรพี่ชายได้บ้าง
… แต่สำหรับตอนนี้ฉันก็ไม่อยากจะเชื่อตัวเองแบบนั้นเลย
「แต่ แม้ว่าลูกศิษย์ของฉันจะสามารถเป็นช่างเครื่องมือเวทย์ได้ แต่ก็ยังไม่ได้พูดถึงพรสวรรค์ของหมอนั่นหรือสิ่งที่ขาดสำหรับนักผจญภัยสินะ จากนั้นก็เรื่องที่หมอนั่นได้รับความสามารถแบบนั้นมาได้ยังไง…… เอาจริงๆเลยน้าาา ฉันไม่รู้เลยจริงๆสิ่งหนึ่งที่ฉันรู้ได้เพียงแค่ว่าฉันไม่สามารถเลียนแบบหมอนั่นได้นั่นละ.」
คำพูดของราลม่าซังเริ่มร้อนแรงขึ้น
แน่นอนว่า ราลม่าซังนั่นรู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างมาก
พี่ชายนี่ประสบความสำเร็จน่าดูเลยนะ
เขาที่ถูกกล่าวว่าไร้พรสวรรค์ พยายามอย่างหนักและในที่สุดก็มีความสามารถพอที่จะยืนอยู่บนตำแหน่งเคียงข้างนักผจญภัยระดับโลกได้แล้ว
ต้องใช้ความพยายามมากแค่ไหนกันนะ?
…… แต่ว่าทุกๆครั้งที่ฉันนึกถึงความยิ่งใหญ่ของพี่ชายได้ ก็นึกถึงความเกลียดชังในตัวพี่ชายที่เกลียดตัวเองเหมือนกัน
ตอนนี้ ฉันเข้าใจแล้วว่าทำไมพี่ชายถึงประเมินตนเองไว้ต่ำขนาดนั้น
เขาที่ถูกเรียกว่าไร้พรสวรรค์และถูกบีบบังคับดังนั้นเขาจึงต้องพยายามอย่างหนักเพื่อที่จะตระหนักถึงว่าตัวเองนั้นไร้พรสวรรค์จริงๆ
อย่างไรก็ตาม พี่ชายนั้นก็พยายามจนหมดท่าทุกครั้ง
จากนั้นเองเขาก็ได้รับพลังสุดแสนอัศจรรย์มา
…… และถึงแม้จะทำอย่างดีที่สุดแล้วก็ยังไม่มีใครยอมรับในความพยายามของพี่ชายเลยแม้แต่น้อย
พี่ชายนั้นต้องรู้สึกเจ็บปวดมากแค่ไหนกันนะ?
นั่นคือสิ่งที่ฉันไม่สามารถจะเข้าใจได้เลยแม้แต่น้อย
… แต่ แม้จะในสถานการณ์แบบนี้ ฉันก็ยังไม่สามารถจะช่วยเหลือพี่ชายได้
เมื่อได้รู้ถึงความจริงทั้งหมด สิ่งที่ฉันรู้สึกได้ก็มีแต่ความเสียใจ
แทนที่จะเพราะไม่สามารถทำอะไรได้เลย ฉันนั้นรู้สึกละอายใจที่คิดว่าตัวเองสนับสนุนพี่ชายอยู่โดยไม่สังเกตเห็นถึงสิ่งนั้นที่ทำลงไป
「แต่ อืม ที่หมอนั่นไปได้ไกลและมาถึงจุดนี้ได้ก็ต้องขอบคุณเธอเลยละนะ นาเซน่า ขอบคุณจริงๆ」
「——หืออออออ!?」
นั่นเป็นสาเหตุที่ฉันตกใจเมื่อได้ยินราลม่าซังพูดกับฉันแบบนั้น
◆ ◆ ◇
เนื่องจากความคิดของราลม่าซังส่งผ่านมา ฉันจึงตกใจอยู่พักหนึ่ง
「มะ-ไม่ใช่เลยนะคะ!」
อย่างไรก็ตามความคิดของฉันนั้นเริ่มต้นใหม่อีกครั้งและเริ่มแก้ไขความเข้าใจผิดที่ไม่คาดคิดของราลม่าซัง
ความแข็งแกร่งของพี่ชายที่ทำให้ราลม่าซังยอมรับนั้น มันไม่ได้เกี่ยวข้องกับฉันสักหน่อยนะ
ถึงกระนั้นเรื่องนี้ราลม่าซังเชื่อว่าพี่ชายที่ได้ความสามารถแบบนั้นมามากมายเลยขอบคุณฉัน นั้นไม่ใช่สิ่งที่ฉันมองผ่านไปได้เลย
…… อย่าทำอย่างนี้อีกเลยน้าาาา ฉันไม่ใช่พวกหน้าด้านที่จะยอมรับคำโกหกแบบนั้นออกมาได้หน้าตาเฉยหรอกนะคะ
「ก่อนหน้านั้นที่ฉันจะเข้าร่วมปาร์ตี้พี่ชาย เขาก็มีความสามารถแบบนั้นอยู่แล้วนะคะ…」
นั่นคือเหตุผลที่ฉันพยายามอย่างที่สุดเท่าที่จะทำได้เพื่อปฏิเสธคำพูดของราลม่าซัง
「เป็นงั้นเหรอ? แต่ว่าลูกศิษย์อันโง่เขลาของฉันนั้นดูร่าเริงเหมือนกับอีกคนหนึ่งเลยนะเมื่ออยู่กับเธอน่ะ?」
「เออออออออออออออ๋……」
ถึงกระนั้น ราลม่าซังกล่าวเช่นนั้นขณะเอียงคอเล็กน้อยและดื่มชาของเธอ
「ลูกศิษย์อันโง่เขลาของฉันที่เธอเห็น ฉันได้สอนเขาในหลายสิ่งหลายอย่าง แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังบ่นเกี่ยวกับการต้องการคู่หูอยู่ตลอดเวลาเลยนะ……ฉันไม่เคยคิดเลยด้วยจนกระทั่งเขาได้รับสหายที่ต้องการเป็นอยากมากเขาก็เริ่มถูกพาตัวไปไหนต่อไหนใช้งานอย่างหนัก…… เอาจริงๆเลยนะ พวกนั้นนะต่ำช้าสุดๆ」
ราลม่าซังดูเหมือนจะรู้สึกหดหู่ใจอย่างมากจากสีหน้าอันบิดเบี้ยวของเธอ ณ จุดนี้เธอได้แต่ยัดขนมหวานเข้าปากและแทบจะไม่สนใจฉันเลย
นี่เป็นเพียงสิ่งปกติของราลม่าซังนั่นคือสาเหตุที่ฉันรู้ว่าราลม่าซังนั่นไม่ได้ตระหนักถึงสิ่งที่เธอพูด
—— ถึงกระนั้นฉันก็เริ่มคิดเกี่ยวกับสิ่งที่เธอเพิ่งบอกฉัน
「ฮึก-」
ช่วงเวลานั้นเองฉันก็เข้าใจได้ว่าฉันนั้นร้องไห้ออกมาโดยไม่รู้ตัว
เป็นเรื่องจริงที่ฉันไม่สามารถสนับสนุนพี่ชายในช่วงเวลาที่เขาเจ็บปวดมากที่สุดได้เลย
ถึงกระนั้น ราลม่าซังที่เริ่มทำตัวปกติแล้ว เธอก็เริ่มบอกว่าพี่ชายนั้นเริ่มร่าเริงขึ้นและขอบคุณฉัน ทำให้ฉันรู้แล้วว่าตอนนี้ฉันสนับสนุนพี่ชายได้อย่างถูกต้อง
「นี่ นาเซน่าเกี่ยวกับหมอนั่น…… หืออออ? ทำไมเธอถึงร้องไห้ละเนี่ย?」
เมื่อราลม่าซังรู้สึกได้ว่าฉันกำลังร้องไห้ เธอก็เริ่มรู้สึกกระวนกระวายและแสดงท่าทีผิดปกติต่างจากทุกที ถึงอย่างนั้นฉันก็ไม่สามารถจะหยุดน้ำตาของฉันลงได้เลย
นั่นคือสิ่งที่ฉันร้องไห้ออกมาเพราะว่าดีใจที่สามารถเป็นประโยชน์ให้พี่ชายได้มากแค่ไหน
「ฉัน *ซิก* นะชะ….」
「อ่าาา อะไรนะ? จะพูดอะไรกันแน่เนี่ย?」
ฉันพยายามขยับปากอย่างตื่นเต้นเพื่อจะบอกความรู้สึกของฉันต่อราลม่าซัง
… แต่คำพูดของฉันส่งไปไม่ถึงราลม่าซัง
ซักพักหนึ่งฉันพยายามจะบอกเธอว่าฉันไม่ได้ร้องไห้เพราะว่าเศร้าใจ แต่ฉันก็สื่อสารออกไปได้แย่มาก
หลังจากมองที่ฉันด้วยท่าทางสับสนอยู่ครู่หนึ่งเธอก็ถอนหายใจแล้ววางมือลงบนหัวของฉัน
「… ฉันไม่เข้าสิ่งที่เธอพยายามจะพูดหรอกนะ แต่มันก็ไม่เป็นไรหรอกนาเซน่า ท้ายที่สุดเธอก็มีชื่อของครอบครัว อเนลเรสเทรีย.」
มันเป็นการปลอบภัยที่เข้าใจผิดที่สุดเลยนะ แต่คำพูดเหล่านั้นก็เพียงพอที่จะทำให้ฉันร่าเริงขึ้นแล้วล่ะ
ใช่ฉันเป็นสมาชิกครอบครัวที่น่าภูมิใจของ อเนลเรสเทรีย
ด้วยความคิดนั้นในใจฉันจึงทำตามคำปฏิญาณ
แน่นอนว่าฉันไม่สามารถช่วยเหลือพี่ชายยามที่เขาสิ้นหวังอย่างแท้จริง แต่ฉันจะคอยสนับสนุนพี่ชายถ้ามีบางอย่างที่ทำให้เขาต้องเจ็บปวด ฉันจะช่วยเขาอย่างแน่นอน
「ฮัดชิ้ว!」
ด้วยความคิดเหล่านั้นในใจฉันมองไปที่ราลม่าซังและพยักหน้า มันมีน้ำมูกอยู่ในจมูกและอาจจะส่งเสียงออกมาได้ไม่ชัดเจน แต่ฉันก็ส่งเสียงดังเพื่อบอกความรู้สึกต่อไป
TN:หนูสภาพหนูตอนนี้นะ….ถ้าราอุสได้ยินและเห็นละก็
โดยที่ไม่ได้รับรู้ถึงข้อเท็จจริงอย่างใดอย่างหนึ่ง
ราลม่าซังที่ลูบหัวฉันก็มองไปที่ผนังห้อง
และเมื่อราลม่าพูด 「อเนลเรสเทรีย」 ก่อนหน้านี้ จะได้ยินเสียงจากด้านหลังกำแพงที่เธอมอง……
จากผู้แปล
ก็มากันอีกแล้วสองตอนรวด อิงค์นี่ปล่อยถี่จังเลยน้า~ ต่อไปอีกประมาณ7-8ตอนจะถึง ตอนของไลล่าแล้วกับมุมมองที่…. ไว้แค่นี้ดีกว่าฮ่า ถ้างั้นก็ไว้พบกันใหม่หลังจากอิงค์ออกนะครับ