[ นิยายแปล ] สารภาพรักไป99ครั้งก็ยังไม่ไหวงั้นหรอ!? - ตอนที่ 5
เช้าวันต่อมา เพราะคิดเรื่องตัวเองมากเกินไป เซอิจิเลยตื่นมาด้วยสีหน้าไม่ค่อยดีนัก
พอจะลงไปล้างหน้า แม่ถึงขั้นเอ่ยถามว่า”นี่ใคร” ส่วนพ่อก็ถามว่า”เป็นอะไร มีเรื่องอะไรไม่พอใจกับพ่อรึป่าว”
“เห้อ มีเรื่องให้เครียดนิดหน่อย”
เซอิจิรีบล้างหน้าและไปโรงเรียนด้วยสีหน้าที่น่าจะดีกว่าเดิม
“อรุณสวัสดิ์”
“อุหวา ผีหลอก!”
“อยากโดนฆ่าหรอ ทาเคชิ”
จากการหยอกล้อของทาเคชิ ทำให้ใบหน้าของเซอิจิที่แย่อยู่แล้วหนักกว่าเดิมอีก
“ทาเคชิ วันนี้อย่าไปแกล้งเจ้าเซอิจิมันมากดีกว่า ดูท่าจะกังวลอยู่”
“นั่นสินะ ทั้งเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวาน และเรื่องที่จะโดนปฏิเสธในวันนี้อีก นี่เซอิจิ เดี๋ยวชั้นพาไปเลี้ยงน้ำ”
“หยุดเลย อย่ามาทำเป็นอวดดีนะ”
เซอิจิที่โดนทั้ง2คนแกล้งตั้งแต่เช้า ทำให้กำลังใจลดลงไปอีก
ก่อนอื่นเลย เซอิจิต้องเขียนจดหมายให้คิรินมาพบหลังเลิกเรียน
“นี่คงเป็นครั้งสุดท้ายที่จะได้เขียนจดหมายอย่างนี้สินะ.. น่าเศร้าจัง..”
“ไอ้จดหมายรักเนี่ย เดิมทีมันก็เหมือนกับการประลองกัน ใครตกหลุมรักก่อนคนนั้นแพ้ เพราะฉะนั้น ฝั่งที่เป็นฝ่ายรับจะได้เป็นคนคุมเกม ฝ่ายส่งไปก็เหมือนแพ้แล้ว”
“พวกแกช่วยจริงจังหน่อยได้มั้ย ว่าจะสนับสนุนหรือจะหยอกกัน”
เซอิจิเริ่มขีดเขียนลงไปบนจดหมาย
แล้วก็มีผู้หญิงโผล่มาท่ามกลาง3คนที่กำลังส่งเสียงดัง
“อรุณสวัสดิ์นะทุกคน เป็นอะไรกันหรอ ดูเสียงดังกว่าทุกทีนะ”
“อะ ประธาน อรุณสวัสดิ์ ก็มีเรื่องนิดหน่อยน่ะ”
คนที่พูดขึ้นมาคือซายากะ ประธานชมรมทำอาหารนั่นเอง
เหมือนเธอเพิ่งจะมาถึงโรงเรียนเพราะเธอยังสะพายกระเป๋าอยู่เลย
“กำลังคุยอะไรกันอยู่หรอ?”
“ก็เรื่องเจ้าเซอิจิวันนี้จะเป็นวันสุดท้ายที่สารภาพรักนี่แหละ”
“เอะ? สุดท้าย?”
“เคน! แกไม่จำเป็นต้องพูดก็ได้”
“หมายถึงไม่จำเป็นต้องบอกมาเอบาชิที่คอยช่วยเหลือแกมาจนถึงทุกวันนี้หรอ”
“ไม่ ไม่ใช่แบบนั้น แค่ไว้ค่อยบอกหลังจา…”
“สะ สุดท้ายนี่คืออะไรหรอ!?”
ซายากะฟังบทสนทนาของเซอิจิและเคนด้วยความสนใจ
“อืม ก็ ถ้าวันนี้สารภาพรักแล้วโดนปฏิเสธอีกละก็ คิดว่าจะ… ตัดใจจากยามาเสะซังล่ะ…”
เพราะแรงกดดันจากซายากะ เซอิจิเลยต้องพูดออกไป
พอเล่าให้ฟัง ซายากะก็หลบหน้าแล้วหันหลังให้พวกเซอิจิทันที
“ประ ประธาน เกิดอะไรขึ้น?”
“มะ ไม่มีอะไรหรอก โทษทีนะนึกได้ว่ามีธุระ ถ้างั้น พยายามเข้านะ ขอตัวก่อน”
“อ โอ้ว”
แล้วซายากะก็ออกไปทั้งแบบนั้นเลย
มีแค่เซอิจิที่แปลกใจกับท่าทีของซายากะที่ไม่เหมือนปกติ เคนกับทาเคชิที่รู้ตัวก็มองเซอิจิแล้วยิ้มออกมา
“อะ อะไรเล่าพวกแก รู้สึกไม่ดีเลย”
“ม่าย~ ไม่มีอะไรหรอก อ่าา คิดว่านี่แหละน้าชีวิตวัยรุ่น”
“เซอิจิ วันนี้ถึงจะเป็นวันที่แย่ที่สุดสำหรับนายก็เถอะ แต่จากนี้ไปต้องเป็นวันที่สวยงามโรยด้วยกลีบกุหลาบแน่นอน”
“พูดอะไรของแก2คน ช่างเถอะ ชั้นจะเขียนจดหมายแล้ว”
เซอิจิเมิน2คนและเริ่มที่จะเขียนจดหมาย
เนื้อความไม่มีอะไรมาก แค่เขียนเพื่อเรียกเธอให้มาพบ เพราะตัดสินใจไปแล้วว่าจะสารภาพแบบปกติ จึงเขียนด้วยภาษาสุภาพ
เพื่อไม่ให้เสียใจอีกภายหลัง เซอิจิครุ่นคิดถึงสิ่งที่จะพูดออกไปในขณะที่กำลังเรียนอยู่
และหลังเลิกเรียนก็มาถึง
เซอิจิเริ่มกระวนกระวายหนักกว่าเดิม
“เซอิจิ เป็นไรป่าว หน้าตาแกดูหน้าสนใจกว่าที่ผ่านมาอีกนะ”
“หมายความว่าไง!? ไม่สิ แค่ประหม่าน่ะ”
“มาพูดอะไรของแกเอาตอนนี้ มันก็เหมือนกับสารภาพรักแบบที่ผ่านๆมาไม่ใช่รึไงกัน”
“ไม่เหมือนสักหน่อย!”
เพราะวันนี้เป็นวันสุดท้ายแล้ว หมายความว่าไม่มีครั้งต่อไป พอคิดอย่างนั้นเซอิจิก็เริ่มวิตก กังวลใจ
“แล้วนัดที่ไหนล่ะ”
“ที่ห้องเรียนบนชั้น4”
“โอ้ว หลังเรียน ในห้องเรียน เหมือนกับฉากสารภาพรักในเอโระเกมเลยนะ”
“หนวกหู เรื่องของชั้นสิ”
เซอิจิที่เก็บกระเป๋าและพร้อมจะออกไปแล้วได้ตบแก้มตัวเองเพื่อเรียกกำลังใจมา
“เอาล่ะ! ไปละนะ!”
“พยายามเข้านะ เดี๋ยวพวกชั้นรออยู่ที่นี่”
“อา”
พูดอย่างงั้นเซอิจิก็ออกจากห้องเรียนและดิ่งตรงไปที่จุดนัดหมาย
เคนกับทาเคชิที่ยังอยู่ ได้พูดกันถึงอนาคตต่อจากนี้
“อืม ดูจากท่าทีของยามาเสะซังเมื่อวาน เจ้าเซอิจิมันต้องโดนปฏิเสธแหงๆ”
“งั้นเรามาจองคาราโอเกะรอกันเถอะ”
“เคน ชั้นจัดการให้แล้วล่ะ นายต้องปฏิบัติกับชั้นดีๆด้วยน้า”
“นั่นสินะ”
คิดว่าอย่างไงเซอิจิก็โดนปฏิเสธแน่ๆ
ทั้ง2คนเข้าใจดีเพราะพวกเขานั้นคบกันมานานแล้ว
ในเวลาแบบนี้จะทำไงให้เซอิจิมันพอใจได้นะ…
****
ฉัน มาเอบาชิ ซายากะ ขณะที่คิดว่าตัวเองเป็นผู้หญิงที่ใช้ไม่ได้ก็กำลังยิ้มอยู่ในห้องน้ำโรงเรียน
เหตุผลที่เป็นเหมือนกับคนโรคจิต(ในดิบมันใช้คำว่าเฮนไต)แบบนี้ ก็เพราะได้ยินเรื่องที่ทั้ง3คนกำลังพูดกันอยู่
“….เซอิจิคุง วันนี้คือวันสุดท้ายแล้ว…”
หลังจากเปิดเรียนมาได้1เดือน ก็ได้เป็นเพื่อนกับ อิชิกิ เซอิจิ
ตอนแรกก็คิดว่าเป็นคนแปลกๆอยู่หรอก
วันหนึ่งอยู่ดีๆก็มาหาฉันที่เป็นประธานชมรมแล้วขอร้องว่า”ได้โปรดสอนผมทำอาหารด้วยครับ”ด้วยท่าโดะเกะซะ(tl:ท่าคุกเข่าหน้าเกือบถึงพื้นเป็นการขอโทษ/ข้อร้องแบบขั้นสุดของชาวยุ่น)
เขาบอกว่า เขาจะเรียนทำอาหารไปเพื่อให้คนที่ตัวเองชอบมาสนใจ
พอได้ยินเหตุผลตอนแรกคิดว่าเขาคงแค่อยากลองเฉยๆ สอนสักหน่อยเดี๋ยวก็คงล้มเลิกไปเอง แต่เขากับไม่เป็นอย่างนั้น
ทุกๆวัน หลังเลิกเรียนเขาฝึกฝนทุกวันจนดึก และเก่งขึ้น
ขนาดฉันที่เป็นผู้สอนยังตกใจที่เขาจำทุกอย่างได้อย่างดี
“ทำไมถึงต้องพยายามขนาดนั้นด้วยล่ะ”
ฉันถามออกไป
เขาตอบกลับมาด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม
“เพื่อให้ยามาเสะซังหันมาชอบครับ”
ฉันงงกับคำตอบของเขา แต่ในขณะเดียวกันก็คิดว่าจะทำอะไรให้ได้บ้าง ในเวลาแบบนี้
ถ้าจะให้พูดละก็ มันเป็นไปไม่ได้หรอก
แต่เขาเพื่อจะให้เพศตรงข้ามมาชอบ ถึงกับทำอาหารเป็นภายใน2สัปดาห์
ฉันที่สอนเขามาตลอดที่ผ่านมาเห็นเขาพยายามมามากขนาดนี้…….รู้สึกตัวอีกทีก็ชอบไปสะแล้ว