[ นิยายแปล ] สารภาพรักไป99ครั้งก็ยังไม่ไหวงั้นหรอ!? - ตอนที่ 16
“งั้นทานกันเลยมั้ย…ขอบคุณจริงๆที่เลี้ยง”
“ไม่เห็นจะเป็นอะไรเลย รีบๆกินเถอะ”
เซอิจิเองก็หิวแล้ว จึงเริ่มทานอาหาร
ในที่สุดก็ได้ผ่อนคลายสักที เขาจึงเอนจอยกับมื้ออาหาร
“จะว่าไป เธอ อยู่แค่มอต้นแท้ๆแต่เงินเก็บเยอะจังเลยนะ”
“ก็รู้อยู่แล้วไม่ใช่รึไง ฉันถ่ายแบบ ฉันทำงาน เพราะฉะนั้นก็ต้องได้ค่าจ้างสิ”
เธอพูดขณะกำลังทาน
เซอิจิรู้อยู่แล้วว่าถ่ายแบบ แต่ไม่รู้ว่าเป็นงานถ่ายแบบประเภทไหน
“จะว่าไป เธอทำงานแบบไหนล่ะ แค่ยืนโพสต์ท่าเฉยๆอย่างงั้นหรอ”
ในมุมมองของเซอิจินั้นพวกนางแบบ แค่ยืนโพสต์ท่าเฉยๆก็สามารถหาเงินได้แล้ว
“มันยากกว่าที่นายคิดอีกนะ การจะบำรุงรักษารูปร่าง สัดส่วนร่างกายเอาไว้ได้”
“แล้วแบบนั้น ถ้ากินของหวานจะไม่เป็นอะไรหรอ?”
“นั่นไม่เกี่ยวสักหน่อย”
“ไม่ล่ะ เกี่ยวสิ”
พอมาคิดดีๆ ทุกเช้าเธอก็ออกไปวิ่งตลอด อาบน้ำเสร็จก็พอกหน้าทุกวัน
ในขณะที่เซอิจิประทับใจในอะไรหลายๆอย่าง ก็เกิดคำถามกับเขาอย่างนึง
“อืม จะว่าไป เธอเคยบอกนิ ว่างานถ่ายแบบทำเพื่อเงินเก็บเฉยๆ แต่ว่าทำไมถึงต้องพยายามมากขนาดนั้นล่ะ ถ้าไม่ได้จริงจังมากล่ะก็ ไม่ต้องฝืนมากก็…”
“ไม่เข้าใจเลยสินะ สักครั้งในชีวิตฉันก็อยากลองทำอะไรดูบ้าง ไม่ใช่คิดว่าแค่จะหางาน แล้วก็ไม่อยากถูกต่อว่าว่าครึ่งๆกลางๆด้วย…”
” บ แบบนั้นเองสินะ”
ระหว่างที่ไม่ได้คุยกันเธอเติบโตขึ้นมาก และเริ่มจะคิดถึงเรื่องของตัวเธอเองแล้ว
(เทียบกับมินาโฮะ เราไม่ได้ทำอะไรนอกจากสารภาพรักกับยามาเสะซัง ตั้งแต่ขึ้นมอปลายมาก็ไม่ได้ต่างจากมอต้นเลย)
“เน่ๆ ดูตรงนั้นสิ! ผู้หญิงคนนั้นน่ารักอย่างกับตุ๊กตาแน่ะ”
“จริงด้วยๆ! อะ จำได้แล้ว! นั่นมันผู้หญิงที่อยู่ในนิตยสารนี่นา!”
ระหว่างที่เซอิจิกำลังคิด กลุ่มสาวมหาลัยที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามมองมาที่มินาโฮะและคุยกัน
ขนาดเพศเดียวกันยังบอกว่าน่ารัก เซอิจิที่ได้ยินบทสนทนาก็คิดเลยว่าไม่ต้องพูดถึงคนต่างเพศหรอก น่าจะมากกว่าที่ผู้หญิงคิดอีก
“อะ แล้วผู้ชายที่อยู่ด้วยกันนี่ แฟน?”
“ไม่สิ ดูอย่างไงก็แค่พี่น้องไม่ใช่รึไง”
“เอ๋! แต่ผู้ชายไม่เห็นจะดูดีตรงไหนเลย”
“แต่ก็ไม่ถึงขั้นกับธรรมดานะ ถึงจะต่างกันบ้าง แต่ดูอย่างไงก็แค่พี่น้องแหละ”
(พี่น้องโว้ย ! ขอโทษ ที่ไม่ค่อยคล้ายกันนะ! เพราะอะไรหลายๆอย่าง)
เซอิจิอารมเสียเล็กน้อย ขณะทานข้าวกับน้องสาวที่น่ารักพอขนาดที่เป็นนางแบบได้ เพราะถูกคนอื่นเปรียบเทียบ แต่เรื่องแบบนี้เขาคิดอยู่แล้วว่ามันต้องเกิดขึ้นแน่ๆเลยก็กลับมาสนใจที่อาหารอีกครั้ง
“เธอนี่ น่ารักจริงๆแหละนะ”
“อ อะไรเล่า! จู่ๆก็!”
มินาโฮะที่ถูกบอกว่าน่ารัก หน้าแดงขึ้นมาทันที
เซอิจิพูดขึ้นมาขณะที่กำลังกินแฮมเบิร์ก
“ไม่สิ พักนี้ไม่เคยได้คุยกับเธอด้วย ได้แค่มองหน้าเธอตอนที่เจอกัน ไม่รู้ว่าเธอทำอะไรบ้าง ไม่รู้ทำไมพักนี้ถึงดูเป็นใหญ่ขึ้น แต่ว่าเพราะเรื่องของวันนี้แหละ เลยคิดว่าน้องสาวของชั้นเนี่ยน่ารักจริงๆ”
“อะ….อะไรเล่า…..รู้สึกไม่ดีเลย!”
“ช่วยหน่อยเถอะ วันนี้ช่วยใจดีกับชั้นหน่อยนะ ชีวิตของพี่ชายตอนนี้ ตกต่ำไปกว่า0สะอีก…”
เวลาเดินไปเรื่อยๆขณะที่ทั้ง2พูดคุยกัน ก็ทานอาหารกันเสร็จแล้ว
ตอนนี้เหลือแค่รอพาร์เฟต์ที่มินาโฮะสั่งไปมาเสิร์ฟเท่านั้น
“แล้วก็…พ พี่น่ะ….”
“หืม? อะไรงั้นเหรอ? ถ้าเงินล่ะก็ไม่มีนะ”
“รู้แล้วน่า…. พี่น่ะตัดใจไปแล้วหรอ”
“หืม? อ้อ….เรื่องยามาเสะซังสินะ… นั่นสิน้า….”
(อยู่ดีๆเธอเปลี่ยนวิธีเรียกอีกแล้ว รอบนี้มาถามเรื่องตัดใจสินะ….ยัยนี่สนใจเรื่องความรักของเราด้วยหรอเนี่ย)
เซอิจิตอบไปขณะคิดถึงเรื่องเธอ
การที่พูดคุยกับมินาโฮะได้คงเป็นเพราะเรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้
เซอิจิตัดสินใจลองถามเธอออกไป
“นี่ ชั้นขออะไรอย่างนึงได้มั้ย?”
“อะไรอีกล่ะ? ถ้าจะให้แนะนำผู้หญิงให้ ไม่ไหวหรอกนะ”
“ถามหน่อยเถอะ ทำไมที่ผ่านมาถึงทำตัวห่างเหินกันแบบนั้นล่ะ”
“หา? ก็ไม่ได้ห่างเหินกันสักหน่อย”
มินาโฮะตอบมาด้วยท่าทางใจเย็น
เซอิจิที่ไม่คิดอย่างนั้น ถามเธออีกรอบ
“ไม่สิ เดี๋ยวนะ! ที่ผ่านมาเธอเย็นชากับชั้นตลอดเลยไม่ใช่รึไง!”
“ฉันไม่ได้คิดแบบนั้นสักหน่อย”
“ไม่เคยพูดกับชั้นสักคำด้วย!”
“นายก็ไม่ได้พูดกับฉันเหมือนกันนิ”
“แถมไม่เคยอาบน้ำด้วยกั…. อึก!!”
“นั่นมันแน่นอนไม่ใช่รึไงยะ!”
เซอิจิพูดแบบนั้นออกไปทำให้มินาโฮะหน้าแดงและประเคนฝ่ามือให้1ดอก
เซอิจิลูบแก้มตัวเองที่โดนตบด้วยน้ำตาคลอ
“ธ เธอ….อย่าใช้มือสิ โถ่…. ชีวิตพี่จบแล้ว”
“เพราะพี่พูดอะไรเหมือนกับโรคจิตออกมาไง!”
เซอิจิลูบแก้มและกลับลงไปนั่ง
เวลานั้น พนักงานก็นำของหวานมาเสริฟ
เซอิจิที่กำลังคิดว่ามีใครมองมารึป่าว พนักงานคนนั้นก็วางพาร์เฟต์และเดินจากไป
เซอิจิกำลังสงบสติ แต่ก็ได้ยินเสียงอะไรบางอย่างเล็ดเข้ามา
“นี่ ว่าแล้วเชียว2คนนั้นน่ะ…”
“ต้องกำลังบอกเลิกกันแน่ๆเลย ดูสิมีตบหน้ากันด้วย ฉันทายถูกเพราะงั้นเลี้ยงข้าวด้วยน้า”
(อาา นั่นคือที่คนอื่นคิดเหรอ..)
เซอิจิกับมินาโฮะพูดคุยกัน ในขณะที่ลูกค้าคนอื่นและพนักงานกำลังเข้าใจผิดอยู่
“งั้น ชั้นก็แค่คิดไปเองสิ ว่าเธอทำตัวห่างเหิน”
“ใช่สิ ถึงกับนาย ฉันจะรู้สึกไม่ค่อยดีด้วยแต่ก็ไม่ได้เกลียดสักหน่อย ถ้าจะให้จัดอันดับล่ะก็ ชอบประมาณกับนาฬิกาล่ะมั้ง”
“อันดับแบบไหนกันฟร่ะ? อันดับของชั้นมันต้องต่ำแน่ๆ! อะไรคือประมาณน่าฬิกาฟร่ะ!”
จากที่ได้ฟัง เซอิจิโล่งใจที่รู้ว่าไม่ได้ถูกเกลียด
ระหว่างที่ดูมินาโฮะทานพาร์เฟต์อย่างน่าอร่อย เซอิจิก็คิดว่าอยากจะคุยกับเธอทุกๆวันมากกว่านี้อีก
TL: เรือน้องสาวแรงมาก