[นิยายแปล] มีชีวิตสโลว์ไลฟ์ด้วยพร「สร้างหมู่บ้าน」 สุดแกร่ง - ตอนที่ 7
Ch.7 – เธอเกลียดเขาขนาดนั้นเลย…?
Provider : Paradox
ผมได้เตรียมใจพร้อมที่จะเผชิญกับกลุ่มก็อบลินและยกดาบที่ผมนำจากบ้านเพื่อเผื่อสำหรับเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นมา
“ผมจะเป็นคนสู้กับพวกมันเอง…”
“ท่านลุคคะ!?”
เหมือนกับที่เคยบอกไปว่าตอนเด็กผมเคยได้ฝึกวิชาดาบมาก่อน เพราะว่าในตอนนั้นผมยังมีโอกาสสูงที่จะได้รับพรที่เกี่ยวกับดาบ ดังนั้นผมเลยได้ฝึกวิธีการใช้ดาบอย่างถูกต้องและมีอย่างมีประสิทธิภาพ
แต่สุดท้ายผมก็ไม่ได้รับพรแบบนั้นมา แต่น้อยสิ่งที่ผมฝึกมาก็ไม่ได้สูญเปล่าทั้งหมดหรอก โดยเฉพาะตอนนี้ ถ้าเคยเรียนวิชาดาบมาก่อนยังไงก็ดีกว่าไม่เคยเรียนมาก่อนอยู่แล้ว
“กุเกี๊ยเกี๊ยเกี๊ย!!”
ก็อบลินตัวหนึ่งได้ปีนข้ามกำแพงมาแล้วและกำลั่งวิ่งตรงไปที่หมู่บ้าน
ดูจากกำลังกายของมันแล้วน่าจะพอๆกับผม แต่ต่างจากผมที่เจ้านี่ดูจะไม่มีอาวุธ
ดังนั้นผมน่าจะพอจัดการมันได้แหละ…!
“ย้ากกกกก!”
ผมเปล่งเสียงออกมาพร้อมกับพุ่งเข้าใส่ก็อบลิน
“เกี๊ย!?”
“ห๊ะ!?”
แต่ก่อนที่จะพุ่งเข้าไปถึงตัวก็อบลิน ก็ได้มีลูกศรที่ทำจากน้ำแข็งลอยมาจากที่ไหนก็ไม่รู้พุ่งเข้ามาโดนหัวของก็อบลินเข้าอย่างจัง
“ไม่ได้เจอกันพักหนึ่งเลยนี่นา ลุค”
พอผมหันหน้าไปมองทางแหล่งที่มาของเสียงนี้ ผมก็เห็นเด็กผู้หญิงผมสีฟ้าคนหนึ่งที่กำลังนั่งอยู่บนกำแพง
“เซเลน!?”
ผมรู้จักเธอคนนี้ดีเลย
ที่ผมรู้จักเธอเป็นเพราะเธอเป็นลูกสาวของตระกูลบาซุราตะ ซึ่งเป็นตระกูลที่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับตระกูลอัลเบิร์ตมาเป็นเวลายาวนาน ถ้าจะพูดให้ชัดกว่านี้ก็คือเธอที่เป็นลูกสาวของตระกูลบาซุราตะเป็นอดีตคู่หมั้นของผมล่ะนะ
เธอเคยมาเยี่ยมที่ปราสาทของท่านพ่อหลายครั้ง และในตอนนั้นพวกเราก็ได้ใช้เวลาในการเล่นด้วยกัน
เธอมีอายุมากกว่าผม 3 ปี เลยทำให้เมื่อเทียบกับผมที่ยังดูเป็นเด็ก เธอดูมีความเป็นผู้ใหญ่มากกว่ามาก ถึงแม้ว่าเธอจะดูไม่ได้โตขึ้นมากตั้งแต่ครั้งที่ได้เจอล่าสุดก็เถอะ
ที่การแต่งงานของพวกเราถูกยกเลิก เป็นเพราะว่าผมไม่ได้เป็นผู้สืบทอดของตระกูลแล้วและการที่พรของผมไม่ได้ดีที่พอที่จะรักษาตำแหน่งเอาไว้ได้ ทำให้ผมไม่มีคุณสมบัติพอและถูกส่งไปยังดินแดนรกร้าง และกลับกันกับผม ราอุล ผู้ที่ได้รับพรที่สืบทอดมาจากท่านพ่อ ก็ได้กลายเป็นผู้สืบทอดของตระกูลและเป็นคู่หมั้นของเซเลนแทน
จะว่าไปแล้วทำไมเธอถึงมาอยู่ที่นี่ได้ละเนี่ย!?
“ศรน้ำแข็ง”
“““กุเกี๊ยยยย!?”””
ศรน้ำแข็งที่เซเลนได้ยิงออกมาได้พุ่งชนและจัดการก็อบลินตัวต่อไปที่กำลังจะปีนขึ้นมาบนกำแพง
เพียงเวลาไม่นาน กลุ่มก็อบลินก็ถูกล้างบางจนหมดเกลี้ยง
“ว้าว ดูเหมือนว่านายจะโตขึ้นเยอะเลยนะ ตั้งแต่ที่เราเจอกันครั้งล่าสุดก็เพิ่งผ่านไปแค่ 2 ปีเองสินะ”
เซเลนก็ได้เดินเข้ามาหาพวกเราด้วยท่าทางสบายๆ เหมือนกับว่าที่นี่ไม่เคยเกิดการต่อสู้กับมอนสเตอร์มาก่อน
“อืมก็คงอย่างนั้น ว่าแต่ทำไมเธอถึงมาอยู่ที่นี่ได้ล่ะเนี่ย”
“ก็เพราะว่าฉันหนีออกจากบ้านมาน่ะสิ”
“ห๊ะ!?”
หลังจากที่ท่าอะแฮะๆและแลบลิ้นออกมาอย่างน่ารักเธอก็พูดเรื่องที่น่าตกใจออกมาถึงขนาดที่ผมเกือบจะสลบไป
“เอ่อ.. คงจะชัดเจนกว่าถ้าบอกว่าฉันได้ตัดขาดกับตระกูลไปแล้วล่ะนะ”
“แบบนี้ไม่แย่หรอกเหรอ!? แล้วทำไมเธอถึงทำแบบนี้ล่ะ แล้วที่เธอจะต้องหมั้นกับราอุลล่ะจะทำยังไง”
“นั่นก็ต้องถูกยกเลิกแหงอยู่แล้วน่ะสิ”
“ห๊าาาาา”
แม้ตอนนี้ผมจะช็อกจนเกือบหัวใจวายตาย แต่เซเลนก็บอกเหตุผลกับผมต่ออย่างไม่ใยดี
“ฉันขอยอมตายดีกว่าถ้าจะต้องแต่งงานกับไอผู้ชายแบบนั้น แต่ฉันก็ขอตัดขาดกับตระกูลดีกว่าที่จะต้องตาย เข้าใจง่ายดีใช่ไหมล่ะ”
“เธอเกลียดเขาขนาดนั้นเลย…”
พอมาลองคิดดูแล้ว มันคงเป็นเรื่องปกติที่จะเกลียดการถูกจับคลุมถุงชน
ซึ่งเป็นเรื่องที่เกิดเพราะเห็นแก่ประโยชน์ของดินแดนของพวกเรา ทำให้พวกเราที่เป็นบุตรของขุนนางถูกบังคับให้แต่งงานกับคนที่พวกเราไม่ได้รัก
สำหรับผมแล้ว ผมก็ไม่ได้รู้สึกต่อต้านกับการถูกคลุมถุงชนในครั้งนี้ซักเท่าไหร่ บางทีอาจจะเป็นเพราะผมโชคดีที่ได้ถูกจับคู่กับผู้หญิงที่มีเสน่ห์แบบนี้ก็ได้
“อืมก็พอเข้าใจอยู่แหละ ผมคิดว่าเธอจะไม่ได้คิดมากกับเรื่องการแต่งงานซักอีก… แต่ผมควรที่จะรู้ว่ามันเป็นเรื่องใหญ่สำหรับผู้หญิงที่จะถูกบังคับให้แต่งงานกับคนที่พวกเขาไม่ได้รักสินะ”
“หืม นายเข้าใจอะไรผิดไปรึเปล่าเนี่ย… ฉันปฏิเสธที่จะแต่งงานกับราอุลก็จริงอยู่… แต่ถ้าเป็นนาย…ฉันก็ไม่ได้สน….”
“เมื่อกี้พูดว่าอะไรนะครับ”
ระหว่างที่พูดเสียงของเซเลนก็เบาลงเรื่อยๆจนผมไม่ได้ยินอะไรเลย
“ฉัน! ฉันบอกว่า-”
“หยุดก่อนนะค้าาาา!”
““!?””
ทันใดนั้นมิเลียก็ได้ตะโกนขึ้นมาขัดการสนทนาของพวกเรา
“ดิฉันก็อยู่ที่นี่เหมือนกันนะคะ พวกคุณจะพูดคุยกันโดยที่ไม่มีดิฉันได้ยังไงกันคะ”
“ธ-เธอคือใครกัน”
“ดิฉันก็คือชาวบ้านคนแรกของท่านลุคยังไงล่ะคะ”
“ชาวบ้านคนแรก…..?”
เซเลนเอียงศรีษะของเธอ
“ใช่แล้วค่ะ เพราะที่นี่คือหมู่บ้านของท่านลุคยังไงล่ะคะ”
“อ๊ะ! จริงด้วยว่าแต่ที่นี่มันเกิดอะไรขึ้นน่ะ ตอนแรกฉันก็กังวลอยู่ที่นายจะต้องถูกส่งไปพัฒนาดินแดนรกร้าง แต่…ทั้งนั่น หอสังเกตการณ์ กำแพง บ่อน้ำ และยังลานเพาะปลูกนั่นอีก นี่พวกนายสองคนสร้างของพวกนี้เองทั้งหมดเลยเหรอ”
ในขณะที่มองไปรอบตัว เซเลนก็ได้ถามคำถามออกมา
“อืมม… ผมคิดว่าถ้าแสดงให้ดูน่าจะเข้าใจได้ง่ายกว่าละนะ”
“แสดงให้งั้นดูเหรอ”