[นิยายแปล]ครูผู้กล้า - ตอนที่ 16
Ch.16 – 「จ้าวปีศาจเยี่ยมชมสถาบันวิจัยเวทมนตร์」
Provider : จอมมารออกเดท
Chapter 16 – จ้าวปีศาจเยี่ยมชมสถาบันวิจัยเวทมนตร์
วัดถัดมา
พวกเราเป็นนักเรียนกลุ่มแรกที่ได้รับอนุญาติให้เยี่ยมชมโรงเรียนเวทย์ขั้นสูง
พวกเราที่เป็นดั่งหัวกระทิของโรงเรียนและอาจารย์ทุกคนเองก็มาเยี่ยมชม โรงเรียนชั้นสูงได้ซึ่งตั้งอยู่ในศูนย์กลางของมิลเดียน่า
เนื่องจากโรงเรียนฝึกทหารเองก็อยู่ใกล้ๆกับกรมทหาร ดังนั้นพื้นที่ส่วนใหญ่คนทั่วไปเข้าไม่ได้ ดังนั้นก็เลยใช้เวลาสักพักกว่าจะถึงศูนย์กลางของเมือง
แล้วหลังจากนั้นเพียงหนึ่งชั่วโมงเราก็มาถึง ขณะที่มองอยู่จากด้านนอกอาคาร ก็กวาดสายตามองพื้นที่โดยรอบ
อาคารซึ่งมีพื้นที่ขนาดใหญ่เต็มไปด้วยบรรยากาศอันศักดิ์สิทธิ์นั้นรายล้อมอยู่ มีเสาจำนวนมากเป็นฐานของอาคาร
หลังจากที่อาจารย์นำเข้าไปในอาคารแล้ว ก็เจอเหล่าคนธรรมดามากมายอยู่ภายใน นี่เป็นส่วนหนึ่งของอาคารที่เปิดให้เข้าชมแบบสาธารณะ ตอนกลางวันผู้คนเลยหนาแน่นหน่อย
ภายในตัวอาคารเองก็มีเครื่องมือต่างๆจัดแสดงเกี่ยวกับเวทมนตร์อยู่ด้วย ซึ่งนั่นถูกบรรจุภายในเคสและมีวงเวทย์ป้องกันหลายชั้น
เนื่องจากได้รับเวลาให้ไปเดินชมรอบๆได้ ผมเองจึงเดินไปรอบๆอาคารจนกระทั่งไปพบกับสิ่งหนึ่งสะดุดตาเข้า
ข้างในนั้นมีเคสที่มีจี้ห้อยคอลวดลายซับซ้อนอยู่ ตรงเคสมีป้ายระบุว่า『จี้ห้อยคอของวิสเคานต์』
「ถ้าหากไปแตะต้องเจ้านั่นจะโดนสาปเอาก็ได้นะ」
「อุหวาาาาา?!」
จู่ๆก็โดนผลักจากด้านหลังเกือบหัวกระแทกกับเคส หลังจากหันไปมองด้านหลังก็พบกับเอลฟ์สาวสวยกำลังยิ้มอยู่
「ลิซ ได้โปรดอย่าทำแบบนั้นสิครับ มันไม่ดีต่อใจผมเลยนะ」
「น่าไม่เอาน่า ก็พอมองไปรอบๆแล้วเจอกับทีโอคุงกำลังสนใจจี้ต้องสาปก็เลยคิดว่าจะเป็นอันตราย.」
「ต้องสาป? เอ่อมันก็ดูเหมือนจี้ธรรมดานะครับ แต่ว่าแค่ดูหรูหราเท่านั้นเอง…」
「อืม อืม ก็อดีตมันเป็นจี้ต้องสาปน่ะสิ พลังของคำสาปมันแกร่งมากจนทำให้เจ้าของแต่ละคนตกอยู่ในความทรมาน แสนเข็ญ อย่างไรก็ตามตอนนี้โดนเวทย์ศักดิ์สิทธิ์ผนึกไว้อยู่ อดีตเจ้าของจี้นี่นั้นอยู่ในสถาบันเวทย์ชั้นสูงและหลังจากกลับสู่สภาพปกติได้ก็เลยเอามาวางไว้ที่นี่ยังไงล่ะ」
เป็นเรื่องราวที่น่าสนใจดีนะ
「นี่เป็นครั้งแรกที่ทีโอคุงได้มายังโรงเรียนเวทย์ชั้นสูงของมิลเดียน่าเหรอ? ถ้างั้นฉันเป็นไกด์ให้ก็ได้น้าาถ้าต้องการอะนะ! ให้ฉันพาไปดูรอบๆเถอะเนอะ」
「ก็ถ้าเป็นไปได้ก็ขอรบกวนด้วยครับ」
「เอาล่ะถ้างั้นก็ไปกันเถอะ! ถ้างั้นก็ไปดูอะไรน่าสนใจๆกันดีกว่านะ?」
ลิซจับแขนผมและลากผมไปทั้งๆยังงั้น
นอกจากไอเท็มต่างๆแล้วเช่นจี้ต้องสาปก่อนหน้านี้เอง แล้วยังมีกระทั่งดาบศักดิ์สิทธิ์ที่สร้างมาจากพลังเวทย์
หลังจากถูกพาไปรอบๆและดูสิ่งต่างๆนาๆแล้วก็ถูกพาไปยังห้องโถงใหญ่
「ทีโอคุงค่อนข้างคุ้นเคยกับเวทย์ใช่ม้าาา?」
「ครับ ก็พอได้ประมาณหนึ่ง」
「ถ่อมตัวเกินไปแล้วน้า ทีโอคุง? มนุษย์ธรรมดาที่ไหนจะใช้เวทย์ระดับ 10 ได้กันล่ะ….หรืออยากจะบอกว่าที่ฉันใช้ได้แค่เวทย์ระดับ 7 ก็เต็มกลืนแล้วดูเหมือนพวกงี่เง่างั้นเหรอ…?」
「ไม่ๆ ไม่ใช่แบบนั้นเลยครับ ผมเชื่อจริงๆนะว่าลิซนะเก่งมากเลยล่ะ สามารถสร้างบาเรียเวทย์ระดับนั้นได้ในพริบตานั่นน่าทึ่งมากเลยนะครับ」
สีหน้าของลิซไม่ได้ดูดีขึ้นเลยแม้จะพูดถึงเรื่องการสอบก่อนหน้านี้ก็ตาม
「ถ้าแค่ระดับนั้นเอลฟ์ทุกคนก็สามารถใช้ได้นะ…รู้ไหมว่าฉันลำบากขนาดไหนน่ะกว่าจะทำแบบนั้นได้…จริงๆแล้วฉันไม่ใช่คนที่มีพรสวรรค์อะไรแบบนั้นเลยนะ?」
ไม่มีพรสวรรค์? เอาจริงๆผมไม่ได้คิดแบบนั้นเลยด้วยซ้ำ
หากไปเทียบกับจูเลี่ยนก็เอามาเทียบกันไม่ได้หรอกเพราะนั่นคือเผ่ามังกรที่มีพลังเวทย์ในตัวสูงมากอยู่แล้ว
และอีกอย่างไม่ต้องเอาไปเทียบกับผอ.เลย ชายคนนั้นเป็นถึงหัวหอกนำทัพในดินแดนทางใต้และอายุเองก็ไม่ใช่เล่นๆเลยด้วย เธอที่เพิ่งเกิดมาได้ไม่นานอย่าเอาไปเทียบเด็ดขาด
「ผมไม่คิดเช่นนั้นหรอกนะการเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับคนอื่น มันไม่ใช่ผลดีต่อตัวลิซเองเลย」
「…แต่อย่างน้อยฉันก็ต้องหมั่นเพียรอยู่เสมอ…」
「ลิซครับ แม้ว่าจะต้องใช้ความพยายามเพื่อเรียนรู้สิ่งต่างๆ แต่ว่ามันก็ต้องใช้เวลาเหมือนกัน ตอนนี้เธอเองก็อายุยังน้อยอยู่เลยนะครับ เพราะฉะนั้นให้เวลาให้ตัวเองได้เติบโตบ้างนะครับ」
「หาาาา! ที่ให้กำลังใจกันก็ดีใจอยู่หรอกแต่วิธีพูดแบบนั้นมัน……นี่ทีโอคุงไปเอาคำพูดของคุณปู่มาเหรอ?」
นี่ผมบ่นเกินไปรึเปล่าเนี่ย? บางทีการพูดของผมมันดูเหมือนคนแก่ขนาดนั้นเลยสินะ ยังไงก็ตามช่างเรื่องนั้นไปก่อน
「ยิ้มไว้เถอะนะครับ เป็นถึงเอลฟ์เพียงคนเดียวที่ได้เป็นนักเรียนพิเศษ」
TN:ขอเปลี่ยนจากนักเรียนทุนเป็นนักเรียนพิเศษนะครับ
「อืมมม นั่นสิน้าาาา ก็หมายถึงปกติแล้วใครๆที่มาถึงจุดนี้ได้ก็ควรจะมีความสุขกับมันสิเนอะ」
「ไม่ใช่ใครที่ไหนก็ได้จะได้มาเป็นนักเรียนพิเศษได้ง่ายๆใช่ไหมละครับ?」
「อืม ปกติก็เป็นแบบนั้นแหละ… แต่ว่าสำหรับฉันแล้วไม่ได้ครึ่งหนึ่งของพวกเธอเลย…」
「ลิซ?」
ทันใดนั้นลิซก็ก้มหน้าลงและพึมพำราวกับกำลังพูดกับตัวเอง แต่ทันใดนั้นก็เงยหน้าขึ้นและเริ่มหัวเราะ
「อ้าาาา! ทำบ้าอะไรกันเนี่ยตัวฉัน! มันควรจะเป็นการเดทที่สนุกสนานน้าาา แต่ดูเหมือนว่าฉันเองเป็นคนทำลายบรรยากาศ ขอโทษด้วยน้าาาา ถ้างั้นก็ไปดูรอบๆกันต่อเถอะ?」
อารมณ์เปลี่ยนเร็วจังเลยนะ เล่นเอาตามไม่ทันเลย
ลิซฟื้นตัวมาอย่างรวดเร็วและเริ่มดึงแขนของผมขณะที่อธิบายไประหว่างเดิน
「ที่นี่เป็นอาคารสำหรับทำวิจัย เป็นสถานที่ไว้ใช้ค้นคว้าเกี่ยวกับคัมภีร์โบราณและเอกสารต่างๆเพื่อให้เข้าถึงแก่นแท้ของเวทมนตร์ได้มากขึ้น ส่วนนั่นคืออาคารทดสอบหลังจากไปลงทะเบียนแล้วก็สามารถไปทดลองเวทย์เฉพาะตัวของตัวเองได้」
เมื่อเราเดินไปตามโถงทางเดินก็เห็นประตูบานหนึ่งชวนสะดุดตา
「ดูเหมือนว่าที่นี่จะเป็น ‘ไม่อนุญาติให้คนนอกเข้า’นะครับ」
「อืมมม โดยปกติจะไม่ได้รับอนุญาตินั่นแหละน้าาา …แต่ว่าาาาา…」
ลิซหยิบกุญแจออกมาจากเนินอกของเธอและเปิดประตูเข้าไป
「เอาล่ะ ทีโอคุง ถ้าอย่างนั้นไปสำรวจพื้นที่ๆไม่รู้จักไปด้วยกันเถอะน้าาา!」
「เดี๋ยวนะครับ ไม่ใช่ว่าบนประตูเขียนไว้ว่า‘ห้ามเข้า’เหรอครับ」
「ไม่ต้องกังวลไปหรอกน่าาาาเรื่องเล็กน้อยแบบนั้นน่ะ!! ไม่เป็นไรก็ไม่เป็นไรไงถ้าเค้าบอกอะนะ!」
ช่างเป็นเด็กที่เกเรซะจริงๆ…
หลังจากก้าวเข้ามาในห้องก็อดตกใจไม่ได้กับสภาพแวดล้อมโดยรอบ
ภายในห้องที่คับแคบมีคริสตัลที่สูงเท่าผู้ใหญ่คนหนึ่งตั้งตระหง่านอยู่ ส่องแสงสีน้ำเงินพร้อมกับโซ่ที่พันธนาการรอบๆพร้อมกับสลักวงเวทย์ผนึกระดับสูงเอาไว้
「นี่คือคริสตัลเวทมนตร์ที่จะถูกเปิดผนึกในช่วงสงครามเท่านั้น รู้ไหมว่าทำอะไรได้นะ?」
「…ช่างเป็นเวทย์ผนึกที่ทรงพลังอะไรขนาดนี้… เมื่อถูกแปลงเป็นเวทมนตร์แล้วอาจจะเทียบได้กับเวทย์ระดับ 13 เลยนะครับ… เมื่อพูดถึงเรื่องทางด้านพลังเวทย์แล้วมันที่สุดของที่สุดเลยนะ」
「แล้วสังเกตเห็นอะไรอีกบ้างล่ะ?」
「ผมคิดว่าเวทย์ผนึกนั้นถูกใช้ผ่านโดยโซ่เส้นนี้เท่านั้น อย่างไรก็ตามปัญหาคืออยู่ที่ตัวคริสตัลนี้ เห็นได้ชัดเจนเลยว่าจะต้องมีอะไรสักอย่างเข้ามาแทนที่….ซึ่งนั่นเป็นอะไรที่เหนือไปยิ่งกว่าเวทมนตร์อีก นี่คืออะไรกันแน่…? ไม่ใช่ว่า…เป็นพวกสปิริตงั้นเหรอ ดูเหมือนว่าจะมีพลังมากกว่านั้นอีก…พลังเวทย์ระดับนี้มันเพียงพอที่จะทำให้ทุกคนตัวแข็งกันเลยทีเดียวนะครับ…」
โครตน่าสนใจเลยแหะ
ผมจ้องมองไปยังคริสตัลอย่างไม่ตั้งใจและเริ่มตั้งสมมุติฐานเกี่ยวกับสิ่งต่างๆ
ถ้าเป็นไปได้ก็อยากจะแตะมันอยู่หรอก…แล้วก็ถ้าเป็นไปได้อยากจะทำลายมันเพื่อค้นหาสิ่งที่อยู่ภายในนั้น
「ดูเหมือนว่าทีโอคุงเองก็มีความรู้เยอะมากเลยนะ」
ก่อนที่จะรู้สึกตัวลิซก็ยืนพิงประตูไปแล้ว
「ผมไม่คิดว่าเรื่องแบบนี้มันดูพิเศษตรงไหนเลยนะครับ?」
「นี่ทีโอคุง เป็นไปได้ไหมว่านายมาจากอาณาจักร แชร์โลว์ ดิลูน่า?
「อาณาจักรเวทย์อันยิ่งใหญ่นั่นเหรอครับ…? ก็อย่างที่เคยพูดไปก่อนหน้านี้ครับผมมาจากแกรนเด้น.」
「นี่ทีโอนายรู้ไหม? แกรนเด้นน่ะเป็นแหล่งที่ศึกษาเกี่ยวกับวิชาดาบโดยเฉพาะเลยนะ แต่ว่าสำหรับเวทมนตร์แล้วนั้นไม่ได้เรื่องเลยหากเทียบกับมิลเดียน่า」
… เธอพยายามจะพูดอะไรกันแน่?
「จริงๆแล้วมันน่าแปลกใจมากเลยล่ะ ที่นายมาจากที่แห่งนั้นแต่ดันมีความรู้เกี่ยวกับเวทมนตร์มหาศาลขนาดนี้.」
「เอ่อ ก็นั่นเป็นอะไรแบบว่าฝึกด้วยตัวเองอะครับ」
「เอาล่ะแล้วถ้างั้นปัญหามันอยู่ตรงไหนล่ะจ้ะ? รู้ไหมว่าใครที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในการเข้าต่อสู้ร่วมกับพลโทลูดิโอ้ ในสงครามครั้งก่อนกับอาณาจักรมังกรซีนัน ตามคำบอกใบ้แล้วบุคคลๆนั้นได้รับขนานนามให้เป็นวีรบุรุษในการต่อสู้ในครั้งนี้เลยนะ」
…แย่ละสิ…
ผมเองก็ไม่ค่อยมีความรู้เรื่องประวัติศาสตร์เท่าไร โดยเฉพาะเกี่ยวกับเหตุการณ์สมัยใหม่แล้ว
「เนื่องจากทีโอเองก็เป็นคนที่ค่อนข้างบ้าการต่อสู้ แล้วก็เป็นพวกที่คลั่งไคล้เรื่องราวของผู้กล้า…. ดังนั้นตอบได้ไหมว่าใคร?」
「อ่าาเอ่อ…」
「ล้อเล่นน่าาาา! นี่แกล้งกันแรงเกินไปเหรอเนี่ย?」
「หือ?」
ในขณะที่กำลังตอบผมเอง ลิซก็ยังคงหัวเราะต่อไป
「ทีโอคุงตอบไม่ได้จ้าา—-」
「แล้วลิซละรู้เหรอ?!」
「นายต้องไปเรียนเกี่ยวกับประวัติศาสตร์มากกว่านี้น้าาาทีโอคุง! แม้ว่าสิ่งที่ฉันเพิ่งพูดไปจะเป็นเรื่องราวที่ผ่านมาไม่กี่ปีนี่เอง แต่ทีโอคุงก็ยังไม่รู้เหรอเนี่ย?」
「ขอโทษด้วยครับที่ไม่รู้.」
「เฮ้อ! ถ้าอย่างนั้นทีโอคุงมาเรียนด้วยกันม้าาา!! ไม่ว่าจะเป็นเวทมนตร์หรือประวัติศาสตร์หรือแม้แต่กายภาพบำบัดรวมถึงวิชาสุขศึกษาก็ด้วยน้าาา—」
เมื่อมองไปยังลิซที่กำลังหัวเราะอยู่นั้นก็อดคิดไม่ได้เลยว่าเธอเนี่ยเหมือนปีศาจเลยนะ แม้ว่าผมจะรู้ว่าเธอเองก็ไม่ได้มีเพียงแค่ด้านที่สดใสเท่านั้น แต่ดูเหมือนว่ามันอันตรายเกินไปถ้าหากคบค้าสมาคมกับเธอมากเกินไป
「นอกจากนี้เรื่องจริงที่ว่าเกี่ยวกับคริสตัลนี่นั้น ผอ.เป็นคนสร้างขึ้นมาน่ะ」
「หืออออ?」
เพราะสิ่งที่เธอพูดนั้นไม่คาดคิดทำให้ผมส่งเสียงออกมาโดยไม่ได้ตั้งใจ
「ตามกฏการใช้ทั่วไปแล้ว การจะใช้『เวทย์เกินคาด』 นั้นถูกห้ามใช้ในจักรวรรดิ เนื่องจากการใช้งานมันอาจจะทำให้เกิดภัยพิบัติขึ้นได้ นั่นก็เช่นเดียวกับพลโท คริสตัลนี้และตัวของลูดิโอ้เองก็เชื่อมต่อกัน ด้วยพลังเวทย์ขนาดนี้นั้นทำให้ใช้ได้เฉพาะแค่ช่วงสงครามเท่านั้น」
「หือ ดังนั้นมันเลยมีกลไกอยู่ในตัวงั้นเหรอครับ」
「เอาตามตรงเขาก็เปรียบเสมือนอาวุธสงครามเดินได้นั่นแหละ ตัวเขาเองก็ค่อนข้างจะพิเศษมากๆ นั่นเป็นเหตุผลว่าถ้าหากได้รับอนุญาติจากจักรพรรดิจึงจะปลดผนึกนี่ได้」
พลังเวทย์ที่ถูกผนึกนั้นเล็ดลอดออกมาจากคริสตัลราวกับไม่มีที่สิ้นสุดแม้ว่าจะถูกปิดผนึกอยู่ก็ตาม รู้สึกได้ถึงความน่าเกรงขาม แต่ว่าผมเองก็สนใจเหมือนกันถ้าทำลายออกมาแล้วจะปลดปล่อยพลังเวทย์ขนาดไหนออกมา
「แต่ว่าไม่กังวลหน่อยเหรอครับ? อาวุธที่แสนสำคัญเช่นนี้ดันอยู่ในห้องที่สามารถพังทลายได้ง่ายๆ」
「ไม่เป็นไรหรอกน่า ไม่เป็นไร ยังไงคริสตัลนี่ก็ไม่มีทางแตกแน่นอนไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม ยิ่งไปกว่านั้นหากคิดจะทำลายคริสตัลก็จะมีระบบเตือนภัยและเปิดใช้เวทย์ฉุกเฉินเพื่อป้องกันคนที่มาคิดจะทำลายคริสตัลด้วย.」
นั่นคือเหตุผลที่มันมาอยู่ในห้องแบบนี้สินะ แน่นอนว่าไม่จำเป็นต้องเฝ้าระวัง
「เอาล่ะ นี่ก็ได้เวลาแล้ว กลับกันเถอะ.」
เมื่อพูดถึงสิ่งนี้แล้ววันนี้ค่อนข้างประทับใจเลยล่ะ
「โอ้ ใช่แล้วก็เกี่ยวกับคำถามก่อนหน้านี้ คำตอบที่ถูกต้องก็คือ นายพล คลูส ดูราส เป็นอัศวินศักดิ์สิทธิ์ที่แข็งแกร่งที่สุดจากที่ๆทีโอคุงมาไงล่ะ แกรนเด้น」
ผมหยุดเดิน ทั้งหมดที่ทำได้ก็คือจ้องมองไปยังเธอและสิ่งที่ผมเห็นก็คือเธอจ้องมองมาทางนี้โดยยิ้มอยู่ตลอดเวลา
「กลับบ้านกันเถอะ กลับบ้านกันทีโอคุง」
เป็นอีกครั้งที่ผมโดนลากไปออกจากห้อง
เอาจริงแล้ว… เธอเป็นใครกันแน่..?
ยังไงก็เถอะต้องระวังให้มากขึ้นแล้วในอนาคต เมื่อคิดได้เช่นนั้นลิซก็หยุด
「ได้โปรดตั้งใจฟังด้วยนะ」
หลังจากทำตามที่เธอพูดผมก็เริ่มได้ยินเสียงของผู้ชายสองคนที่เหมือนจะเป็นเจ้าหน้าที่ของโรงเรียนเวทย์ชั้นสูง
「เปิดรับสมัครเอลฟ์หน้าใหม่?」
「ดูเหมือนจะเป็นเช่นนั้น เอลฟ์มากมากเริ่มเข้ามาที่นี่ไม่ว่าจะปีนี้หรือปีที่ผ่านมา หากเป็นเช่นนี้ตำแหน่งของเอลฟ์และมนุษย์อาจจะสลับกัน.」
「หมายถึงตำแหน่งสูงสุดอะไม่นานคงจะโดนพลโทแลมเบิร์ตเอาไปกินแน่นอนเลย」
「ข้าเข้ากับพวกนั้นไม่ได้หรอกนะก็รู้นี่! พวกนั้นนะใบหน้าก็คล้ายๆกันและเนื่องจากเชียวชาญเวทย์ด้วยพวกนั้นก็เป็นพวกขี้โม้ขนานใหญ่เลย.」
「พูดตามตรง บางทีก็อยากให้พวกนั้นหายๆไปบ้าง ไปตายซะไป」
หลังจากพูดคุยกับเรื่องน่ารังเกียจเหล่านั้นพนักงานก็เดินออกไป
「เป็นไงล่ะทีโอ นี่ละสถานการณ์ปัจจุบันตอนนี้ในมิลเดียน่า.」
「ค่อนข้างจะน่าตกใจเลยครับ….พวกเอลฟ์นั้นไม่ค่อยได้รับการต้อนรับนักหรอครับ?」
「หลายๆคนก็ไม่ค่อยรังเกียจพวกเรา แต่ดูเหมือนจะมีการเลือกปฏิบัติต่อพวกเหล่านักวิจัยและบุคลากรทางทหารน่ะ」
「นอกจากนี้ยังเป็นผอ.ที่เป็นถึงผู้บัญชาการทหารสูงสุดด้วยสินะครับ」
「ส่วนใหญ่ก็เป็นการตัดสินใจของรัฐบาลล่ะนะ ความคิดที่ว่าทุกอย่างเป็นไปตามระบบแต้มบุญไม่ได้เปลี่ยนไป พูดตามตรงตอนนี้มันเริ่มจะแพร่หลายมากขึ้นด้วยและก็ไม่มีใครที่แข็งแกร่งเท่าลูดิโอ้นั่นละ」
ดังนั้นจึงมีสถานการณ์แบบนี้แฝงอยู่ในเบื้องหลังด้วยสินะ
เนื่องจากมีเอลฟ์จำนวนมากในเมืองก็อยากจะให้เป็นมิตรกันไว้อยู่หรอกดูเหมือนว่าภาพรวมแล้วมันจะไม่ง่ายเลยนะ
「เอลฟ์นั้นได้รับการปฏิบัติเป็นพิเศษมากมายหลังจากสร้างพันธมิตรขึ้นมา นั่นก็เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้คนเป็นแบบนั้นฉันคิดว่างั้นนะ」
พันธมิตรและสันติภาพระหว่างเผ่าพันธุ์ แม้ว่าจะดูเหมือนไปได้ดีตลอดรอดฝั่ง แต่ดูเหมือนภายในนั้นเองก็มีสิ่งที่เน่าเฟะพอๆกัน เรื่องแบบนี้ไม่ว่าที่ไหนมันก็มีหมดเลยสินะ
พันธมิตรก่อตั้งขึ้นเมื่อ 100 ปีก่อน เพียงแค่ 100 ปี ในขณะที่พวกเราเผ่าปีศาจนั้นมันเป็นเพียงช่วงเวลาสั้นๆที่ให้ความรู้สึกเหมือนผ่านไปชั่วครู่ ยิ่งไปกว่านั้นเอลฟ์ที่มีชีวิตยืนยาวจะตระหนักดีถึงความสัมพันธ์ของพวกเขาก่อนจะมาเป็นพันธมิตรกับจักรวรรดิ
ไม่ว่ายังไงก็ตามอาจใช้เวลานานกว่าสำหรับมนุษย์ที่ชอบเลือกปฏิบัติกับบางสิ่งเป็นเวลานานและเอลฟ์ที่ถูกเลือกปฏิบัติก็ควรจะทำความเข้าใจซึ่งกันและกัน
「เอาล่ะทีโอคุง ถ้างั้นขอตัวน้าาาา」
「ครับ ไว้เจอกันไหมครับ」
「คิดไว้ด้วยล่าาาา ครั้งหน้าไปเดทไหนกันดีเนอะ!」
เอ่อ นั่นค่อนข้างเหนื่อยเลยล่ะ เวลาอยู่กับเธอแล้วรู้สึกเหมือนถูกดูดเข้าไปและจมกับบรรยากาศหนักอึ้งที่เธอชอบสร้างมาตลอดเลยนะสิ
…ถึงตอนนั้นก็คงไม่มีทางที่เธอจะคิดว่าผมมาจากประเทศทางทิศตะวันตก ในการเปรียบเทียบที่ผ่านมานั้นก็ดูเหมือนเธอจะสงสัยผมว่าเป็นศัตรูหรือเปล่า ถ้าแค่ความอยากรู้อยากเห็นก็ไม่ว่าอะไรหรอก แต่ว่าถ้าล้วงลึกมากขึ้นมามันจะเป็นปัญหา หากยิ่งรู้ว่าตัวจริงผมเป็นใคร หวังว่านั่นเป็นแค่เพียงความอยากรู้อย่างเดียวก็แล้วกัน
ถ้าเธอมาขวางทาง…มันจะเกิดอะไรขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการลบเธอหรือทำให้เธอกลายมาเป็นของผมด้วยกำลังทั้งหมดก็ไม่เกี่ยงกันแล้ว
ขณะที่คิดเกี่ยวกับเรื่องแบบนั้นก็เดินกลับไปที่โรงเรียน