[นิยายแปล]ครูผู้กล้า - ตอนที่ 14
Ch.14 – 「การพบกันของเหล่านักเรียนทุน」
Provider : จอมมารกับความสิ้นหวัง
Chapter 14 – การพบกันของเหล่านักเรียนทุน
เมื่อผมมาถึงที่ห้องเรียนที่ดูท่าว่าจะไม่ได้ใช้งานมานานนั้น ก็มีคนรอผมอยู่หน้าห้องก่อนหน้านี้แล้ว เป็นทั้งห้าคนที่ทนเวทย์ของผมได้ เช่นเดียวกับผู้อำนวยการลูดิโอ้
「โอ้ววว นั่น ทีโอนี่!」
「ทุกคนมากันครบแล้วสินะ แล้วก็ขอโทษด้วยที่ทำตัวน่ารำคาญนะครับ คุณผู้อำนวยการ」
「ช่างมันเถอะน่า ยังไงๆก็ลงเรือลำเดียวกันแล้วนี่นะ」
สิ่งที่ผมขอกับผู้อำนวยการก็คือให้รวบรวมเหล่านักเรียนที่ทนกับพลังเวทย์ของผมได้ ผมอยากได้ข้อมูลเกี่ยวกับทุกคน อยากจะถามเรื่องสำคัญกับพวกนั้นด้วยจึงให้มารวมตัวกัน
ผมเดินไปที่ท้ายห้องเรียนและนั่งลงอย่างสุภาพ เมื่อเห็นเช่นนั้นผู้อำนวยการลูดิโอ้ก็พูดขึ้น
「เหตุผลหลักๆที่ให้ทุกคนมารวมตัวกันที่นี่ในวันนี้ก็เพื่อจะให้ได้ใกล้ชิดกันมากขึ้น ก็อย่างที่ผมบอกกับทีโอดอร์เพื่ออนาคตอันสดใสจงทำให้ดีที่สุด ผมไม่สามารถไปสอนทีละคนแบบตัวต่อตัวได้ ดังนั้นก็เลยต้องทำแบบนี้」
「ขอโทษนะ พอดีฉันไม่ค่อยสนใจเรื่องนั้นหรอกค่ะ」
แม้ว่าเชาว์ร่าจะพูดจาเย็นชาขณะดูเล็บมืออตัวเอง แต่ผู้อำนวยการก็คงพูดต่อไป
「ไม่เอาน่าอย่าพูดแบบนั้นสิ ทุกคนที่นี่มารวมตัวกันเพราะได้เป็นนักเรียนทุนนะ ถ้างั้นได้โปรดรับสิ่งนี้ไปด้วย」
จากกระเป๋าหนังสัตว์เขาหยิบตราสัญลักษณ์ทองคำออกมา 6 อัน มันมีลวดลายซับซ้อนสลักไว้และมีสีเงินแวววาว ซึ่งน่าจะทำจากวัสดุมีค่าอย่างมาก
「นี่คือโลหะที่ถูกเรียกว่า 『 มากิน 』 (เหรียญเงินนำเวทย์) มันมีพลังเวทย์แบบพิเศษบรรจุไว้อยู่และต้องใช้คนสร้างที่มีทักษะสูงมากในการทำมันขึ้นมา เพิ่งได้คืนมาจากเหล่านักเรียนที่จบไปเมื่อปีที่แล้วนี่เอง ก็อย่างที่เห็นยังดูเหมือนใหม่เลยใช่ไหมล่ะ เจ้าโลหะนี่มันก็ค่อนข้างแพง—」
ผู้อำนวยการลูดิโอ้ยังคงอธิบายต่อไปขณะที่มอบตราสัญลักษณ์ให้กับทุกคน นี่คือสิทธิพิเศษที่นักเรียนทุนได้รวมถึงอธิบายถึงสิทธิอืนๆ
「เอาล่ะตอนนี้ก็อธิบายจบแล้ว วันนี้ก็เป็นวันเปิดภาคเรียนวันแรกถ้างั้นก็มาเริ่มต้นด้วยการแนะนำตัวแล้วกันนะครับ ถ้างั้นผู้ชายผมสีเพลิงตรงแถวหน้าได้โปรดแนะนำตัวเองด้วยครับ」
「ฮึบ!」
ชายหนุ่มผมสีเพลิงยืนขึ้นอย่างกล้าหาญแสดงความเคารพต่อผู้อำนวยการและมองไปยังผู้คนด้านหลัง
「ข้ามีนามว่า คีท เลอร์มิท เป็นบุตรชายคนโตของตระกูลเลอร์มิท ผู้ถือครองเพลิงศักดิ์สิทธิ์ มาหลายชั่วอายุคน ผลการสอบก็ผ่านมาได้อย่างไม่ต้องกังวลอะไร เนื่องจากข้าเชี่ยวชาญทั้งดาบและเวทมนตร์ ก็หวังว่าจะเป็นคู่ต่อสู้ในการฝึกซ้อมให้ใครต่อใครได้บ้าง ถ้างั้นก็ฝากตัวด้วย」
หลังจากปรบมือให้กับคำทักทายแสนจริงจังของเขาแล้วคนอื่นๆเองก็ปรบมือเช่นกัน ถัดไปก็เป็นสาวน้อยเผ่าจิ้งจอกสีทอง เธอยืนขึ้นพร้อมกับเริ่มแนะนำตัว
「สวัสดีค่ะ ชื่อของฉันคือ โรกะ โครุไลท์ ก็อย่างที่เห็นนั่นแหละค่ะ เป็นเผ่าจิ้งจอกเนื่องจากฉันเองก็เป็นนักเรียนทุนเช่นเดียวกัน ค่อนข้างมั่นใจเรื่องความสามารถทางกายภาพค่ะ แต่ว่าสำหรับเวทย์แล้วขอผ่านดีกว่า พร้อมประมือกับทุกท่านได้ทุกเมื่อ… ห้าววว—-.」
หลังจากพูดด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูไพเราะ โรกะก็หาวออกมาและสบัดหางด้วยท่าทางงัวเงีย ดูท่าจะเหนื่อยน่าดู
ถัดมาก็เป็นสาวน้อยผิวขาวที่อยู่ทางด้านซ้ายของโรกะ อย่างไรก็ตามตอนนี้เธอกำลังม้วนผมสีขาวและจ้องออกไปข้างนอก ผู้อำนวยการที่เห็นท่าทีเช่นนั้นเองก็เอ่ยขึ้น
「เชาวร์ร่า บลันด์เนจ(ภาษาอังกฤษ อ่านแบบนี้) ได้โปรดทักทายเพื่อนรวมชั้นด้วยครับเพราะว่าจะต้องใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันอีกสักพักใหญ่.」
「ไม่เอาอ่ะอยากได้แค่โรกะl… ไม่ก็สาวๆน่ารักคนอื่นๆบางทีนะ」
เป็นคนที่ดูผ่อนคลายน่าดูเลยนะ ดูเหมือนคนอื่นๆก็สังเกตเห็นเช่นเดียวกัน ไม่มีใครตอบกลับเธอ ผู้อำนวยการเองก็ส่ายหัวแล้วให้นักเรียนคนต่อไปแนะนำตัว
「ค่าา ค่าาา! ชื่อลิซนะจ้ะ ก็อย่างที่เห็นเลยเป็นเอลฟ์สาวสุดสวย ดังนั้นก็กรุณาปฏิบัติกับดิฉันให้เป็นอย่างดีด้วยนะคะ! ยิ่งโดยเฉพาะทุกคนที่เป็นนักเรียนทุนด้วยแล้ว! มีโอกาสไม่มากน้าที่จะมีเพื่อนเป็นเอลฟ์สาวสวยเช่นนี้! นี่เธอนะ!」
เธอเหลือบมองมาทางผมแล้ว ขยิบตา วิ้ง วิ้ง
จากนั้นเชาว์ร่าก็ยิงคำถามสุดเด็ดออกมา
「ถามไรอย่างได้มะ?」
「อะไรเหรอจ้ะ?」
「ยังซิงอยู่ป่าวอะ?」
ทั้งห้องเงียบลงทันที บางทีนี่อาจจะเป็นครั้งแรกที่โดนถามอะไรแบบนี้ ยังไงก็ตามด้วยความที่เปรียบเสมือนแม่พระของลิซนั้นเอง ก็ตอบกลับออกไปด้วยท่าทางขี้เล่น
「หืมมมมม.. แล้วคิดว่าไงล่ะจ้ะ? ก็ไม่รู้สินะผู้ชายคนไหนกล้าจะปล่อยสาวสวยแบบนี้อยู่ตัวคนเดียวกันละจ้ะเนอะ…?」
「ไม่เป็นไร ถ้างั้นคืนนี้เดี๋ยวฉันเช็คให้เอง ถ้ายังซิงอยู่ละก็ถ้างั้นก็มาทำเรื่องอย่างว่าอย่าง–.」
ทันใดนั้นเองเชาว์ร่าก็ถูกหางยาวๆฟาดเข้าที่หัวของเธอกระเด็นไปจนกระแทกกับกำแพงห้องเรียน ดูเหมือนว่าจะเป็นหางของโรกะเองที่พุ่งเข้าไปกระแทกเต็มแรงแบบนั้น
「ลิซ เธอน่ะไม่จำเป็นต้องไปฟังยัยหง่าวนั้นพูดเป็นจริงเป็นจังก็ได้นะ」
「หืมมมม… ไม่ปราณีเลยนะ.. จะไม่เป็นไรเหรอจ้ะ? เธอยังสบายดีอยู่ใช่ไหมเนี่ย?」
「ยัยนั่นน่ะงี่เง่ามากๆเลยเพราะฉะนั้นโดนแค่นี้ไม่เป็นไรหรอก ตอนนี้เธอก็แค่ไม่ชินกับสถานการณ์ในตอนนี้เท่านั้นเอง」
「อุฟุฟุ… รู้สึกได้ถึงพลังแห่งรักของโรกะเลยค่าาา… ฟุฟุฟุ」
เชาว์ร่าที่ถูกฝังเข้าไปในกำแพงนั้นกำลังมีเลือดท่วมตัวอยู่ แต่ว่าก็ยังยิ้มออกมาได้ ช่างน่าผิดหวังจริงๆ ถ้าอยู่เงียบๆมาดคลูก็ดูดีกว่านี้แท้ๆ
ผู้อำนวยการลูดิโอ้เองก็บอกให้นักเรียนคนต่อไปแนะนำตัว ดูเหมือนว่าจะเป็นคนที่เพิกเฉยต่อชั้นเรียนมากที่สุดแล้ว
เด็กหนุ่มเผ่ามังกรที่นั่งอยู่แถวท้ายสุดของชั้นเรียนโดยขณะที่วางเท้าไว้ด้านหน้าของโต๊ะพร้อมกับอ่านคัมภีร์อะไรสักอย่าง
「จูเลี่ยน เผ่ามังกร แค่นั้นแหละ」
เป็นการแนะนำตัวที่ตรงไปตรงมา บอกได้ตรงจุดและจบได้ตรงสุดๆ มันแสดงให้เห็นถึงตัวตนของเขาจริงๆนั่นแหละ ทันใดนั้นคีธที่อยู่แถวหน้าสุดก็ยืนขึ้น
「พวกแกทั้งหมดเนี่ย! ช่วยจริงจังกันหน่อยได้ไหมหะ? ที่นี่คือชั้นเรียนอันศักดิ์สิทธิ์นะเว้ย! พวกแกไม่คิดว่าการที่ได้เป็นนักเรียนทุนแล้วมันก็ควรจะจริงจังหน่อยได้ไหมวะ?!」
「จะยังไงก็เถอะ…」
「ก็ไม่ได้สนใจอะไรนี่น่า…หมายถึงมันแย่มากที่ต้องมาอยู่ในห้องเรียนที่มีตัวผู้แสบเหม็นสาบแถวนี้นับประสาอะไรยิ่งกับแกด้วยแล้ว หากแตะต้องโรกะแม้แต่ปลายนิ้วละก็ ถ้าทำแบบนั้นคงจบไม่สวยแน่」
จูเลี่ยนและเชาว์ร่าตอบพร้อมกัน แต่มันก็ยิ่งเพิ่มความไม่พอใจให้คีธเข้าไปอีก
「ฉันไม่คิดด้วยซ้ำว่าฉันจะได้เป็นนักเรียนทุนซักหน่อย…ฉันก็แค่ย้ายมาเรียนที่นี่ ไม่ได้หมายความว่าจะเป็นเพื่อนกันไม่ได้นะ เช่นนั้นก็รู้สึกเป็นเกียรติไว้ซะด้วยละที่ได้เรียนห้องเดียวกับฉันคนนี้」
โรกะก็ยังคงเป็นโรกะ แสดงความเย่อหยิ่งสมกับเป็นเธอดี
「ถ้างั้นก็ขอให้ทุกคนใจเย็นลงก่อนนะจ้ะ ถ้างั้นริวคุ-ไม่ฉันหมายถึงอย่างที่คุณริวพูดนั่นแหละค่ะ พวกเราควรจะทำความเข้าใจกันจ้ะ」
หลังจากที่ลิซพูดคีธก็ได้แต่เกาหัวตัวเองและนั่งลงเงียบๆดูเหมือนคนอื่นๆจะไม่ค่อยมีแรงจูงใจเท่าไรเลยนะ
「เอาล่ะ ถ้างั้นนักเรียนคนสุดท้ายได้โปรดแนะนำตัวเองด้วยครับ」
หลังจากที่ตกตะลึงที่อยู่ๆผู้อำนวยการลูดิโอ้ก็เปลี่ยนเรื่องคุยกระทันหัน ในขณะนั้นเหล่านักเรียนที่ดูไม่มีแรงจูงใจต่างก็มองมาทางนี้ด้วยความตั้งใจเดียวกัน
「อืมมม…..ชื่อของผมคือทีโอดอร์ ผมก็อยากจะเข้ากันได้กับทุกคนนะครับเท่าที่ทำได้ ยินดีที่ได้รู้จักครับ」
「จ้า!จ้าา! ยินดีที่ได้รู้จักน้าาาาาา!」
ลิซพูดเช่นนั้นพร้อมกับปรบมือ
「อุมุ อุมุ ฉันเองก็อยากจะเข้ากันกับนายได้นะ ยินดีที่ได้รู้จัก」
「ทีโอดอร์ ข้าไม่สนใจหรอกนะว่าเมื่อไรจะได้สู้กับแกอีกครั้ง ครั้งต่อไปข้าไม่แพ้แน่」
「หืมมมม? ถ้าอยากจะสู้กับทีโอดอร์ ให้ฉันร่วมด้วยสิ! ให้ฉันได้นำความพ่ายแพ้มาสู่หมอนั่นซะบ้าง!」
ดูเหมือนจะมีคนกระตือรือร้นสองคนเข้ามาหมายหัวผมแล้วแหะ ไม่มีทางเลือกนอกจากจะต้องพูดว่า 「ครั้งหน้า เจอกัน」
เชาวร์น่าแลบลิ้นออกมาและเบือนหน้าหนีผม
จูเลี่ยนเองก็มองมาทางนี้แต่ว่าก็หันกลับไปมองคัมภีร์ในมืออีกครั้ง
คีธ โรกะ เชาว์ร่า ลิซ และ จูเลี่ยน ดูเหมือนจะได้เป็นนักเรียนทุนจริงๆในอนาคตอันใกล้อาจจะเจอพวกนี้มาต่อกรกับผมก็ได้นะ
「ตอนนี้ทุกคนก็แนะนำตัวกันหมดแล้วมีใครอยากจะถามอะไรไหมครับ?」
เงียบบบบ ดูเหมือนว่าจะไม่มีใครอยากจะถามอะไรผมก็เลยถามสิ่งที่สงสัยมาตลอดตั้งแต่เริ่ม
「เอ่อ ถ้างั้นผมมีคำถาม เมื่อผมจบจากที่นี่แล้วก็ต้องไปเป็นทหาร แต่ว่าจะกลายเป็นผู้กล้าได้ไง?」
ทุกๆคนต่างจับจ้องมาที่ผมอีกครั้ง นั่นเป็นสิ่งที่ผมให้ความสนใจมากที่สุดแล้ว
「พูดถึงผู้กล้างั้นเหรอ…」
「ก็เรื่องนั้นไง ที่ในจักรวรรดิจะต้องยกย่องบุคคลที่เป็นที่เชิดหน้าชูตาในฐานะผู้กล้าและไปปราบราชาปีศาจของประเทศเผ่าปีศาจเทเลเบลย์ไง!」
เป็นอีกครั้งที่ทั้งห้องเงียบกริบ
หืมมมม? พูดไรผิดไปงั้นเหรอ? ไม่นี่น่าแต่นั้นเป็นสิ่งที่ผมอยากรู้จริงๆ รีบๆโผล่ตัวมาได้แล้วพวกผู้กล้าจะต้อนรับอย่างดีเลยน่าาาถ้ามาอะ?
จัดงานเลี้ยงก่อนไฝว้ก็ได้น่าาาา
แม้ว่าจะไม่เก่งมากแต่ก็อยากให้ได้เป็นผู้กล้านะ หมายถึงคาดหวังมากเลยล่ะจะฝึกให้อย่างดีเลย
「ผู้กล้างั้นเหรอ…จะพูดถึงเรื่องนั้นไปอีกนานแค่ไหนกันเชียว นี่มันผ่านมานานมากแล้วนะ?」
จูเลี่ยนที่แทบไม่ได้พูดเลยก็พูดออกมาด้วยน้ำเสียงหนักใจ
「นี่มันกี่ปีผ่านมาแล้วนะ…」
「นี่มันก็ผ่านมามากกว่า 500 ปีแล้วนะตั้งแต่ที่ผู้กล้าถูกส่งออกไป นั่นหมายความว่ามันเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ไงล่ะ?」
「ก็ใช่ ที่อาจจะไม่ได้กลับมาแต่จะปล่อยราชาปีศาจไว้เช่นนั้นเหรอ? ไม่อันตรายรึไง? ทุกคนโอเคกับเรื่องแบบนี้เหรอครับ?」
ผมพูดแบบนั้นเพื่อปลุกใจพวกเขา แต่ปฏิกิริยากลับตรงกันข้าม
เป็นทางโรกะที่เอ่ยปากขึ้น
「พวกปีศาจงั้นเหรอ ก็รู้อยู่หรอกว่าอยู่ทางตะวันตกของจักรวรรดิ แต่ว่ามันไม่มีอะไรเกิดขึ้นนี่ ปล่อยไว้เป็นแบบนั้นก็ไม่เห็นเป็นไรเลย」
「เอ่อ ฉันหมายถึงราชาปีศาจ จ้าวปีศาจนั่นอะนะ? มันก็มีอะไรแบบนั้นอยู่ในเผ่าปีศาจไม่ใช่หรือยังไง นี่มันก็ 500 ปีแล้วใช่ไหมล่ะ? ไม่ใช่ว่าตายไปหมดแล้วงั้นเหรอคิดว่างั้นนะ?」
เชาว์ร่า ผมก็ยืนอยู่ตรงหน้าเธอนี่ไง ผมยังไม่ตายเว้ย แม้ว่าโดนพูดแบบนั้นจะเจ็บจิ๊ดขึ้นมาก็เถอะ
จากนั้นเองผมก็ไปหาคีธซึ่งดูเหมือนจะเป็นคนจริงจังที่สุด
「แล้วนายว่าไงล่ะคีธ? ไม่ได้อยากไปปราบมันหรอกเหรอ?」
「โอ้ออ….เอ่อ นั่นก็เป็นเรื่องจริงที่ 500 ปีเคยเกิดเรื่องแบบนั้นขึ้น ตั้งแต่นั้นมามันก็มีการปะทะกันเพียงเล็กน้อยที่แทบชายแดนเอง แต่ว่าไม่มีสงครามใหญ่ๆอะไรเลยใช่ไหมล่ะ?」
「เอ่อ นั่นก็จริงนะ」
หือออ นั่นสินะเหตุผลที่อธิบายได้ว่าทำไมมันถึงได้น่าเบื่อแบบนี้
「ในสถานการณ์เช่นนี้การส่งผู้กล้าไปต่อกรกับราชาปีศาจเป็นเรื่องไร้สาระมาก แต่ปัญหาอื่นๆนั้นที่เป็นกังวลมากกว่าก็คือปํญหาประเทศทางอนเหนืออาณาจักรมังกรซีนัน ซึ่งต่อสู้กันมาหลายปีมากก็ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป」
อืมมม…ราชาปีศาจไม่ได้เป็นภัยคุกคามสำหรับพวกมนุษย์เลยสินะ
ผมเลยหันไปมองลิซ
「ฉันเองก็เห็นด้วยกับคีธคุงนะ? มันเป็นเวลากว่า 100 ปีแล้วที่อาณาจักรเซฟุเต้ อาเรีย ได้ก่อตั้งพันธมิตรระหว่างจักรวรรดิ ในขณะนั้นเองก่อนหน้านั้นก็มีความสัมพันธ์ทางการฑูตที่ค่อนข้างแย่มาก แถมยังมีคนที่ไม่ค่อยชอบเอลฟ์มากด้วย แม้ว่าเราจะใช้ชีวิตอย่างสงบสุขก็ตาม ดังนั้นฉันจึงคิดว่าควรกังวลเกี่ยวกับเรื่องอื่นมากกว่าเพราะว่าปีศาจไม่ได้ทำอะไรไม่ดีเลย」
สุดท้ายก็หันไปหาที่พึ่งสุดท้ายผู้อำนวยการลูดิโอ้ ซึ่งตอบอะไรไม่ได้เลย
「อืมมมม ก็อย่างที่ทุกคนพูดไปแล้วนั่นแหละครับ.」
「ผม หมายถึงผู้กล้าถูกส่งตัวออกไปไม่กี่ครั้งเองนะครับ? ไม่มีความคิดอยากจะแก้แค้นหรืออะไรทำนองนั้นเลยเหรอครับ?」
「ก็อย่างที่พูดไปก่อนหน้านี้วิธีคิดมันเก่าเกินไปแล้ว จะเป็นอย่างไรถ้าผู้กล้าเมื่อ 500 ปีก่อนแพ้ล่ะ? มีผลกระทบอะไรกับนายงั้นเหรอหรือจะบอกว่านั่นเป็นญาติห่างๆอะไรของนายประมาณนั้นงั้นเหรอ ถ้าเป็นแบบนั้นก็เข้าใจได้ แต่..」
「อะเอ่อ ไม่ครับไม่ใช่เลย」
แบนนี้ไม่ดีแน่ ทุกคนเงียบไปเลย
จากนั้นโรกะก็โผล่เข้ามาพร้อมกับปล่อยหมัดเด็ด
「ในทางตรงกันข้ามแล้ว ทีโอนายน่ะอยากจะไปปราบราชาปีศาจงั้นเหรอ?」
ไม่เฟ้ย ไม่ได้อยากจะปราบตัวเอง ก็แค่อยากให้พวกเธอลองมาปราบฉันบ้างงง
จูเลี่ยนหัวเราะเบาๆ
「แน่นอนว่าไม่ใช่ยังงั้นเหรอ เพราะหมอนั่นก็ผ่านบททดสอบทั้งสามเหมือนกับผู้กล้าด้วยนี่?」
「จริงอะ? ไม่เห็นรู้มาก่อนเลยว่ามีเรื่องแบบนั้นด้วย ทีโอแกอยากเป็นผู้กล้างั้นเหรอ? ถ้าเป็นเช่นนั้นข้าจะสนับสนุนเจ้าเอง แกเองก็แกร่งใช่ย่อย ถ้าเป็นแกข้าก็คิดว่าทำได้」
คีธพูดเช่นนั้น
「แน่นอนแม้ว่าจะได้รับการยกย่องให้เป็นผู้กล้าในตอนนี้ แต่คู่ต่อสู้ตอนนี้คืออาณาจักรมังกรซีนัน บางคนที่ถูกเรียกว่าผู้กล้าก็ต้องไปสู้แบบนั้นเช่นกันนะ.」
「……พอได้แล้วครับ……」
ผมนั่งลงราวกับหมดอาลัยตายอยาก