[นิยายแปล]กาวฮีล - ตอนที่ 57
Ch.57 – อัปจนหนทาง
Provider : บอสคงไม่ตายง่ายหรอก
Chapter 11 อัปจนหนทาง
—มุมมองราอุส—
「อึกกก!」
บอลเพลิงปรากฏขึ้นตรงหน้าผม
ผมหลบโดยการกระโดดไปด้านข้าง
เอาจริงๆแล้วก็หลบได้ไม่พ้นทั้งหมด
บอลเพลิงพุ่งผ่านขาผมไปจนไหม้เกรียมเล็กน้อย ความเจ็บปวดเริ่มแล่นผ่าน
โดยเมินความเจ็บปวดเหล่านั้นผมถีบตัวออกมาจากพื้นเขาวงกต
แม้ว่าจะเผาไปเพียงเล็กน้อย แต่นี่มันคือเปลวเพลิงของนกฟีนิกซ์ที่มีความยากระดับสูงมากแล้ว
โดยปกติแล้วคงไม่แปลกที่ขาของผมจะใช้งานไม่ได้อีก
แต่อย่างไรก็ตามร่างกายของผมต้อนนี้ใส่อุปกรณ์เวทย์ต้านธาตุไฟที่สร้างขึ้นมาเอง
ตราบใดแค่มันเป็นการแฉลบมันก็ไม่มีปัญหาอื่นใดนอกจากความเจ็บปวดที่แล่นเข้ามา
อันที่จริงคราวนี้ต้องขอบคุณอุปกรณ์เวทย์นั่นละ
ถึงกระนั้นไม่สามารถจะพึ่งพาอุปกรณ์เวทย์เหล่านั้นได้ตลอดไป
เพราะเป็นแค่อุปกรณ์ มันก็มีวันที่จะถูกทำลายได้เหมือนกัน
เอาง่ายๆคือมีข้อจำกัดในการใช้งานว่าจะทนได้กี่ครั้งเท่านั้นเอง
นอกจากนี้มันไม่ช่วยอะไรหากผมโดนเข้าไปเต็มๆ
เมื่อผสานกับเวทย์รักษาของไลลาซัง ผมก็สามารถกันไฟได้ในระดับหนึ่ง แต่ก็มีขีดจำกัด
…เมื่อทราบถึงข้อจำกัดเหล่านั้น ความกดดันมันก็มากขึ้นตาม
「ราาาา─────กกก!」
「ฮึ่ก โอ้ววววววววววววว!!!!」
ตอนนี้ผมค่อนข้างกังวลหน่อยๆเนื่องจากสู้โดยไม่ได้ใช้ตรวจจับเวทย์ ซึ่งนั่นเป็นอะไรที่ค่อนข้างเสียเปรียบ
ขณะที่หลบเลี่ยงบอลเพลิงด้วยการกระโดดพร้อมกับวิ่งไปรอบๆผมก็วิเคราะห์สถานการณ์
ตอนนี้ผมไม่ได้ใช้ตรวจจับเวทย์ และกำลังหลบการโจมตีของนกฟีนิกซ์ด้วยการใช้เสริมแกร่งร่างกายและคิเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
ผมไม่สามารถใช้เวทย์ตรวจจับได้เพราะมันใช้สมาธิอย่างมากในการหลบการโจมตีนกฟีนิกซ์ ตอนนี้จำเป็นต้องเปิดใช้และมันเพิ่มภาระอย่างมาก
โชคดีที่เหมือนว่าการตรวจจับเวทย์จะไม่จำเป็นเท่าไรเมื่อต่อสู้กับนกฟีนิกซ์
ในทางตรงกันข้ามการตรวจจับเวทย์อาจจะไม่เหมาะกับการใช้กับนกฟีนิกซ์เพราะมันอยู่นอกระยะด้วย
แต่การไม่ใช้ตรวจจับเวทย์พร้อมกับล่อมันไปทั้งแบบนี้ทำให้สะดวกกว่าเยอะ หากใช้จะเป็นการเพิ่มภาระให้กับผมอีกต่างหาก
「ราาาาา───」
「ฮึย๊ากกกห์!」
ความเจ็บปวดแล่นเข้ามาขณะที่ผมกระโดดไปด้านหน้าด้วยพละกำลังทั้งหมดเพื่อหลบบอลเพลิง และตอนนี้เองผมก็ปลดเวทย์ตรวจจับออก
จนถึงตอนนี้ผมหลบโดยใช้ระยะเฉียดฉิวเสมอ
แต่คราวนี้ผมเคลื่อนไหวหลบแบบเกินเบอร์ไปมาก
หากไม่มีการตรวจจับเวทย์ผมก็ไม่รู้ว่าจะหลบได้สำเร็จรึเปล่า ดังนั้นผมจึงเคลื่อนไหวโดยไม่จำเป็น
「แฮ่ก แฮ่ก-」
…ผลลัพธ์ก็คือทำให้ผมเหนื่อยล้ามากกว่าเดิมทั้งทางกายและใจกว่าที่คิด
จนถึงตอนนี้ไม่รู้ว่ายื้อเวลาไปได้มากแค่ไหนแล้วเพื่อต้องรักษาสภาพนี้เอาไว้
แต่ถึงกระนั้นเปลวไฟแห่งนักสู้ก็ยังคงลุกโชนอยู่ในตัวผม
「《แอเรีย ฮีล(Area Heal)》」
พร้อมกับน้ำเสียงอันแสนไพเราะของไลลาซังอาการบาดเจ็บของผมก็หายเป็นปลิดทิ้งและความเหนื่อยล้าก็หายไปเล็กน้อย
เนื่องจากความล้าทางกายในปัจจุบัน ความล้าทางกายที่ถูกฟื้นฟูขึ้นมานิดหน่อยก็เป็นเหมือนยาปลอยใจ
ยังไงก็ตาม แต่ว่า《แอเรีย ฮีล》 นั้นช่วยรักษาอาการล้าทางใจได้ด้วย
ความเข้ากันได้ระหว่างผมกับนกฟีนิกซ์คือเข้าขั้นระยำ
มันลำบากกว่าไฮดร้ามากก่อนที่มันจะกลายพันธุ์เสียอีก
ถึงกระนั้นผมก็เต็มไปด้วยแรงจูงใจแห่งนักสู้หากเทียบกับตอนนั้น
การปรากฏตัวของเหล่าสหายแสนสำคัญที่เป็นตัวจุดประกายไฟให้ผม
ดังนั้นจึงยิ้มพร้อมกับคว้ามีดสั้นไว้ในมือ ผมโยนดาบใหญ่ที่หลอมละลายไปทิ้งไว้กลางทาง
「ราอุส ถอยมาได้แล้ว!」
ณ ตอนนั้นเอง เสียงของซีคก็ดังขึ้น
ทันทีที่ได้ยินก็เข้าใจได้ทันทีถึงสิ่งที่ซีคพยายามจะสื่อเวทย์ของอาร์เมียพร้อมแล้ว
ผมไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานแค่ไหนเนื่องจากความรู้สึกของผมมันจมปลักอยู่กับการต่อสู้
ครู่หนึ่งที่ผมรู้สึกโล่งใจเมื่อทำในส่วนของผมเสร็จแล้วนั้น
「ราาาาาาาา────!」
「—!」
แต่ในเวลาต่อมาผมก็ตระหนักได้ถึงบางสิ่ง ใบหน้าผมก็ถึงกับตึงขึ้นมาทันที
…ไม่ใช่เพียงแค่ผมที่ตระหนักถึงเวทย์ของอาร์เมีย
ฟีนิกซ์เองหมดความสนใจในตัวผมแล้ว
ในตอนท้ายสายตาของอาร์เมียนั้นคือการที่เธอเริ่มหลับตาพร้อมกับตั้งสมาธิ
เมื่อมองไปเช่นนั้น ก็ตระหนักได้ถึงเวทย์ของอาร์เมียจริงๆ
ยังไม่ชัดเจนว่าเจ้านกฟีนิกซ์มันตื่นตัวต่อเวทย์แค่ไหน แต่ดูเหมือนว่าตอนนี้มันจะรู้ตัวแล้วว่าเวทย์ใกล้เสร็จสมบูรณ์
อย่างไรก็ตามไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดมันตระหนักถึงเวทย์ของอาร์เมียแล้ว
「ราาาาาาาาาา───────!」
ฟีนิกซ์ส่งเสียงคำรามแห่งความโกรธไปยังอาร์เมีย
ฟีนิกซ์นั้นสังเกตถึงไพ่ตายของเราแล้ว ที่เราพยายามซ่อนไว้จนวินาทีสุดท้าย
「ด้วยสิ่งนี้ พวกเราก็จะชนะ…」
แต่ถึงอย่างนั้นผมก็หัวเราะออกมา
ผมมั่นใจว่าชัยชนะของเราน่ะมันแน่นอนแล้ว
ท้ายที่สุดแล้ว ท่าทางของมันตอนนี้ก็เรียกได้ว่าอาจจะเป็นสิ่งเลวร้ายที่สุดที่สามารถทำได้
ระหว่างเจ้านกฟีนิกซ์และอาร์เมียนั้นมีร่างของซีคและนาร์เซน่าอยู่
สถานการณ์ก่อนหน้านี้อาจเปลี่ยนไปหากมันรู้ตัวไวกว่านี้
แต่อย่างไรก็ตามไม่ว่ามันจะยิงลูกไฟมามากเท่าไรก็ไม่สามารถเข้าถึงตัวอาร์เมียได้
เวทย์ของอาร์เมียจะเสร็จก่อนที่มันจะเกิดขึ้นเสียด้วยซ้ำ
ในทางกลับกันการกระทำของเจ้านกฟีนิกซ์ช่างไร้ค่า
และอีกประการหนึ่งนกฟีนิกซ์มันมองข้ามสิ่งสำคัญที่ยิ่งใหญ่ไป
บางทีเจ้านกฟีนิกซ์โฟกัสไปที่อาร์เมียจนเกินเหตุโดยมันไม่ได้สนสิ่งอื่นเลย
ด้วยสถานการณ์เช่นนี้ ผมจึงพูดออกมาพร้อมกับยกดาบใหญ่ที่ขว้างออกไป พร้อมกับวิ่งไปรอบๆ
「มันลืมตัวไปซะสนิทเลยนะเนี่ย ใครกันที่สร้างบาดแผลขนาดใหญ่ไว้บนร่างของแก แกลืมไปแล้วสินะ…」
ตอนนั้นเองมันก็เลิกสนใจผมแล้ว
นั่นเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำเลยแม้แต่น้อย
แม้ว่าผมพยายยามจะหยิบดาบใหญ่ แต่มันก็ไม่ได้มองมาทางนี้
ดูเหมือนว่าจะมีบาดแผลใหญ่ฝังลึกลงไปในร่างกายของมัน แต่มันก็ไม่สนใจอยู่ดี
ด้วยสถานการณ์นี้ผมสามารถโจมตีมันได้
หลังจากตระหนักได้เช่นนั้นผมก็ยกดาบใหญ่ขึ้น
ใบมีดของดาบใหญ่นั้นถูกหลอมละลายจนโค้งมน
ใบมีดตอนนี้ค่อนข้างบางอย่างถึงที่สุด
แต่ถึงอย่างนั้นก็น่าจะฟันได้อีกสักรอบ
หลังจากพิจารณาได้เช่นนั้นผมก็ใช้เวทย์เสริมพลังกายด้วยเวทย์และคิพร้อมกับจับด้ามดาบใหญ่กลับด้าน แล้วยกขึ้นมา
「ฮ่าาาาาาาาาาาาห์!」
และผมก็เขวี้ยงมันไปยังนกฟีนิกซ์
ดาบใหญ่มุ่งหน้าตรงเข้าไปหานกฟีนิกซ์
「ราากกกกกกกก────กว๊ากกกกก!?」
และฟีนิกซ์ที่สังเกตเห็นก็ยิงไฟบอลมายังทางดาบ
ฟีนิกซ์หยุดยิงบอลเพลิงพร้อมกับพยายามเอี้ยวตัวหลบดาบใหญ่
…แต่ว่ามันสายเกินไป
「กร๊ากกกกกกกกกกกกกก !?」
วินาทีต่อมาดาบใหญ่ก็เจาะทะลุเข้าไปฝังในร่างกายของนกฟีนิกซ์ มันคำรามก้องด้วยความเจ็บปวด
「จิตวิญญาณแห่งวารีเอ๋ย จงอวยพรแด่นางผู้นี้ด้วยเถิด!」
ในขณะนั้นเองเวทย์ของอาร์เมียก็เสร็จสมบูรณ์
เพื่อตอบสนองต่อคำร่ายสุดท้ายของอาร์เมียน้ำจำนวนมากก็ปรากฏตัวขึ้นและกลืนร่างของนกฟีนิกซ์
สำหรับน้ำปกติแล้วคงไม่สามารถละลายเกราะเปลวเพลิงได้
น้ำมันจะระเหยก่อนที่จะทำอะไรได้ซะอีก
แต่เวทย์ของอาร์เมียไม่ใช่เวทย์น้ำธรรมดา
มันถอดเกราะเปลวเพลิงก่อนที่น้ำจะทันระเหยซะอีก
「กร๊วกกกกก────!」
ฟีนิกซ์อาละวาดไปทั่วพร้อมพยายามสลัดน้ำออกจากตัว แต่ว่าไร้ซึ่งความหมาย
หลายสิบวินาทีต่อมาเกราะเปลวเพลิงก็ถูกปลดออก
เมื่อเห็นภาพเกราะเปลวเพลิงถูกปลดออกไปแล้วชัยชนะของเราก็ถูกยืนยัน
「ราาาาาาาาาาาาาาวกกกกกกก」
ไม่ว่าเกราะเปลวเพลิงจะทรงพลังเพียงใด มอนสเตอร์ที่มีความยากสูงพิเศษก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ที่สามารถวางใจได้หลังจากปิดผนึกความสามารถมันแล้ว
การต่อสู้กับศัตรูความยากสูงที่สุดหมายถึงต้องระวังจนถึงจุดจบของมัน
…ถึงกระนั้นสภาพของเจ้านกฟีนิกซ์มันจะตายแหล่ไม่ตายแหล่แล้ว เราไม่คิดว่าเราจะแพ้ด้วยซ้ำ
ภายใต้เกราะเพลิงนั้นยังมีแผลลึกถึงสองแผล
แผลแรกจากตอนเริ่มสู้แล้วอีกแผลจากตอนที่มันไม่ระวังตัว
ผมไม่รู้ตัวเพราะตอนนั้นมีเกราะเพลิงบังอยู่ แต่ตอนนี้มันบาดเจ็บสาหัส
มันลึกมากจนถึงขนาดที่ว่านกฟีนิกซ์ที่มีความสามารถในการฟื้นฟูกว่ามอนสเตอร์ตัวอื่นๆก็ยังฟื้นฟูไม่ทัน
แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ยังคงสู้อย่างหมดหวัง
ดูเหมือนว่ามันจะถึงลิมิตของมันแล้ว
ผมรู้ว่านกฟีนิกซ์ไม่สามารถจะยิงลูกไฟต่อไปได้อีกแล้ว
「มันคงจะโหดร้ายเกินไปหากลากยาวการต่อสู้นี้」
ซีคเองก็ได้ข้อสรุปเช่นเดียวกับผม?ซีคถือดาบเวทย์ขนาดใหญ่และเดินไปยังนกฟีนิกซ์
ผมเดาว่าเขาเองอยากจะปิดฉากนกฟีนิกซ์นี่ให้มันจบไป
เมื่อเห็นเขาเช่นนั้นผมก็คิดว่าคงถึงจุดจบของมันแล้ว
โดยปกติแล้วระยะเวลาการต่อสู้กับมันในตอนนี้ถือว่าสั้นมาก
อย่างไรก็ตามอาจเป็นเพราะการดึงความสนใจของนกฟีนิกซ์มาอย่างยาวนานทำให้ร่างกายของผมล้าอย่างหนัก
แต่ว่านี่คงจะเป็นจุดจบของเจ้านกฟีนิกซ์แล้ว
ใช่แล้ว ในขณะที่ผมกำลังถอดใจจากมันนั่นเอง……
「ราาาาาาาาา──────กว๊ากกกกกกกกกก!」
「………อั่ก-!」
…อย่างไรก็ตามช่วงเวลาต่อมาผมก็ต้องตกใจเพราะร่างกายของซีคถูกผลัดปลิวมาพร้อมกับดาบเวทย์ของเขา
「…………หืออออออ?」